โป๊ปฟรังซิส: "ทำบุญให้พระศาสนจักรด้วยเงินที่เอาเปรียบคนอื่น ถือเป็นบาปร้ายแรง"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือน การทำบุญให้พระศาสนจักรด้วยเงินที่เอาเปรียบลูกจ้างของตน ทำบุญด้วยเงินที่ไม่โปร่งใส ถือเป็นบาปร้ายแรงมากๆ เพราะนี่คือการใช้พระเจ้ามาปกปิดความอยุติธรรมของตน ทรงสอน การจำศีลอดอาหารและเป็นทุกข์ถึงบาปต้องทำจากใจ ทำต่อหน้าพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ไม่ใช่ทำเพื่อสร้างภาพให้ตัวเองดูดี ทรงหวังเห็นคริสตชนไปเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำ ไม่ใช่แบ่งแยกพวกเขาและพูดว่า "เราไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนที่ติดคุก"



ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประมิสซานี้จากหนังสือประกาศกอิสยาห์ พระเจ้าตรัสว่า "จงร้องให้เต็มกำลัง จงประกาศให้ประชากรของเราได้รู้ว่า เขาล่วงละเมิด ในวันจำศีลอดอาหาร บางคนยังแสวงหาผลประโยชน์ ยังทะเลาะวิวาท ยังโต้เถียง ชกต่อยกันอย่างอยุติธรรม การจำศีลอดอาหารแบบนี้ จะไม่มีเสียงดังไปถึงเบื้องบนเลย"

พระสันตะปาปา ทรงเทศน์แบ่งปันบทอ่านนี้ว่า "สิ่งที่พระเยซูทรงต้องการจากเราในเรื่องจำศีลอดอาหาร ก็คือ การแก้โซ่ตรวนจากอธรรมและปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากการถูกกดขี่ข่มเหง นี่คือการจำศีลอดอาหารที่แท้จริง การจำศีลอดอาหารไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ที่ปรากฏอยู่ภายนอก หรือปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ทางศาสนา แต่การจำศีลอดอาหารต้องมาจากหัวใจของเราด้วย

"ในบทบัญญัติของพระเจ้า มันมีทั้งบัญญัติที่มุ่งไปสู่พระเจ้า มุ่งไปสู่เพื่อนพี่น้อง และมุ่งไปหาทั้งพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง พ่อไม่สามารถพูดได้ว่า 'ไม่นะ ผมจะทำตามพระบัญญัติ 3 ประการแรกเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะทำมากหรือน้อยก็ว่ากันไป' ไม่เลย! ถ้าท่านไม่ทำตามพระบัญญัติใดพระบัญญัติหนึ่ง ท่านจะไม่สามารถติดตามพระบัญญัติประการอื่นๆ ได้เลย ทั้งหมดถือเป็นหนึ่งเดียวกัน กล่าวคือ ความรักของพระเจ้าและความรักของเพื่อนมนุษย์คือหนึ่งเดียวกันและเป็นเรื่องเดียวกัน ถ้าท่านต้องการจะแสดงออกถึงการเป็นทุกข์ถึงบาปอย่างแท้จริง(ต่อหน้าพระเจ้า) ไม่ใช่แค่ทำให้ดูเป็นทางการ(ต่อหน้าเพื่อนพี่น้อง) ท่านต้องเป็นทุกข์ถึงบาปทั้งต่อหน้าพระเจ้าและต่อหน้าเพื่อนพี่น้องของท่าน"

จากนั้น พระสันตะปาปาทรงยกตัวอย่างพวกที่ไปร่วมมิสซาทุกอาทิตย์และรับศีลมหาสนิท แต่ชีวิตประจำวันชอบโกง ทุจริต และจ่ายเงินที่ไม่โปร่งใสให้ลูกน้อง (Pay cash under the table)

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "มีสัตบุรุษชายและหญิงจำนวนมากที่มีความเชื่อในพระเจ้า แต่พวกเขาไม่ปฏิบัติตนสอดคล้องกับพระบัญญัติ หลายคนพูดว่า 'ใช่ ผมมาร่วมมิสซา' แต่พ่ออยากถามว่า 'แล้วคุณปฏิบัติความรักความเมตตาหรือเปล่า' เขาอาจตอบกลับมาว่า 'แน่นอน! ผมส่งเช็คเงินสดให้พระศาสนจักรเสมอนะ' โอเค ท่านทำบุญเป็นเรื่องดี แต่ที่้บ้านของท่านหรือภายในพระศาสนจักร ท่านมีความเมตตาและเป็นธรรมกับพวกลูกน้องลูกจ้างของท่านหรือเปล่า ท่านมีความเมตตากับลูกๆ ของตนหรือไม่ เมตตาและเป็นธรรมกับพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย และบรรดาลูกจ้างของท่านหรือเปล่า พวกท่านไม่สามารถทำบุญให้พระศาสนจักรในขณะที่ท่านปล่อยให้ลูกน้องของตนต้องแบกรับความไม่เป็นธรรมจากการกระทำของท่านนะ นี่คือบาปร้ายแรงมากๆ มันคือการใช้พระเจ้าเพื่อปกปิดความไม่ยุติธรรม"

ตอนท้าย พระสันตะปาปาทรงอธิบายและย้ำว่า ตลอดเทศกาลมหาพรต คริสตชนควรจะก้าวออกไปหาคนที่ต่ำต้อยกว่าเรา คนที่ฐานะยากจนกว่าเรา ก้าวออกไปหาเด็กและคนชราที่ไม่มีประกันสุขภาพ และต้องเข้าคิวรับการรักษานานเกิน 8 ชั่วโมง กว่าจะได้พบกับคุณหมอ รวมไปถึงก้าวออกไปพบกับคนที่ถูกจองจำอยู่ในคุกด้วย

"หลายคนจะพูดทันทีว่า 'ไม่ล่ะ คนประเภทนี้ ผมไม่อยากสุงสิงด้วย เขาอยู่ในคุกนะ' ... เอาล่ะ ถ้าท่านไม่ติดคุก มันก็เป็นเพราะพระเจ้าทรงช่วยท่านไม่ให้ทำบาป พวกท่านมีที่ว่างในหัวใจให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำบ้างไหม พวกท่านสวดภาวนาเพื่อพวกเขา เพื่อพระเจ้าจะช่วยพวกเขาให้เปลี่ยนชีวิตตัวเองบ้างหรือเปล่า

"ขอพระเจ้าทรงเดินเคียงข้างเราตลอดเทศกาลมหาพรตนี้ เพื่อที่ว่า การปฏิบัติตนตามข้อกำหนดมหาพรตจะกลายเป็นการฟื้นฟูจิตใจของเราอย่างแท้จริง นี่คือสิ่งที่พวกเราสวดวอนขอ เพื่อพระเจ้าจะได้ประทานพระหรรษทานให้กับเรา" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments