โป๊ปฟรังซิส: "มีลูกมากไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือพ่อแม่มีความรับผิดชอบที่จะเลี้ยงหรือเปล่า"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้สัมภาษณ์บนเครื่องบินกลับจากฟิลิปปินส์ ด้วยการชี้ว่า การมีลูกมากไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือพ่อแม่มีความรับผิดชอบที่จะเลี้ยงลูกหรือเปล่า ทรงเตือนสติเรื่องการรับสินบนในพระศาสนจักร พร้อมย้ำ "นักบุญเป็นคนบาป แต่นักบุญไม่เป็นคนโกง" ทรงยืนยัน ยอมรับทฤษฎีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ก่อนจะแสดงความเห็นอะไรออกไป เราต้องอย่ายั่วยุความเชื่อและต้องรอบคอบด้วย 




ระหว่างเที่ยวบินกลับจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ มายัง กรุงโรม ประเทศอิตาลี สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงประทานการสัมภาษณ์พิเศษแบบเป็นกันเองแก่บรรดาผู้สื่อข่าวที่ตามเสด็จเยือนทวีปเอเชีย การสัมภาษณ์นี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ประเด็นสำคัญของบทสัมภาษณ์ มีดังต่อไปนี้

สิ่งที่พระสันตะปาปาเรียนรู้จากฟิลิปปินส์

พระสันตะปาปา: "การแสดงออกไง! พ่อคล้อยไปกับการแสดงออกของชาวฟิลิปปินส์ พวกเขาไม่ได้แสดงออกด้วยอากัปกิริยาแบบทางการ แต่มันเป็นการแสดงออกที่มาจากหัวใจ (จังหวะนี้ พระสันตะปาปาพูด พร้อมน้ำตาคลอ) ความเชื่อ ความรัก ครอบครัว และอนาคต ทั้งหมดนี้คือการแสดงออกที่พ่ออุ้มลูกให้สูงเหนือหัว เพื่อให้พระสันตะปาปาได้อวยพรลูกๆ ของตน พวกเขาอุ้มลูกขึ้นสูงๆ การแสดงออกแบบนี้คุณจะไม่เห็นเลยในที่อื่นๆ ของโลก มันดูราวกับว่า พวกเขากำลังพูดว่า 'นี่คือทรัพย์สมบัติของผม นี่คืออนาคตของผม นี่คือสิ่งที่ทำให้เกิดการทำงานและเปี่ยมด้วยคุณค่าที่จะทนทุกข์ นี่คือการแสดงออกที่มาจากหัวใจ ส่วนเรื่องที่สองที่ประทับใจพ่อคือการได้พบกันด้วยอารมณ์ร่วมอย่างแท้จริง ทั้งความชื่นชมยินดี ความสุข และความสามารถในการเฉลิมฉลอง แม้จะอยู่ท่ามกลางพายุฝน พ่อยังได้เห็นบรรดาคุณแม่นำลูกๆ ที่เจ็บป่วยมาร่วมพิธี มีเด็กผู้พิการมากมายและเด็กทุพลภาพที่พวกท่านก็น่าจะเห็น พวกเขาไม่ได้นำเด็กไปหลบๆ ซ่อนๆ นะ พวกเขานำเด็กเหล่านั้นมาด้วย เพื่อที่เด็กๆ จะได้รับการอวยพรว่า นี่คือลูกของฉัน นี่คือสิ่งที่ทำให้พ่อประทับใจ มันคือการแสดงออกถึงความเป็นแม่และความเป็นผู้เลี้ยงดู

