โป๊ปฟรังซิส: "ก้าวแรกของการเป็นคริสตชนคือต้องตัดสินตัวเอง ไม่ใช่ตัดสินคนอื่น"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ก้าวแรกของการเป็นคริสตชนคือต้องหัดตัดสินตัวเองว่าทำถูกหรือผิด ไม่ใช่ไปตัดสินคนอื่น ทรงสอน เราต้องรู้จักกล่าวโทษตัวเอง ทรงชี้ มนุษย์ชอบหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองว่าไม่ผิด และชอบทำหน้าไร้เดียงสาว่าเราไม่ได้ทำผิดอะไร ทรงเตือน การอิจฉาจะทำให้เราพูดจาใส่ร้ายคนอื่นและลอบฆ่าเขาทางศีลธรรม



ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประมิสซานี้จากหนังสือประกาศกอิสยาห์ ท่านได้วอนขอพระเจ้าโปรดอภัยโทษแก่มนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นคนบาปที่ได้กบฏต่อพระเจ้า

พระสันตะปาปาทรงกล่าวสอนว่า "บทอ่านแรกเน้นเรื่องความเมตตา พวกเราทุกคนเป็นคนบาป นี่ไม่ใช่หลักการ แต่มันเป็นความจริง สำหรับคริสตชนแล้ว ความสามารถในการตัดสินตัวเองถือเป็นความดีตามแบบคริสตชน มันเป็นมากกว่าคุณธรรม นี่คือก้าวแรกสำหรับคนที่ต้องการจะเป็นคริสตชน

"พวกเราทุกคนเป็นเจ้าของการหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง เราชอบพูดว่า 'ไม่ มันไม่ใช่เรา มันไม่ใช่ความผิดของเรา' พวกเราทุกคนมีความสามารถที่จะหาเหตุผลมาอธิบายข้อบกพร่องและบาปของเรากันทั้งนั้น และบ่อยครั้ง เราก็ชอบปั้นหน้าว่า 'เราไม่รู้เรื่อง' ปั้นหน้าที่สื่อว่า 'เราไม่ทำนะ บางทีคนอื่นต่างหากที่ทำ' มันคือการทำหน้าไร้เดียงสา นี่ไม่ใช่หนทางที่นำไปสู่ชีวิตคริสตชน

"มันง่ายนะที่จะต่อว่าคนอื่น แต่บางสิ่งที่ต่างออกไปจะเกิดขึ้น ถ้าเราพยายามที่จะปฏิบัติตนต่างออกไป เช่น ถ้าเราเริ่มมองสิ่งที่เราทำ แล้วรู้สึกทันทีว่าเราทำผิดพลาด เรารู้สึกขยะแขยงสิ่งที่ทำลงไป สิ่งนี้จะมอบสันติและทำให้เราสมบูรณ์ยิ่งขึ้น อาทิ เมื่อเรารู้สึกอิจฉาในใจและเรารู้ว่า การอิจฉานี้สามารถทำให้เราพูดจาให้ร้ายคนอื่นและลอบฆ่าคนอื่นทางศีลธรรม สิ่งนี้คือปรีชาญาณของการตัดสินตนเอง ถ้าเราไม่เรียนรู้ว่านี่คือก้าวแรกในชีวิต เราก็จะไม่มีวัน ไม่มีทางที่จะก้าวต่อๆ ไปบนหนทางของชีวิตคริสตชนและชีวิตฝ่ายจิตได้เลย

"ก้าวแรกในชีวิตคริสตชนคือต้องรู้จักตัดสินตัวเอง ไม่ต้องตัดสินโดยการพูดดังๆ แต่จงพูดระหว่างตัวเรากับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตนเอง

"เมื่อเราเดินบนถนนและผ่านเรือนจำผู้ต้องขัง เราพูดว่า 'ถูกแล้ว พวกเขาสมควรติดคุก' พ่อก็จะถามว่า 'คุณรู้ไหม ถ้าไม่ใช่เพราะพระหรรษทานของพระเจ้า คุณก็อาจไปอยู่ในนั้นก็ได้ คุณเคยคิดไหมว่า คุณก็สามารถทำแบบที่พวกเขาทำลงไปเหมือนกัน บางที อันทำได้เลวร้ายกว่าด้วยซ้ำไป' นี่คือการตัดสินตนเอง มันไม่ใช่การปกปิดรากเหง้าของบาปที่อยู่ในตัวเรา มีหลายอย่างร้ายๆ ที่เราสามารถทำได้ แม้เราจะไม่เห็นมันก็ตาม

"อีกคุณความดีที่พ่ออยากเน้นย้ำคือการรู้สึกผิดต่อหน้าพระเจ้า นี่คือรูปแบบของการพูดคุยกับพระเจ้าที่เราตระหนักถึงความผิดจากบาปของเราและมาขอรับพระเมตตาจากพระเจ้า ในเทศกาลมหาพรตนี้ มันเป็นการดีกับเราทุกคนที่จะพูดคุยกับพระเจ้า หัดรู้จักกล่าวโทษตัวเองและวอนขอพระเมตตาจากพระเจ้า

"ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสอนบรรดาศิษย์ว่า 'จงมีเมตตาเหมือนพระบิดาที่ทรงเมตตาท่าน' เมื่อเราเรียนรู้ที่จะโทษตัวเองก่อน เราก็มีเมตตากับคนอื่น

"พระเยซูสอนว่า 'อย่ากล่าวโทษเขา' ดังนั้น จงเลิกตัดสินคนอื่นแล้วท่านจะไม่ถูกตัดสิน จงเลิกต่อว่าคนอื่นแล้วท่านจะไม่ถูกต่อว่า จงให้อภัยแล้วท่านจะได้รับการอภัย ดังนั้น ในเทศกาลมหาพรต ขอพระเจ้าประทานพระหรรษทานให้เราเรียนรู้ที่จะตัดสินตัวเอง ขอพระองค์ประทานพระเมตตาแก่เรา ขอพระเจ้าช่วยเราให้รู้สึกผิดต่อบาปที่ทำ และประทานพระเมตตาเพื่อเรา เพื่อที่เราจะได้มีเมตตากับคนอื่น" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments