โป๊ปฟรังซิส: "เยาวชนอย่าทำตัวเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพ แต่ทำประโยชน์ให้สังคมไม่เป็น"
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอนเยาวชน อย่าทำตัวเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพในชีวิต แต่กลับไม่รู้วิธีใช้สิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์แก่สังคม ทรงชี้ โลกทุกวันนี้ สูญเสียความสามารถในการร้องไห้ให้กับผู้ตกทุกข์ได้ยาก ทรงหวังเห็นเยาวชนเรียนรู้พระวรสารจากคนยากจนและเด็กกำพร้า เพราะพวกเขาสอนสิ่งล้ำค่าให้เราได้เยอะจริงๆ ทรงชี้ให้คิด บางครั้งเราเป็นผู้ให้ แต่เราไม่หัดเรียนรู้วิธีที่จะเป็น "ผู้รับ"






ช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จมาพบและให้โอวาทแก่บรรดาเยาวชน ภายในมหาวิทยาลัยซานโต โทมัส กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยในสันตะสำนักด้วย
หลังจากพระสันตะปาปานำภาวนาเปิดพิธี ช่วงแรกก็เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ของบรรดาเยาวชนที่เคยเป็นอดีตเด็กที่ถูกทอดทิ้งอยู่ตามท้องถนนมาก่อน จากนั้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวตอบกับพวกเขา พร้อมทั้งเทศน์สอนเยาวชนกว่า 25,000 คนที่รอรับฟังโอวาทจากพระองค์ โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสแจ้งทุกคนว่า พระองค์ตัดสินใจจะพูดแบบสดๆ จากใจ โดยไม่ใช้อ่านตามสคริปท์ที่เตรียมมา ทำให้ทุกคนปรบมือชอบใจกันใหญ่
พระสันตะปาปาตรัสว่า "ก่อนอื่น พ่อขอเชิญชวนทุกคนภาวนาให้กับดวงวิญญาณของ คริสเทล ปาดาซาส อาสาสมัครที่เสียชีวิตจากการถูกนั่งร้านขนาดใหญ่หล่นทับจนเสียชีวิตระหว่างมิสซาที่พ่อถวายเมื่อวานนี้ที่เมืองตั๊กโลบัน ตอนนี้ พ่อของคริสเตลกำลังมาที่มะนิลา ส่วนแม่ของเธอกำลังบินมาจากฮ่องกง คริสเตลเป็นเยาวชนเหมือนพวกลูกทุกคน ขอให้เราภาวนาแบบเงียบๆ ให้เธอสักครู่ จากนั้น เราจะมาสวดบทวันทามารีย์ พร้อมๆกันนะ
"มันเป็นความสุขอย่างยิ่งที่พ่อได้มาอยู่ท่ามกลางพวกลูกในวันนี้ พ่อขอกล่าวคำทักทายนี้ไปยังพวกลูกๆจากใจจริง พ่ออยากมาพบกับพวกลูก มาฟังลูก และมาพูดกับลูกๆ พ่ออยากมอบความรักและความหวังที่พระศาสนจักรมีเพื่อลูกๆ ทุกคน เยาวชนที่รัก พ่ออยากให้กำลังใจพวกลูกในการอุทิศตนอย่างร้อนรนที่จะทำงานเพื่อฟื้นฟูสังคม พ่อขอบคุณพวกลูกที่กล่าวต้อนรับพ่อ บรรดาตัวแทนเยาวชนได้แบ่งปันปัญหาและความยากลำบากและความคาดหวังที่มีต่อสังคม (อาทิ ปัญหาทำไมเด็กต้องเป็นโสเภณี)
"หลายคนยังคงสงสัยว่า ทำไมเด็กๆ ยังต้องทนทุกข์ระทม (จากปัญหาเด็กต้องเป็นโสเภณี) พ่ออยากแบ่งปันว่า โลกเราทุกวันนี้ สูญเสียความสามารถในการร้องไห้ร่วมกับผู้ที่ต้องประสบทุกข์ยาก ลองถามตัวเองซิว่า เราเรียนรู้ที่จะร้องไห้ร่วมกับคนที่ประสบทุกข์ยากได้หรือไม่ ดังนั้น ขอให้เราเรียนรู้ที่จะร้องไห้ออกมา ขอให้เราอย่าลืมบทสอนนี้นะ นี่คือคำถามที่ดีมากๆนะเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าทำไมเด็กๆ ยังต้องทนทุกข์ระทม
"ในพระวรสาร พระเยซูก็ร้องไห้ พระองค์ร้องไห้ให้กับเพื่อนๆของพระองค์ พระองค์ทรงร้องจากหัวใจ พระองค์ทรงมีความรู้สึกร่วมไปกับความทุกข์ของคนอื่นๆ พระองค์ทรงเห็นใจพวกเขา ถ้าเราไม่เรียนรู้ว่าเราจะร้องไห้ให้กับความทุกข์ของคนอื่นได้อย่างไร พวกเราไม่สามารถเป็นคริสตชนที่ดีได้เลย นี่คือความท้าทายของพวกเราแต่ละคน
