โป๊ปฟรังซิส: "พระเจ้ารักคนบาปที่สำนึกมากกว่านักบุญจอมปลอมที่แสร้งทำตัวศักดิ์สิทธิ์"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พระเจ้าทรงรักคนบาปที่สำนึกผิด มากกว่าพวกนักบุญจอมปลอมที่เสแสร้งทำตัวศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่เคยสำนึกในบาปผิดที่ตนเองทำ ทรงชี้ การชำระสิ่งโสโครกออกจากจิตใจต้องทำด้วยการเรียนรู้ที่จะทำแต่สิ่งถูกต้อง เพราะนี่คือหนทางของความดี และนี่ยังเป็นหนทางของการกลับใจที่แท้จริงด้วย



ช่วงเช้าวันอังคารที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประมิสซานี้จากหนังสือประกาศกอิสยาห์ ท่านสอนผู้มีอำนาจปกครองในเมืองโซโดมและประชาชนในเมืองโกโมราห์ให้ฟังเสียงของพระเจ้า เลิกทำความชั่วแล้วหันมาทำความดี พระเจ้าทรงกล่าวกับทุกคนว่า ให้มาพิจารณาบาปกับพระองค์ ถ้ามนุษย์เชื่อฟัง จะได้กินผลดีของแผ่นดิน แต่ถ้าเป็นกบฏ จะต้องเป็นเหยื่อของคมดาบ ส่วนพระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสอนบรรดาศิษย์ว่า ถ้าฟาริสีสอนเรื่องใด จงทำตามเขา แต่อย่าปฏิบัติตามพฤติกรรมของเขา เพราะคนพวกนี้ชอบยัดเยียดภาระหนักไว้บนบ่าคนอื่น แต่ตัวเองไม่คิดจะไปช่วยยกแม้แต่น้อย

พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนแบ่งปันว่า "บทอ่านแรก พระเจ้าทรงเชิญชวนเราทุกคนแบบเด็ดขาดว่าให้มาหาพระองค์ พระเจ้าทรงสั่งให้เลิกทำความชั่ว และจงเรียนรู้ที่จะทำความดี จงให้ความเป็นธรรมแก่ลูกกำพร้าและจงปกป้องหญิงม่าย รวมถึงคนที่ไม่มีใครคิดถึง ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ยังรวมถึงบรรดาผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้ง เด็กๆ ที่ไม่ได้รับการศึกษา และคนที่ไม่รู้จักพระเจ้าไม่รู้วิธีการทำเครื่องหมายสำคัญมหากางเขน คำเชิญของพระเจ้านั้นคือการเชิญเราทุกคนให้กลับใจ

"ว่าแต่ เราจะกลับใจได้อย่างไร คำตอบคือจงเรียนรู้ที่จะทำแต่สิ่งที่ถูกต้องไง! การกลับใจนั้น พวกท่านไม่สามารถชำระล้างสิ่งโสโครกออกจากจิตใจเหมือนที่ท่านชำระล้างสิ่งสกปรกต่างๆ ด้วยการนำไปตากแดดให้แห้งแล้วปล่อยให้มันสะอาด ความโสโครกในจิตใจจะถูกชำระล้างด้วยการลงมือปฏิบัติแนวทางการดำเนินชีวิตที่ต่างออกไป แนวทางการดำเนินชีวิตที่แตกต่างไปจากหนทางของความชั่ว นั่นคือ จงเรียนรู้ที่จะทำแต่สิ่งถูกต้อง นี่คือหนทางของการทำความดี

"เราจะทำความดีได้อย่างไรกัน? มันง่ายมาก! ก็แค่แสวงหาความยุติธรรม ให้กำลังใจผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง ปกป้องผู้กำพร้า และช่วยเหลือหญิงม่ายทั้งหลาย จงระลึกไว้ว่า ในอิสราเอล คนยากจนที่สุดและต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดคือลูกกำพร้าและหญิงม่าย จงสร้างความยุติธรรมให้พวกเขา จงไปช่วยเยียวยาบาดแผลมนุษยชาติ ณ ที่นั่น มีบาดแผลมากมายที่รอการรักษา อาศัยการทำสิ่งเหล่านี้ ท่านก็กำลังทำความดี ท่านจะชำระล้างหัวใจของตัวเองให้ใสสะอาด

"การชำระหัวใจให้ใสสะอาดจะได้รับพระสัญญาแห่งการให้อภัยจากพระเจ้า พระเจ้าไม่จดจำบาปของคนที่รักเพื่อนพี่น้องด้วยใจจริง ถ้าท่านทำเช่นนี้ ถ้าท่านทำตามที่พ่อเชิญชวนท่านให้ลงมือทำ พระเจ้าจะตรัสกับพวกเราว่า 'แม้บาปของเจ้าจะเป็นสีแดงเหมือนผ้าสีเลือดหมู มันก็จะขาวเหมือนหิมะ มันดูเหมือนพูดเกินจริง พระเจ้าทรงทำให้มันดูเกินจริง แต่นี่คือเรื่องจริง! พระเจ้าทรงมอบพระพรแห่งการอภัยโทษของพระองค์มายังเรา พระเจ้าทรงให้อภัยเราอย่างใจกว้างสุดๆ

"ส่วนพระวรสารวันนี้ เป็นเรื่องความเสแสร้งของพวกฟาริสีและธรรมาจารย์ พวกเขาสอนแต่เรื่องที่ถูกต้องทั้งนั้น แต่เวลาปฏิบัติตน พวกเขาทำตรงกันข้ามตลอด พวกเราทุกคนเฉลียวฉลาดและมักจะมองหาหนทางที่ไม่ถูกต้องอยู่เสมอ เราชอบแกล้งทำตัวเป็นผู้ทรงศีลมากกว่าที่เราเป็น นี่คือหนทางของการเสแสร้งเหมือนกัน

"ฟาริสีแกล้งทำเป็นกลับใจ แต่หัวใจของพวกเขาโกหก พวกเขาคือคนหลอกลวง มันโกหกชัดๆ หัวใจของที่หลอกลวงไม่ได้เป็นของพระเจ้า แต่มันเป็นของเจ้าแห่งการโกหกซึ่งก็คือซาตาน นี่คือความศักดิ์สิทธิ์จอมปลอม พระเยซูทรงรักคนบาปที่ตระหนักถึงความผิดพลาดของตน มากกว่าพวกคนเสแสร้งและนักบุญจอมปลอมที่ดูแกล้งทำดี แต่หัวใจหลอกลวง

"เพราะอะไร ก็เพราะคนบาปจะพูดเสมอว่า 'พระเจ้า โปรดไปจากข้าพเจ้าเถิด เพราะข้าพเจ้าเป็นคนบาป' ครั้งหนึ่ง นักบุญเปโตรเคยพูดแบบนี้กับพระเยซู แต่พวกคนเสแสร้งเหล่านั้นไม่เคยพูดเลย พวกนั้นพูดแต่ว่า 'ขอบคุณพระเจ้า ข้าพเจ้าไม่ใช่คนบาป ข้าพเจ้าคือผู้ชอบธรรม' ดังนั้น ในสัปดาห์ที่สองของเทศกาลมหาพรต เรามีคำพูด 3 คำที่ต้องคิดถึง นั่นคือ การเชิญชวนให้กลับใจ, พระพรที่พระเจ้าทรงมอบให้เราซึ่งก็คือการให้อภัยอันยิ่งใหญ่ และกับดักที่ล่อลวงเรา นั่นคือ การเสแสร้งทำเป็นกลับใจ อันจะทำให้เราเลือกทางเดินของการเสแสร้งหลอกลวง" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments