โป๊ปฟรังซิส: "อย่าคิดว่าพระเจ้าช่วยเราให้รอดจากบาปคนเดียว แต่พระองค์ช่วยประชากรทุกคนของพระองค์"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือนสติ อย่าคิดแปรรูปความรอดจากบาปให้เป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว อย่าคิดทำตัวเป็น "คริสตชนสิทธิพิเศษในพระศาสนจักร" เพราะความรอดที่พระเจ้าให้ พระองค์มอบให้ประชากรทุกคนของพระองค์ ไม่ได้ให้เป็นพิเศษกับใครคนใดคนหนึ่ง ทรงชี้ พวกที่ชอบเหยียดหยามคนอื่นไม่ได้ดำเนินชีวิตตามที่พระเยซูต้องการ


ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายพิธีบูชาขอบพระคุณในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนเกี่ยวกับความจำเป็นในการติดตามพระเยซูตามแนวทางที่พระองค์ทรงต้องการ และอย่าได้กระทำการแปรรูปความเชื่อในพระเจ้าให้เป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "มันเป็นความจริงที่ว่า พระเยซูทรงช่วยเราทุกคนให้รอดพ้นจากบาป และนี่คือความรอดของเราแต่ละคน เราได้รับการช่วยให้รอดจากบาปอย่างแท้จริง พระเจ้าทรงมองมาที่เรา พระองค์ทรงประทานชีวิตให้เรา พระเจ้าทรงเปิดประตูต้อนรับเรา ชีวิตใหม่นี้มีเพื่อเรา เราแต่ละคนสามารถกล่าวได้ว่า '(ความรอดนี้)สำหรับตัวเรา' แต่นี่คือภัยอันตรายของการหลงลืมไปว่าพระเจ้าทรงช่วยเราแต่ละคน เพราะในเวลาเดียวกัน พระเจ้าก็ทรงช่วยประชากรของพระองค์ด้วยเช่นกัน พระเจ้าทรงช่วยประชากรทุกคนของพระองค์เสมอ ไล่ตั้งแต่ตอนที่พระเจ้าทรงเรียกอับราฮัมและทรงสัญญากับพวกเขาว่าจะทำให้พวกเขาเป็นประชากรของพระองค์ พระเจ้าทรงช่วยเราเพราะเราเป็นหนึ่งในกลุ่มประชากรของพระองค์

"นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมนักบุญเปาโลถึงเขียนจดหมายถึงชาวฮีบรูและบอกกับพวกเขาว่า 'ขอให้เราห่วงใยกันและกัน' มันไม่มีความรอดพ้นจากบาปสำหรับเราเพียงคนเดียว ถ้าเราเข้าใจเรื่องความรอดจากบาปในแบบนี้ เราก็กำลังเดินผิดทางแล้ว การแปรรูปความรอดจากบาปให้เป็นของเราคนเดียว จัดเป็นแนวทางที่ผิด

"มันมี 3 แนวทางที่จะไม่ทำให้เราแปรรูปความรอดพ้นจากบาปให้เป็นของเราคนเดียว แนวทางแรก มีความเชื่อในพระเยซูผู้ทรงชำระเราให้บริสุทธิ์ แนวทางที่สอง การมีความหวังว่า ความเชื่อในพระเยซูจะกระตุ้นเราให้มองไปยังพระสัญญาของพระองค์และก้าวต่อไปข้างหน้า และแนวทางที่สาม ความรักความเมตตา กล่าวคือ การเอาใจใส่กันและกัน สิ่งนี้จะทำให้เรามีความกล้าที่จะปฏิบัติความเมตตาและทำงานที่ดีงาม

"ถ้าในชุมชนของเราไม่มีการสื่อสารภายในระหว่างสมาชิก และไม่มีการส่งเสริมให้สมาชิกปฏิบัติแนวทางทั้งสามนี้ สมาชิกในชุมชนก็จะแปรรูปความเชื่อในพระเจ้าให้เป็นของตนคนเดียว สมาชิกแต่ละคนจะมองหาแต่ความรอดพ้นจากบาปของตัวเอง จะไม่มีความรอดจากบาปสำหรับทุกคน แต่เราลืมไปหรือเปล่าว่า แท้จริงแล้ว พระเยซูทรงช่วยเราทุกคนให้รอดพ้นจากบาป เพราะพวกเราทุกคนเป็นประชากรของพระเจ้า เป็นประชากรในพระศาสนจักร

"ในจดหมายถึงชาวฮีบรู นักบุญเปาโลยังกล่าวอีกว่า 'เราต้องอย่าขาดการประชุมพบปะกันดังที่บางคนเคยทำ แต่จงรู้จักตักเตือนกัน' ดังนั้น ในชุมชนเขตวัดหรือในชุมชนของเรา เมื่อเราตัดสินคนอื่น เมื่อมันมีการดูหมิ่นเหยียดหยามคนอื่น พ่อขอย้ำเลยนะว่า นี่ไม่ใช่แนวทางการดำเนินชีวิตที่พระเยซูต้องการเลย

"พวกที่เหยียดหยามคนอื่น พวกที่ปลีกตัวออกห่างจากสังคม พวกเขาก็ถอยห่างออกจากประชากรของพระเจ้า พวกเขาได้แปรรูปความรอดจากบาปให้เป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว พวกเขาคิดว่าความรอดนี้เป็นของตนและของกลุ่มเล็กๆของตน แต่ความรอดนี้ไม่ได้เป็นของประชากรของพระเจ้า นี่เป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงเลยนะ นี่คือสิ่งที่เราเห็นและเรียกมันว่า 'กลุ่มสิทธิพิเศษในพระศาสนจักร' เมื่อกลุ่มนี้ก่อกำเนิดขึ้นมาในชุมชนประชากรของพระเจ้า พวกคนสิทธิพิเศษนี้เชื่อว่า พวกเขาเป็นคริสตชนที่ดีและปฏิบัติความเชื่ออย่างดี แต่พวกเขาเป็นกลุ่มเล็กๆที่ได้แปรรูปความเชื่อในพระเจ้าให้เป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว

"พระเจ้าทรงช่วยเราทุกคนเพราะเราเป็นประชากรของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ช่วยเราให้รอดพ้นจากบาปเพราะเราเป็นกลุ่มสิทธิพิเศษในพระศาสนจักร ดังนั้น ขอให้เราพิจารณาดูว่า เรามีแนวโน้มที่จะแปรรูปความเชื่อในพระเจ้าให้เป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว มากกว่าจะอยู่ใกล้ชิดกับประชากรของพระเจ้า และปฏิบัติแนวทางสามอย่าง ก็คือ ความเชื่อ ความหวัง และความรักความเมตตาหรือเปล่า" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments