โป๊ปฟรังซิส: “เราต้องเอาชนะความแตกต่างและความเป็นอริในกลุ่มคริสตชน”

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน วันระลึกถึงการถวายมหาวิหารลาเตรัน เชิญเราไตร่ตรองถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชนทุกคน เราต้องเอาชนะความเป็นศัตรูกันและความแตกต่างในกลุ่มคริสตชนให้ได้ พร้อมกันนี้ ทรงร่วมรำลึก 25 ปีแห่งการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินด้วย 



ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมจำนวนมาก

ในส่วนบทเทศน์ก่อนนำภาวนา วันนี้ พระศาสนจักรกำหนดให้เป็นวันระลึกถึงการถวายมหาวิหารลาเตรัน ซึ่งเป็น “อาสนวิหารของสังฆมณฑลโรม” พระสันตะปาปา จึงตรัสแบ่งปันว่า “มหาวิหารลาเตรันเป็นอาสนวิหารของกรุงโรม มีคำพูดหนึ่งตามจารีตประเพณีเรียกที่นี่เป็น ‘แม่ของวัดต่างๆของกรุงโรมและของโลก’ ดังนั้น อาสนวิหารที่น่าเทิดทูนแห่งนี้ของลาเตรันจึงเป็นเหมือนแม่ให้กับวัดต่างๆของกลุ่มคริสตชนแห่งโลกคาทอลิก

“ทุกครั้งที่เราเฉลิมฉลองการถวายวิหาร พวกเราได้ระลึกถึงความจริงอันเป็นเนื้อแท้ว่า วิหารที่เป็นวัตถุนี้ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยก้อนอิฐ ถือเป็นเครื่องหมายของพระศาสนจักรที่มีชีวิตและกระตือรือร้น ซึ่งเป็นวิหารฝ่ายจิตวิญญาณนั่นเอง

“วิหารฝ่ายจิตคือกลุ่มคริสตชนที่ได้รับการทำให้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยพระโลหิตของพระคริสตเจ้า และโดยอาศัยพระจิตของพระเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ พระองค์ทรงเรียกร้องเราแต่ละคนให้ยืนหยัดในของขวัญแห่งความเชื่อและเดินบนหนทางแห่งการเป็นประจักษ์พยานคริสตชน ซึ่งสิ่งนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ

“ดังนั้น วันระลึกถึงการถวายมหาวิหารลาเตรันเชิญชวนเราให้ไตร่ตรองถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของพระศาสนจักรต่างๆและกลุ่มคริสตชน อาศัยความเหมือนกันของกลุ่มคริสตชน ได้ส่งเสริมเราให้พากเพียรที่จะเอาชนะอุปสรรคแห่งความเป็นศัตรูกันและความแตกต่างกัน เพื่อจะได้สร้างสะพานแห่งความเข้าใจและการเสวนากัน และเพื่อทำให้โลกที่เป็นครอบครัวของมนุษยชาติได้คืนดีกันและกัน และร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันแบบพี่น้อง” พระสันตะปาปา ตรัสย้ำ

หลังการภาวนาจบลง พระสันตะปาปาทรงรำลึกถึงเหตุการณ์ครบรอบ 25 ปีแห่งการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการแบ่งแยกยุโรปและโลกออกจากกัน

พระสันตะปาปา ตรัสว่า “การล่มสลาย(ของกำแพงเบอร์ลิน)เกิดในทันที แต่มันถูกทำให้เป็นไปได้จากความพยายามอันยาวนานและหนักหน่วงของผู้คนจำนวนมากที่ต่อสู้เพื่อสิ่งนี้ ทั้งการสวดภาวนาและต้องทนทุกข์ทรมาน บางคนถึงกับต้องสละชีวิตตนเอง ความพยายามเหล่านี้ยังรวมไปถึงบทบาทการเป็นผู้นำของนักบุญจอห์น ปอล ที่ 2 ด้วย

“อาศัยความช่วยเหลือจากพระเจ้า มนุษย์ชายหญิงทุกคนที่มีจิตใจดีจะสามารถเดินหน้าประกาศวัฒนธรรมแห่งการพบหน้ากัน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้กำแพงต่างๆที่ยังแบ่งแยกโลก ได้พังลงไป พ่อยังขอเชิญทุกคนสวดภาวนาให้การเข่นฆ่าและการเบียดเบียนคริสตชนผู้บริสุทธิ์ เพียงเพราะความเชื่อในศาสนา ได้ยุติลงด้วย” พระสันตะปาปา ตรัสตอนท้าย



Comments