โป๊ปฟรังซิส: “พระศาสนจักรต้องไม่อวดว่าความสว่างมาจากตัวเอง แต่เราได้รับจากพระเจ้า”
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน พระศาสนจักรต้องสุภาพถ่อมตน ต้องไม่ป่าวประกาศว่าความสว่างมาจากตัวเอง แต่ความสว่างของพระศาสนจักรมาจากพระเจ้า ทรงชี้ บางครั้ง พระเจ้าต้องการให้พระศาสนจักรส่องสว่างด้วยตัวเอง นั่นคือ ส่องสว่างเพื่อมนุษยชาติ โดยนำความสว่างจากพระเจ้ามานำทาง และต้องเป็นการใช้ความสว่างในทางที่ถูกต้อง
ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายพิธีบูชาขอบพระคุณในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารประจำพิธีนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงเห็นคนรวยเอาเงินเหลือใช้มาทำบุญ ส่วนหญิงม่ายผู้ยากจนทำบุญด้วยเงินทั้งหมดที่มี พระเยซูจึงสอนว่า หญิงม่ายคนนี้ทำบุญมากกว่าทุกคน เพราะเธอนำเงินทั้งหมดมาถวายพระเจ้า
พระสันตะปาปา ทรงเทศน์สอนว่า “พระวรสารวันนี้แสดงให้เห็นแนวโน้ม 2 อย่างที่อยู่ในประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร นั่นคือ พระศาสนจักรถูกทดสอบด้วยความโอหังและพระศาสนจักรที่ยากจน ซึ่งต้องไม่มีใครรวยไปกว่าคู่สมรสของตน ดังเช่นหญิงม่ายที่สุภาพถ่อมตนคนนั้น
“พ่ออยากจะเห็นพระศาสนจักรในภาพลักษณ์นี้ พระศาสนจักรในมุมที่เป็นหญิงม่าย เพราะเธอเฝ้ารอเจ้าบ่าวที่กำลังจะกลับมา แต่เธอได้เห็นเจ้าบ่าวของตัวเองในศีลมหาสนิท ในพระวาจาของพระเจ้า ในคนยากไร้ ใช่! แต่เธอยังคงเฝ้ารอการกลับมาของเจ้าบ่าวของตน
“นี่คือทัศนคติของพระศาสนจักร หญิงม่ายไม่ใช่คนสำคัญ ชื่อของหญิงม่ายไม่ปรากฏอยู่ในหนังสือพิมพ์ ไม่มีใครรู้จักเธอ เธอไม่มีปริญญาติดตัว ไม่มี ไม่มีอะไรเลย เธอไม่เปล่งประกายด้วยแสงของตัวเอง นี่คือสิ่งที่ทำให้พ่อเห็นพระศาสนจักรในภาพลักษณ์ของหญิงคนนี้ พระศาสนจักรต้องไม่ส่องสว่างด้วยตัวเอง แต่ต้องส่องสว่างด้วยแสงจากเจ้าบ่าวของตัวเอง หลายศตวรรษที่ผ่านมา เมื่อพระศาสนจักรต้องการจะส่องแสงด้วยตัวเอง เมื่อนั้น พระศาสนจักรก็ทำผิดแล้ว
“มันเป็นความจริงที่ว่า บางครั้ง พระเจ้าทรงขอให้พระศาสนจักรของพระองค์ต้องมี(แสงสว่าง) และต้องส่องแสงด้วยความสว่างของตนเอง แต่สิ่งนี้หมายถึงพันธกิจของพระศาสนจักรคือการส่องแสงมนุษยชาติ, ความสว่างที่พระศาสนจักรมอบให้ ต้องเป็นความสว่างที่พระศาสนจักรได้รับจากพระคริสตเจ้าด้วยทัศนคติแห่งความสุภาพถ่อมตน