"ทุกวันนี้ มีเยาวชนหลายคนที่ทำตัวเป็นพิพิธภัณฑ์ พวกเขามีทุกอย่างในชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร พวกเราไม่ต้องการพิพิธภัณฑ์แบบนี้ แต่พวกเราต้องการเยาวชนที่เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ พวกลูกอาจถามพ่อว่า 'เราจะเป็นนักบุญได้อย่างไร' นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายเช่นกัน นั่นคือ ความท้าทายแห่งความรัก
"สิ่งใดล่ะที่เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องเรียนรู้มากสุดในชีวิต คำตอบคือ การเรียนรู้ที่จะรัก นี่คือความท้าทายที่ชีวิตได้มอบให้กับพวกลูกทุกคน ฉะนั้น เราต้องเรียนรู้ที่จะใช้ 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาทางความคิด ภาษาทางใจ และภาษามือที่ออกไปสัมผัสคนอื่น จงใช้ทั้ง 3 ภาษานี้ให้เป็นไปอย่างสอดคล้องกัน
"รักแท้คือการรักคนอื่นและการให้คนอื่นรักเรา จงทำให้ตัวเราเป็นที่รักของคนอื่น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงยากเย็นเหลือเกินที่จะเป็นความรักอันสมบูรณ์แบบ ความรักคือการเปิดตัวเราเองให้พร้อมรับการสร้างเรื่องเซอร์ไพรส์จากพระเจ้า พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งเรื่องเซอร์ไพรส์ พระเจ้าทรงทำให้เราประหลาดใจเสมอ
"ลูกที่รัก พ่อขอย้ำอีกครั้งว่า เราไม่ต้องการเยาวชนที่ทำตัวเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่จงใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด นั่นคือ คิดดีและทำดี และจงให้ตนเองได้รับเรื่องเซอร์ไพรส์จากความรักของพระเจ้า
"นอกจากนี้ ยังมีเยาวชนอีกมากที่เรียนรู้จะเป็นผู้ให้ แต่ไม่เรียนรู้จะเป็นผู้รับ นี่คือสิ่งที่พวกลูกขาดหายนะ จงหัดเรียนรู้ที่จะวอนขอ มันไม่ง่ายที่จะเข้าใจเรื่องนี้ แต่ยังไงขอให้เราเรียนรู้ที่จะได้รับสิ่งต่างๆ ด้วยความสุภาพถ่อมตน จงเรียนรู้พระวรสารจากคนยากจนและเด็กกำพร้า เพราะพวกเขาสอนเราได้มากจริงๆ" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย
ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาพบเยาวชนฟิลิปปินส์
Read More: Vatican Radio






ช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จมาพบและให้โอวาทแก่บรรดาเยาวชน ภายในมหาวิทยาลัยซานโต โทมัส กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยในสันตะสำนักด้วย
หลังจากพระสันตะปาปานำภาวนาเปิดพิธี ช่วงแรกก็เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ของบรรดาเยาวชนที่เคยเป็นอดีตเด็กที่ถูกทอดทิ้งอยู่ตามท้องถนนมาก่อน จากนั้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวตอบกับพวกเขา พร้อมทั้งเทศน์สอนเยาวชนกว่า 25,000 คนที่รอรับฟังโอวาทจากพระองค์ โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสแจ้งทุกคนว่า พระองค์ตัดสินใจจะพูดแบบสดๆ จากใจ โดยไม่ใช้อ่านตามสคริปท์ที่เตรียมมา ทำให้ทุกคนปรบมือชอบใจกันใหญ่
พระสันตะปาปาตรัสว่า "ก่อนอื่น พ่อขอเชิญชวนทุกคนภาวนาให้กับดวงวิญญาณของ คริสเทล ปาดาซาส อาสาสมัครที่เสียชีวิตจากการถูกนั่งร้านขนาดใหญ่หล่นทับจนเสียชีวิตระหว่างมิสซาที่พ่อถวายเมื่อวานนี้ที่เมืองตั๊กโลบัน ตอนนี้ พ่อของคริสเตลกำลังมาที่มะนิลา ส่วนแม่ของเธอกำลังบินมาจากฮ่องกง คริสเตลเป็นเยาวชนเหมือนพวกลูกทุกคน ขอให้เราภาวนาแบบเงียบๆ ให้เธอสักครู่ จากนั้น เราจะมาสวดบทวันทามารีย์ พร้อมๆกันนะ
