โป๊ปฟรังซิส: “พันธกิจของพระศาสนจักรต้องอ่อนโยน เหมือนแม่พระที่อุ้มพระเยซูอย่างอ่อนโยน”
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พันธกิจของพระศาสนจักรต้องอ่อนโยน เหมือนแม่พระที่อุ้มพระเยซูด้วยความอ่อนโยนและมอบพระองค์ให้กับทุกคนด้วยความชื่นชมยินดี ทรงชี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะรักพระคริสตเจ้า แต่ไม่รักพระศาสนจักร เพราะทุกกิจการและทุกพันธกิจของพระศาสนจักรคือการแสดงออกถึงความเป็นมารดาที่อุ้มลูกๆ ของตนอย่างอ่อนโยน ช่วงสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ทรง “ตามการบ้าน” ใครที่จำวันรับศีลล้างบาปของตนเองไม่ได้ ช่วยกลับไปค้นด้วยว่า ตัวเองได้รับศีลล้างบาปวันไหน


ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาสมโภชพระนางมารีอา พระชนนีของพระเจ้า และยังเป็นมิสซาวันขึ้นปีใหม่ ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน จากนั้น พระองค์ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าวด้วย
ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า “ในพระวรสารวันนี้ เราได้ยินกันแล้วว่า เอลิซาเบ็ธกล่าวกับแม่พระว่า ‘เธอมีบุญยิ่งกว่าหญิงใดๆ และบุตรของเธอก็มีบุญยิ่งนัก ไฉนหนอ พระมารดาของพระเจ้าจึงเสด็จมาหาข้าพเจ้า’ (ลูกา 1:42-43) ในการสมโภชพระนางมารีอา พระชนนีของพระเจ้า พระศาสนจักรเตือนใจเราว่า แม่พระทรงมีความสำคัญยิ่งกว่าทุกคน เพราะแม่พระเป็นผู้ได้รับพระพร ในพระพรที่แม่พระได้รับนั้นคือการเติมเต็ม ไม่มีสิ่งสร้างใดที่เคยเห็นพระพักตร์ของพระเจ้าส่องแสงเหนือตนเองเหมือนอย่างแม่พระ
“แม่พระและพระเยซูอยู่ด้วยกันเสมอ เหมือนอย่างเช่นที่กลโกธา ณ แทบเชิงกางเขน พระคริสตเจ้าและแม่พระไม่เคยแยกจากกัน นี่คือความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างทั้งสอง และยังเป็นความใกล้ชิดระหว่างเด็กทุกคนกับแม่ของตัวเองด้วย
“ดังนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรักพระคริสตเจ้า โดยไม่รักพระศาสนจักร มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฟังพระคริสตเจ้า แต่ไม่ฟังพระศาสนจักร มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นของพระคริสตเจ้า แต่เลือกจะอยู่นอกพระศาสนจักร ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะทุกกิจการและทุกพันธกิจของพระศาสนจักรคือการแสดงออกถึงความเป็นมารดา พระศาสนจักรคือมารดาที่อุ้มพระเยซูด้วยความอ่อนโยนและมอบพระเยซูให้กับทุกคนด้วยความชื่นชมยินดีและความโอบอ้อมอารี
“พระศาสนจักรคือครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ซึ่งนำพระคริสตเจ้ามามอบให้เราทุกคน ความเชื่อของพวกเราไม่ใช่หลักคำสอนที่จับต้องไม่ได้และก็ไม่ใช่หลักปรัชญา แต่นี่คือความสัมพันธ์ทั้งครบกับตัวบุคคล นั่นคือ พระเยซูคริสต์ ... แล้วเราจะพบกับพระเยซูได้ที่ไหนกันล่ะ พวกเราสามารถพบพระองค์ได้ในพระศาสนจักร ในโครงสร้างของพระศาสนจักรผู้เป็นมารดาศักดิ์สิทธิ์
“พันธกิจของพระศาสนจักรคือความเป็นแม่ พ่อขอย้ำอีกครั้งว่า พันธกิจของพระศาสนจักรเป็นเหมือนแม่พระที่อุ้มพระเยซูด้วยความอ่อนโยนและมอบพระองค์ให้กับทุกคนด้วยความชื่นชมยินดี ... ถ้าปราศจากพระศาสนจักร คำสอนของพระเยซูคริสต์จะเป็นแค่มโนคติ เป็นคำสอนทางศีลธรรม และเป็นแค่ความรู้สึก ถ้าปราศจากพระศาสนจักร ความสัมพันธ์ของเรากับพระคริสตเจ้าจะเป็นความเมตตาแบบจินตนาการเท่านั้น” พระสันตะปาปา ตรัสในช่วงท้าย
หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนากว่า 50,000 คน
โดยพระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันทุกคนว่า “ก่อนอื่น พ่อขอทักทายแบบสดๆ ไปถึงสัตบุรุษเมืองโรเวเรโต้ ในจังหวัดเตร็นติโน่ เมืองนี้มีหอระฆังที่ได้รับการเสกโดยพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 เมื่อปีค.ศ.1965 โอกาสสิ้นสุดการสู้รบทุกชนิด พ่อจึงหวังว่า มันจะไม่มีสงครามอีก ขอได้โปรดอย่าได้มีอีกเลย! ขอให้เราทุกคนแสวงหาและอุทิศตนเพื่อสันติภาพ รวมถึงความเป็นพี่น้องกันด้วย”
นอกจากนี้ พระสันตะปาปายังทวงถามถึง “การบ้าน” ที่เคยสั่งไปเมื่อนานมาแล้วเกี่ยวกับวันรับศีลล้างบาป เพราะอีกไม่นานจะถึงวันฉลองพระเยซูทรงรับพิธีล้าง พระสันตะปาปาตรัสว่า “พ่อขอถามพวกท่านอีกครั้ง มีใครในที่นี้ยังจำวันที่ตัวเองได้รับศีลล้างบาปกันได้บ้าง ไหน? มีบ้างไหม ใครที่จำได้ ช่วยยกมือขึ้นให้พ่อดูหน่อย มีคนยกเหมือนกันนะ แต่ก็มีอีกเยอะที่ไม่ได้ยก ยังไงอย่าลืมไปค้นดูนะว่าตัวเองได้รับศีลล้างบาปวันไหน เพราะนี่คือวันที่เราจะขอบคุณพระเจ้า นี่คือวันที่พระคริสตเจ้าทรงต้อนรับเราเข้าสู่พระศาสนจักร”
“สุดท้ายนี้ สวัสดีปีใหม่แด่ทุกคน พ่อขอย้ำว่า อย่าลืมสวดให้พ่อด้วยนะ พ่อต้องการคำภาวนามากๆ” พระสันตะปาปาตรัสย้ำทุกคน
ประมวลภาพ: มิสซาสมโภชพระนางมารีอา พระชนนีของพระเจ้า
Read More: Vatican Radio


ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาสมโภชพระนางมารีอา พระชนนีของพระเจ้า และยังเป็นมิสซาวันขึ้นปีใหม่ ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน จากนั้น พระองค์ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าวด้วย
ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า “ในพระวรสารวันนี้ เราได้ยินกันแล้วว่า เอลิซาเบ็ธกล่าวกับแม่พระว่า ‘เธอมีบุญยิ่งกว่าหญิงใดๆ และบุตรของเธอก็มีบุญยิ่งนัก ไฉนหนอ พระมารดาของพระเจ้าจึงเสด็จมาหาข้าพเจ้า’ (ลูกา 1:42-43) ในการสมโภชพระนางมารีอา พระชนนีของพระเจ้า พระศาสนจักรเตือนใจเราว่า แม่พระทรงมีความสำคัญยิ่งกว่าทุกคน เพราะแม่พระเป็นผู้ได้รับพระพร ในพระพรที่แม่พระได้รับนั้นคือการเติมเต็ม ไม่มีสิ่งสร้างใดที่เคยเห็นพระพักตร์ของพระเจ้าส่องแสงเหนือตนเองเหมือนอย่างแม่พระ
“แม่พระและพระเยซูอยู่ด้วยกันเสมอ เหมือนอย่างเช่นที่กลโกธา ณ แทบเชิงกางเขน พระคริสตเจ้าและแม่พระไม่เคยแยกจากกัน นี่คือความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างทั้งสอง และยังเป็นความใกล้ชิดระหว่างเด็กทุกคนกับแม่ของตัวเองด้วย
“ดังนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรักพระคริสตเจ้า โดยไม่รักพระศาสนจักร มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฟังพระคริสตเจ้า แต่ไม่ฟังพระศาสนจักร มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นของพระคริสตเจ้า แต่เลือกจะอยู่นอกพระศาสนจักร ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะทุกกิจการและทุกพันธกิจของพระศาสนจักรคือการแสดงออกถึงความเป็นมารดา พระศาสนจักรคือมารดาที่อุ้มพระเยซูด้วยความอ่อนโยนและมอบพระเยซูให้กับทุกคนด้วยความชื่นชมยินดีและความโอบอ้อมอารี
“พระศาสนจักรคือครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ซึ่งนำพระคริสตเจ้ามามอบให้เราทุกคน ความเชื่อของพวกเราไม่ใช่หลักคำสอนที่จับต้องไม่ได้และก็ไม่ใช่หลักปรัชญา แต่นี่คือความสัมพันธ์ทั้งครบกับตัวบุคคล นั่นคือ พระเยซูคริสต์ ... แล้วเราจะพบกับพระเยซูได้ที่ไหนกันล่ะ พวกเราสามารถพบพระองค์ได้ในพระศาสนจักร ในโครงสร้างของพระศาสนจักรผู้เป็นมารดาศักดิ์สิทธิ์
“พันธกิจของพระศาสนจักรคือความเป็นแม่ พ่อขอย้ำอีกครั้งว่า พันธกิจของพระศาสนจักรเป็นเหมือนแม่พระที่อุ้มพระเยซูด้วยความอ่อนโยนและมอบพระองค์ให้กับทุกคนด้วยความชื่นชมยินดี ... ถ้าปราศจากพระศาสนจักร คำสอนของพระเยซูคริสต์จะเป็นแค่มโนคติ เป็นคำสอนทางศีลธรรม และเป็นแค่ความรู้สึก ถ้าปราศจากพระศาสนจักร ความสัมพันธ์ของเรากับพระคริสตเจ้าจะเป็นความเมตตาแบบจินตนาการเท่านั้น” พระสันตะปาปา ตรัสในช่วงท้าย
หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนากว่า 50,000 คน
โดยพระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันทุกคนว่า “ก่อนอื่น พ่อขอทักทายแบบสดๆ ไปถึงสัตบุรุษเมืองโรเวเรโต้ ในจังหวัดเตร็นติโน่ เมืองนี้มีหอระฆังที่ได้รับการเสกโดยพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 เมื่อปีค.ศ.1965 โอกาสสิ้นสุดการสู้รบทุกชนิด พ่อจึงหวังว่า มันจะไม่มีสงครามอีก ขอได้โปรดอย่าได้มีอีกเลย! ขอให้เราทุกคนแสวงหาและอุทิศตนเพื่อสันติภาพ รวมถึงความเป็นพี่น้องกันด้วย”
นอกจากนี้ พระสันตะปาปายังทวงถามถึง “การบ้าน” ที่เคยสั่งไปเมื่อนานมาแล้วเกี่ยวกับวันรับศีลล้างบาป เพราะอีกไม่นานจะถึงวันฉลองพระเยซูทรงรับพิธีล้าง พระสันตะปาปาตรัสว่า “พ่อขอถามพวกท่านอีกครั้ง มีใครในที่นี้ยังจำวันที่ตัวเองได้รับศีลล้างบาปกันได้บ้าง ไหน? มีบ้างไหม ใครที่จำได้ ช่วยยกมือขึ้นให้พ่อดูหน่อย มีคนยกเหมือนกันนะ แต่ก็มีอีกเยอะที่ไม่ได้ยก ยังไงอย่าลืมไปค้นดูนะว่าตัวเองได้รับศีลล้างบาปวันไหน เพราะนี่คือวันที่เราจะขอบคุณพระเจ้า นี่คือวันที่พระคริสตเจ้าทรงต้อนรับเราเข้าสู่พระศาสนจักร”
“สุดท้ายนี้ สวัสดีปีใหม่แด่ทุกคน พ่อขอย้ำว่า อย่าลืมสวดให้พ่อด้วยนะ พ่อต้องการคำภาวนามากๆ” พระสันตะปาปาตรัสย้ำทุกคน
ประมวลภาพ: มิสซาสมโภชพระนางมารีอา พระชนนีของพระเจ้า
Read More: Vatican Radio
Comments
Post a Comment