ความยากจนในฟิลิปปินส์และศรีลังกา

พระสันตะปาปา: "คนยากจนคือเหยื่อของวัฒนธรรมสิ้นเปลือง ทุกวันนี้ ผู้คนถูกละทิ้ง ระบบการทอดทิ้งผู้คนเข้ามาในความคิดของพ่อในตอนนี้ ในสังฆมณฑลของพ่อ (บัวโนสไอเรส) มีพื้นที่ที่ชื่อ ปอร์โต้มาเดโร่ นี่เป็นพื้นที่หรูหรา มีภัตตาคารหรูๆ ถึง 36 ร้าน แต่ในทางกลับกัน พื้นที่ต่อจากตรงนี้มีแต่ผู้คนอดอยากหิวโหย เห็นได้ชัดว่า พวกเราเคยชินกับภาพเหล่านี้ สำหรับพวกเราพระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวช และฆราวาส จิตตารมย์ทางโลกคือบาปหนักร้ายแรง มันเป็นสิ่งที่น่าเกลียดมากที่ต้องเห็นพระสงฆ์และนักบวชคนของพระศาสนจักรยึดตามจิตตารมย์ทางโลก นี่ไม่ใช่วิถีของพระเยซู (ถ้าเป็นแบบนี้) พระศาสนจักรจะเป็นพวกเอ็นจีโอที่เรียกตัวเองว่าพระศาสนจักร"

แนวคิดการล่าอาณานิคมทางความคิดของครอบครัว

พระสันตะปาปา: "พ่อจะยกตัวอย่างที่พ่อเคยเจอให้ฟัง 25 ปีที่แล้ว ค.ศ.1995 รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ(ของอาร์เจนตินา) ได้ร้องขอเงินกู้ก้อนโตเพื่อใช้สร้างโรงเรียนหลายแห่งให้กับผู้ยากไร้ มีคนเสนอเงินกู้ให้กับเธอ(รัฐมนตรี) บนเงื่อนไขที่ว่า โรงเรียนเหล่านี้จะต้องใช้หนังสือเรียนที่คนๆนี้เสนอให้ แทนหนังสือเรียนเล่มปัจจุบันที่ดีอยู่แล้ว เนื้อหาของหนังสือที่ถูกเสนอแทนเล่มเก่านั้น เป็นการสอนเรื่องเพศที่แตกต่างจากเล่มเก่า รัฐมนตรีคนนี้เป็นหลักแหลม เธอตกลงกับข้อเสนอดังกล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้คือการล่าอาณานิคมทางความคิด กล่าวคือ มีการยัดเยียดแนวคิดลงไปในกลุ่มประชากร ... ในการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งแอฟริกา ได้มีการตำหนิการเสนอเงินกู้แบบมีเงื่อนไข คนพวกนี้มองประชากรเป็นโอกาสที่จะเข้าฉกฉวยผลประโยชน์ ศตวรรษที่แล้ว เราได้เห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ลัทธิเผด็จการเข้าครอบงำความคิด ลองคิดถึงตัวอย่างของยุวชนฮิตเลอร์ ... พ่ออยากให้พวกท่านลองไปหาหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อ 'Lord of the World' เขียนโดย เบ็นสัน ในปีค.ศ.1903 ดูนะ พ่อขอแนะนำเลย ถ้าท่านอ่านแล้ว ท่านจะเข้าใจสิ่งที่พ่อกำลังพูดถึงเกี่ยวกับการล่าอาณานิคมทางความคิด

ลูกมากไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือพ่อแม่รับผิดชอบที่จะเลี้ยงหรือเปล่า

พระสันตะปาปา: "การเปิดรับชีวิตที่จะเกิดมาคือเงื่อนไขสำหรับศีลสมรส พระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 ทรงศึกษาเรื่องนี้เอาไว้ พระองค์ทรงปฏิเสธเรื่องการคุมกำเนิด ... สิ่งนี้ ไม่ได้หมายความว่า คริสตชนต้องมีลูกคนเดียวนะ พ่อเคยดุผู้หญิงคนหนึ่งที่ตั้งครรภ์ลูกคนที่ 8 โดยที่เธอเคยผ่าท้องคลอดลูกมาแล้ว 7 ครั้ง! พ่อถามเธอไปว่า 'นี่คุณต้องการให้ลูกๆ เป็นเด็กกำพร้าเหรอ คุณอย่าผลักภาระ(เลี้ยงลูก)ให้พระเจ้านะ' ผู้เชี่ยวชาญกล่าวไว้ว่า ครอบครัวหนึ่งมีลูก 3 คนกำลังดี แต่สิ่งที่พ่ออยากเน้นย้ำคือความรับผิดชอบของคนเป็นพ่อแม่ ขอโทษนะ บางคนคิดว่าการเป็นคาทอลิกที่ดี เราต้องแพร่พันธุ์ให้เหมือนกระต่าย มันใช่เหรอ? ไม่เลย! เราต้องเป็นพ่อแม่ที่มีความรับผิดชอบต่างหาก

เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

พระสันตะปาปา: "ในทางทฤษฎี พวกเราสามารถพูดได้ว่า เราเข้าใจว่าเสรีภาพในการแสดงความเห็นคืออะไร ในทางทฤษฎี เราเห็นด้วยกับทฤษฎีนี้ ... แต่สิ่งที่พ่อจะพูดคือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นจำเป็นต้องคิดถึงธรรมชาติของมนุษย์ด้วย และมันต้องคิดให้รอบคอบ(ก่อนจะแสดงความเห็นออกไป) หรือจะพูดอีกอย่างคือจะพูดอะไรต้องเป็นแบบสุภาพ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเสรีภาพต้องควบคู่ไปกับความรอบคอบ

ทริปต่อไป "แอฟริกา, สหรัฐอเมริกา และอเมริกาใต้"

พระสันตะปาปา: "พ่อมีแผนจะไปเยือนแอฟริกา ที่วางแผนไว้คือสาธารณรัฐแอฟริกากลางและยูกันดา พ่อคิดว่า พ่อจะไปช่วงสิ้นปีนี้นะ แผนการเยือนนี้ต้องล่าช้าเพราะปัญหาอีโบล่านั่นเอง นอกจากนี้ พ่อจะไปเยือนฟิลาเดเฟีย สหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมงานชุมนุมครอบครัวคาทอลิก จากนั้นจะไปองค์การสหประชาชาติที่นิวยอร์ค และกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อไปเยือนรัฐสภาสหรัฐอเมริกา พ่ออยากจะไปแคลิฟอร์เนีย เพื่อสถาปนาบุญราศีจูนิเปโร่ เซอร์ร่า เป็นนักบุญด้วย แค่พ่อคิดว่าเวลามันจำกัด พ่อต้องการเวลามากกว่านี้อีก 2 วัน การไปสหรัฐอเมริกาโดยมาจากเม็กซิโก คงเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะนี่คือการแสดงออกถึงความเป็นพี่น้องกัน ถ้าไปเม็กซิโก แล้วไม่ได้ไปเยือนแม่พระแห่งกัวดาลูเป้ ก็คงเป็นโศกนาฏกรรมเหมือนกันนะ! ส่วนลาตินอเมริกา พ่อก็จะไปเยือนในปีนี้เช่นกัน จะเป็น เอกวาดอร์, โบลิเวีย และปารากวัย ส่วนปีหน้า 2016 ตามพระประสงค์ของพระเจ้า พ่อจะไปชิลี, อาร์เจนตินา และอุรุกวัย"

การโกงในพระศาสนจักร

พระสันตะปาปา: "พ่อจำได้ดีในปี 1994 ตอนนั้น พ่อเพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นพระสังฆราชผู้ช่วยในสังฆมณฑลฟลอเรส (อาร์เจนตินา) มีเจ้าหน้าราชการ 2 คนติดต่อมาหาพ่อ แล้วบอกว่า 'พระคุณเจ้า ต้องการเงินไปช่วยคนจนใช่ไหม ถ้าพระคุณเจ้าต้องการ เราจะให้เงิน 400,000 เปโซ (12.8 ล้านบาท) พ่อฟังด้วยความระมัดระวัง เพราะพวกเขาเสนอเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถทำให้คนที่เป็นนักบุญต้องคิดแล้วคิดอีกก็ว่าได้

