โป๊ปฟรังซิส: “พวกใช้ศาสนาสร้างความรุนแรงนำพระเจ้ามาบิดเบือนเพื่ออุดมการณ์ของตน”

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงตำหนิพวกใช้ศาสนามาเป็นข้ออ้างสร้างความรุนแรงว่า เป็นพวกนำพระเจ้ามาบิดเบือนเป็นข้ออ้างทางอุดมการณ์ของตน ทรงหวังเห็นผู้นำศาสนาและผู้นำประเทศร่วมกันประณามพวกหัวรุนแรงเหล่านี้ด้วย พร้อมกันนี้ ทรงย้ำ พระองค์ให้ความสำคัญและสนใจต่อผู้คนในเอเชียอย่างมาก







ช่วงสายวันจันทร์ที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาทูตานุทูตจากชาติต่างๆ ที่ประจำสันตะสำนัก ซึ่งมาเข้าเฝ้าถวายพระพรปีใหม่ภายในวาติกัน โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับพวกเขาเป็นเวลาเกือบ 40 นาที โดยทรงเน้นเรื่องสถานการณ์โลกในปัจจุบัน เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสันติภาพและการปกป้องผู้ที่ถูกเบียดเบียนจากสงครามและการกดขี่ข่มเหง

พระสันตะปาปาตรัสว่า “พวกเราทุกคนได้เห็นหลักฐานอันน่าเจ็บปวดซึ่งเป็นผลจากวัฒนธรรมของการปฏิเสธ เราได้เห็นหลักฐานนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่กรุงปารีส ซึ่งถูกรายงานไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นอกจากนี้ เรายังได้เห็นวัฒนธรรมของการตกเป็นทาสซึ่งปรากฏออกมาในรูปแบบของความขัดแย้งอย่างไม่รู้จบ

“เรายังได้เห็นเรื่องราวความขัดแย้งในยูเครน, ตะวันออกกลาง เฉพาะอย่างยิ่งในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ และยังมีการแผ่ขยายของพวกก่อการร้ายหัวรุนแรงในซีเรียและอิรัก สิ่งเหล่านี้ถือเป็นผลของวัฒนธรรมทิ้งๆ ขว้างๆ ที่ถูกนำไปใช้กับพระเจ้าด้วย

“ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บรรดาผู้นำศาสนา ผู้นำทางการเมือง ผู้นำเชิงวิชาการ เฉพาะอย่างยิ่งในสังคมมุสลิม จะประณามการตีความศาสนาอย่างหัวรุนแรงแบบนี้ ซึ่งพยายามที่จะตัดสินเรื่องต่างๆ ด้วยวิธีการแห่งความรุนแรง

“พวกยึดมั่นศาสนาแบบสุดโต่ง (หัวรุนแรง) ก่อนที่มันจะเข่นฆ่ามนุษย์ด้วยการทำบาปเข่นฆ่าคนอย่างสยดสยอง มันก็ยังได้กำจัดพระเจ้าด้วยการแปรเปลี่ยนพระเจ้าให้เป็นเพียงข้ออ้างทางอุดมการณ์อีกด้วย ... สถานการณ์เหล่านี้ ยังเกิดการจับตัวประกันและการลักพาตัว อาทิ เหตุการณ์ในลิเบีย, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง, ซูดานใต้ และคองโก

“ข้าพเจ้ายังขอเรียกร้องให้นานาชาติร่วมกันแก้ปัญหาด้านมนุษยธรรม การปกป้องสิทธิของพลเมืองและส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ อย่าลืมว่า ยังมีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ต้องอยู่แบบถูกเนรเทศจากสังคม พวกเขาอยู่ในชุมชนของเราและบางท่านก็อยู่ในครอบครัวของเราด้วยซ้ำ

“อย่างไรก็ตาม ปีนี้ ยังมีเรื่องดีๆอยู่บ้าง นั่นคือการบรรุลข้อตกลงรื้อฟื้นความสัมพันธ์การทูตระหว่างสหรัฐอเมริกากับคิวบา นี่คือผลที่เกิดจากการหันหน้าพูดจากันอย่างแท้จริง

“ตอนท้ายนี้ ข้าพเจ้าอยากแบ่งปันว่า คืนนี้ ข้าพเจ้าจะไปเยือนศรีลังกาและฟิลิปปินส์ การไปครั้งนี้ เป็นเครื่องหมายบอกว่า ข้าพเจ้าให้ความสำคัญและสนใจต่อผู้คนในเอเชียอย่างแท้จริง” พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย

ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาต้อนรับคณะทูตที่มาถวายพระพรปีใหม่

Read More: Vatican Radio

Comments