"มันเป็นความสุขอย่างยิ่งที่พ่อได้มาอยู่ท่ามกลางพวกลูกในวันนี้ พ่อขอกล่าวคำทักทายนี้ไปยังพวกลูกๆจากใจจริง พ่ออยากมาพบกับพวกลูก มาฟังลูก และมาพูดกับลูกๆ พ่ออยากมอบความรักและความหวังที่พระศาสนจักรมีเพื่อลูกๆ ทุกคน เยาวชนที่รัก พ่ออยากให้กำลังใจพวกลูกในการอุทิศตนอย่างร้อนรนที่จะทำงานเพื่อฟื้นฟูสังคม พ่อขอบคุณพวกลูกที่กล่าวต้อนรับพ่อ บรรดาตัวแทนเยาวชนได้แบ่งปันปัญหาและความยากลำบากและความคาดหวังที่มีต่อสังคม (อาทิ ปัญหาทำไมเด็กต้องเป็นโสเภณี)
"หลายคนยังคงสงสัยว่า ทำไมเด็กๆ ยังต้องทนทุกข์ระทม (จากปัญหาเด็กต้องเป็นโสเภณี) พ่ออยากแบ่งปันว่า โลกเราทุกวันนี้ สูญเสียความสามารถในการร้องไห้ร่วมกับผู้ที่ต้องประสบทุกข์ยาก ลองถามตัวเองซิว่า เราเรียนรู้ที่จะร้องไห้ร่วมกับคนที่ประสบทุกข์ยากได้หรือไม่ ดังนั้น ขอให้เราเรียนรู้ที่จะร้องไห้ออกมา ขอให้เราอย่าลืมบทสอนนี้นะ นี่คือคำถามที่ดีมากๆนะเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าทำไมเด็กๆ ยังต้องทนทุกข์ระทม
"ในพระวรสาร พระเยซูก็ร้องไห้ พระองค์ร้องไห้ให้กับเพื่อนๆของพระองค์ พระองค์ทรงร้องจากหัวใจ พระองค์ทรงมีความรู้สึกร่วมไปกับความทุกข์ของคนอื่นๆ พระองค์ทรงเห็นใจพวกเขา ถ้าเราไม่เรียนรู้ว่าเราจะร้องไห้ให้กับความทุกข์ของคนอื่นได้อย่างไร พวกเราไม่สามารถเป็นคริสตชนที่ดีได้เลย นี่คือความท้าทายของพวกเราแต่ละคน
"ทุกวันนี้ มีเยาวชนหลายคนที่ทำตัวเป็นพิพิธภัณฑ์ พวกเขามีทุกอย่างในชีวิต แต่กลับไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร พวกเราไม่ต้องการพิพิธภัณฑ์แบบนี้ แต่พวกเราต้องการเยาวชนที่เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ พวกลูกอาจถามพ่อว่า 'เราจะเป็นนักบุญได้อย่างไร' นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายเช่นกัน นั่นคือ ความท้าทายแห่งความรัก
"สิ่งใดล่ะที่เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องเรียนรู้มากสุดในชีวิต คำตอบคือ การเรียนรู้ที่จะรัก นี่คือความท้าทายที่ชีวิตได้มอบให้กับพวกลูกทุกคน ฉะนั้น เราต้องเรียนรู้ที่จะใช้ 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาทางความคิด ภาษาทางใจ และภาษามือที่ออกไปสัมผัสคนอื่น จงใช้ทั้ง 3 ภาษานี้ให้เป็นไปอย่างสอดคล้องกัน
"รักแท้คือการรักคนอื่นและการให้คนอื่นรักเรา จงทำให้ตัวเราเป็นที่รักของคนอื่น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงยากเย็นเหลือเกินที่จะเป็นความรักอันสมบูรณ์แบบ ความรักคือการเปิดตัวเราเองให้พร้อมรับการสร้างเรื่องเซอร์ไพรส์จากพระเจ้า พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งเรื่องเซอร์ไพรส์ พระเจ้าทรงทำให้เราประหลาดใจเสมอ
"ลูกที่รัก พ่อขอย้ำอีกครั้งว่า เราไม่ต้องการเยาวชนที่ทำตัวเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่จงใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด นั่นคือ คิดดีและทำดี และจงให้ตนเองได้รับเรื่องเซอร์ไพรส์จากความรักของพระเจ้า
"นอกจากนี้ ยังมีเยาวชนอีกมากที่เรียนรู้จะเป็นผู้ให้ แต่ไม่เรียนรู้จะเป็นผู้รับ นี่คือสิ่งที่พวกลูกขาดหายนะ จงหัดเรียนรู้ที่จะวอนขอ มันไม่ง่ายที่จะเข้าใจเรื่องนี้ แต่ยังไงขอให้เราเรียนรู้ที่จะได้รับสิ่งต่างๆ ด้วยความสุภาพถ่อมตน จงเรียนรู้พระวรสารจากคนยากจนและเด็กกำพร้า เพราะพวกเขาสอนเราได้มากจริงๆ" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย
ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาพบเยาวชนฟิลิปปินส์
Read More: Vatican Radio
Comments
Post a Comment