"พวกเขาบอกอีกว่า เราจะบริจาคเงินให้พระคุณเจ้า แต่พระคุณเจ้าจะต้องนำเงินนี้คืนกลับมาให้เราครึ่งหนึ่งนะ วินาทีนั้น พ่อคิดทันทีว่า 'เราจะต่อว่าคนพวกนี้ดีไหมและเตะมันออกไปเลย หรือว่า เราจะแกล้งทำเป็นโง่ดี' ที่สุดท้าย พ่อทำเป็นแกล้งโง่ และพูดไปว่า 'พวกคุณก็รู้นะว่า พวกเราที่ทำงานในสำนักพระสังฆราช ไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับบัญชีนี้ได้ พวกคุณต้องเงินดังกล่าวให้กับพระอัครสังฆราชแล้วจะมีใบเสร็จรับเงิน' เมื่อพวกเขาได้ยินแบบนี้ พวกเขาก็จากไป

"ดังนั้น ขอให้พวกเราจำไว้เสมอว่า เราเป็นคนบาป แต่เราต้องไม่โกง! มีนักบุญจำนวนมากที่เป็นคนบาป แต่พวกท่านไม่เป็นคนโกง!"

นักการเมืองโกง

พระสันตะปาปา: "คนโกง โกงในธุรกิจหรือภาครัฐ พวกเขาขโมยทุกอย่างไปจากประชาชน เหยื่อคนโกงคือคนที่อยู่ในความยากจน การโกงได้กลายเป็นปัญหาระดับโลกไปแล้ว ในปี 2001 พ่อเคยถามหัวหน้าคณะรัฐบาลอาร์เจนตินาว่า 'พวกท่านบริจาคเงินช่วยเหลือประเทศเท่าไหร่ พวกตู้คอนเทนเนอร์, อาหาร, เสื้อผ้า ไปถึงประชาชนหรือเปล่า' คนที่(มือ)บริสุทธิ์ตอบทันทีว่า ไปถึงแค่ 35 เปอร์เซนต์ นี่เกิดที่อาร์เจนตินาในปี 2001 นะ"

ความสัมพันธ์กับจีนและ "ดาไล ลามะ"

พระสันตะปาปา: "ตามระเบียบการของสำนักเลขาธิการนครรัฐวาติกัน มันไม่ได้หมายความว่า เมื่อประมุขของประเทศหรือผู้นำรัฐบาลจะได้รับการต้อนรับเสมอไป (หมายถึงได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปา) เมื่อพวกเขามาประชุมสำคัญๆที่กรุงโรม ระหว่างที่มีการประชุมของคณะกรรมการอาหารและการเกษตรแห่งองค์การสหประชาชาติ ช่วงนั้น พ่อก็ไม่ได้ต้อนรับใครเลย มันจึงไม่เป็นความจริงที่ว่า พ่อไม่ต้อนรับองค์ดาไลลามะ เพราะว่าพ่อกลัวประเทศจีน ท่านดาไลลามะได้ส่งคำขอเข้าพบพ่อ พวกเรามีสายสัมพันธ์ต่อกัน แต่เหตุผล(ที่ไม่ได้เข้าพบ)ไม่ได้มาจากการกลัวประเทศจีน พวกเราเปิดกว้างและพวกเราต้องการสันติกับทุกคน

อนึ่ง หลังการสัมภาษณ์จบลง พระสันตะปาปาทรงทำเซอร์ไพรส์ด้วยการ มอบเค้กวันเกิดให้ "วาเลนติน่า อลาสรากี้" หัวหน้ากลุ่มผู้สื่อข่าวประจำสันตะสำนัก (สื่อมวลชนสายวาติกันจะรวมตัวเป็นกลุ่ม และมี อลาสรากี้ เป็นหัวหน้าอีกทีหนึ่ง) เรียกได้ว่า นักข่าวมีความสุขที่พระสันตะปาปาเป็นกันเอง และคอยเอาใจใส่นักข่าวทุกคนด้วยการเดินทักทายแบบทีละคนด้วย

Read More: Vatican Insider

Comments