โป๊ปฟรังซิส: “เราต้องตรวจสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในวันสิ้นปี”

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงหวังเห็นคาทอลิกผ่านปี 2014 ไปด้วยการตรวจสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตนเอง ถ้าหากพบความผิดพลาด ขอให้เราวอนขออภัยโทษจากพระเจ้าสำหรับความอ่อนแอของเรา ทรงชี้ เราต้องขอบคุณพระเจ้าในวันสิ้นปี เพราะพระเจ้าทรงสร้างเรามาให้เป็นลูกของพระองค์ แม้บาปจะพยายามแยกเราให้ไกลจากพระบิดาก็ตาม ทรงเตือน ถ้าโกง เราต้องกลับใจอย่างจริงจัง อย่าเป็นทาสของความขี้ขลาดและเห็นแก่ตัวเป็นอันขาด





ช่วงเย็นวันพุธที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทำวัตรเย็น ขับร้องเพลง "เต เดอุม" และอวยพรศีลมหาสนิท โอกาสขอบคุณพระเจ้าและขออภัยโทษสำหรับปี 2014 ที่ผ่านมา พิธนี้ จัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมจำนวนมาก

ในส่วนบทเทศน์ประจำพิธีนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวสอนว่า “เวลาไม่ใช่ของแปลกจากพระเจ้าผู้ทรงเลือกเผยแสดงพระองค์เองและเลือกที่จะช่วยเราในประวัติศาสตร์ ความหมายของเวลาคือการแสดงออกอย่างชัดแจ้งของธรรมล้ำลึกของพระเจ้าและความรักที่จับต้องได้ของพระองค์ที่มีต่อเรา

“พวกเราอยู่ในช่วงเวลาแห่งความรอดและพระหรรษทาน สิ่งนี้นำให้เราคิดเกี่ยวกับช่วงสุดท้ายในการเดินทางของเรา(บนโลกนี้) พวกเราเกิด และวันหนึ่ง พวกเราก็จะตาย อาศัยสัจธรรมความจริง พระศาสนจักรได้สอนเราให้ตรวจสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในช่วงสิ้นปี สอนให้เราตรวจสอบในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน แนวทางปฏิบัติที่เคร่งครัดแบบนี้นำเราให้ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระพรและพระหรรษทานที่เราได้รับ และนำให้เราวอนขอการอภัยโทษต่อความอ่อนแอและบาปของเรา

“เหตุผลขั้นพื้นฐานสำหรับการขอบคุณพระเจ้า ก็คือ พระเจ้าทรงสร้างให้เราเป็นลูกๆของพระองค์ ใช่ นี่คือความจริงที่เราได้รับการสร้างจากพระเจ้า แต่บาปได้แยกเราให้ออกห่างจากพระบิดา และบาปยังสร้างบาดแผลให้เกิดกับความสัมพันธ์ของเรากับพระบิดา ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงทรงส่งพระบุตรมากอบกู้เราโดยการชดใช้ด้วยพระโลหิตของพระองค์ พวกเราคือลูกของพระเจา แต่พวกเราก็กลายเป็นทาส(ของบาป) มันจึงเด่นชัดว่า การเสด็จมาของพระเยซูได้ช่วยไถ่กู้เราและช่วยชีวิตเราออกจากการเป็นทาส ทั้งยังทำให้เราได้เป็นอิสระด้วย

“ในฐานะที่เป็นพระสังฆราชแห่งกรุงโรม พ่อขอใช้โอกาสพิเศษนี้กล่าวถึงประสบการณ์ในสังฆมณฑลแห่งนี้ การได้มาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงโรมถือเป็นของขวัญอันยิ่งใหญ่ เพราะมันหมายถึงการได้ใช้ชีวิตในเมืองอมตะนิรันดร เป็นส่วนหนึ่งของพระศาสนจักรที่ตั้งอยู่บนการเป็นประจักษ์พยานและมรณสักขีของนักบุญเปโตรและนักบุญเปาโล นี่คือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็เป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่หลวงด้วย

“ไม่นานมานี้ ได้มีการเปิดเผยเรื่องการขี้โกง (คอร์รัปชั่น) ในกรุงโรม สิ่งนี้เรียกร้องเราให้กลับใจอย่างจริงจังและกลับใจด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีด้วย เสรีภาพแท้จริงของคริสตชนคือสิ่งจำเป็นที่จะต้องมีความกล้าหาญในการประกาศว่า พวกเราต้องปกป้องผู้ยากไร้ และอย่ากีดกันตัวเองออกจาผู้ยากไร้ นอกจากนี้ เราต้องรับใช้ผู้อ่อนแอ ไม่ใช่ใช้งานผู้อ่อนแอ สังคมที่ทอดทิ้งผู้ยากไร้ กดขี่พวกเขา และทำให้พวกเขากลายเป็นเรื่องอาชญากรรม สังคมเหล่านี้ก็เสื่อมเสีย สูญเสียความหวัง และกลายเป็นสิ่งที่คู่กับการเป็นทาสแห่งความเห็นแก่ตัว ทาสแห่งความขี้ขลาด และสังคมเหล่านี้จะหมดสิ้นการเป็นคริสตชน

“ดังนั้น ขอให้เราวอนขอการอภัยโทษจากพระเจ้า และขอให้เราขอบคุณพระองค์ ขอให้เราวอนขอพระหรรษทานที่จะก้าวเดินต่อไปอย่างอิสระ ขอให้เราสามารถแก้ไขความเสียหายอันใหญ่หลวงที่เกิดขึ้น และขอให้เราสามารถที่จะป้องกันตัวเองจากการยึดติดกับอดีตจนตกเป็นทาสของมัน” พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย

หลังพิธีสวดทำวัตรเย็นจบลง พระสันตะปาปาทรงอวยพรศีลมหาสนิทและขับร้องบทเพลง “เต เดอุม” บทเพลงแห่งการสรรเสริญพระเจ้า ด้วยสำนึกในพระพรต่างๆ ตลอดรอบปีที่ผ่านมา

อนึ่ง หลังจากพิธีทุกอย่างจบลง พระสันตะปาปาได้เสด็จออกไปยังลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร เพื่อภาวนาหน้าถ้ำพระกุมาร และทักทายสัตบุรุษที่มารอรับเสด็จเป็นจำนวนมากด้วย

ประมวลภาพ: การสวดทำวัตรเย็นโอกาสสิ้นปี 2014

Read More: Vatican Radio

Comments