“ทุกสิ่งที่เราทำในพระศาสนจักรคือการช่วยเหลือตัวเราให้ได้รับความสว่าง การรับใช้โดยปราศจากความสว่างไม่ใช่เรื่องดี มันทำให้พระศาสนจักรร่ำรวย หรือเปี่ยมด้วยอำนาจ หรือทำให้พระศาสนจักรแสวงหาอำนาจ หรือนำเราเดินบนหนทางที่ผิด เสมือนที่เกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์ เสมือนที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา เมื่อเราต้องการจะมีความสว่างอื่นที่ไม่ใช่ความสว่างจากพระเจ้า หรือกล่าวคือ ความสว่างจากตัวเราเอง
“เมื่อพระศาสนจักรสุภาพถ่อมตน เมื่อพระศาสนจักรยากจน แม้ในเวลาที่พระศาสนจักรสารภาพถึงความยากไร้ของตน พวกเราต่างก็ได้พบกับสิ่งนี้ นั่นคือ พระศาสนจักรเปี่ยมด้วยความศรัทธา ... ดังนั้น ขอให้เราสวดขอพระเจ้าให้พระศาสนจักรเปี่ยมด้วยความสุภาพถ่อมตน และไม่ป่าวประกาศว่าตนมีความสว่างที่มาจากตัวเอง แต่พระศาสนจักรต้องแสวงหาความสว่างที่มาจากพระเจ้า” พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย
Read More: Vatican Radio
ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายพิธีบูชาขอบพระคุณในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารประจำพิธีนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงเห็นคนรวยเอาเงินเหลือใช้มาทำบุญ ส่วนหญิงม่ายผู้ยากจนทำบุญด้วยเงินทั้งหมดที่มี พระเยซูจึงสอนว่า หญิงม่ายคนนี้ทำบุญมากกว่าทุกคน เพราะเธอนำเงินทั้งหมดมาถวายพระเจ้า
พระสันตะปาปา ทรงเทศน์สอนว่า “พระวรสารวันนี้แสดงให้เห็นแนวโน้ม 2 อย่างที่อยู่ในประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร นั่นคือ พระศาสนจักรถูกทดสอบด้วยความโอหังและพระศาสนจักรที่ยากจน ซึ่งต้องไม่มีใครรวยไปกว่าคู่สมรสของตน ดังเช่นหญิงม่ายที่สุภาพถ่อมตนคนนั้น
“พ่ออยากจะเห็นพระศาสนจักรในภาพลักษณ์นี้ พระศาสนจักรในมุมที่เป็นหญิงม่าย เพราะเธอเฝ้ารอเจ้าบ่าวที่กำลังจะกลับมา แต่เธอได้เห็นเจ้าบ่าวของตัวเองในศีลมหาสนิท ในพระวาจาของพระเจ้า ในคนยากไร้ ใช่! แต่เธอยังคงเฝ้ารอการกลับมาของเจ้าบ่าวของตน
“นี่คือทัศนคติของพระศาสนจักร หญิงม่ายไม่ใช่คนสำคัญ ชื่อของหญิงม่ายไม่ปรากฏอยู่ในหนังสือพิมพ์ ไม่มีใครรู้จักเธอ เธอไม่มีปริญญาติดตัว ไม่มี ไม่มีอะไรเลย เธอไม่เปล่งประกายด้วยแสงของตัวเอง นี่คือสิ่งที่ทำให้พ่อเห็นพระศาสนจักรในภาพลักษณ์ของหญิงคนนี้ พระศาสนจักรต้องไม่ส่องสว่างด้วยตัวเอง แต่ต้องส่องสว่างด้วยแสงจากเจ้าบ่าวของตัวเอง หลายศตวรรษที่ผ่านมา เมื่อพระศาสนจักรต้องการจะส่องแสงด้วยตัวเอง เมื่อนั้น พระศาสนจักรก็ทำผิดแล้ว
“มันเป็นความจริงที่ว่า บางครั้ง พระเจ้าทรงขอให้พระศาสนจักรของพระองค์ต้องมี(แสงสว่าง) และต้องส่องแสงด้วยความสว่างของตนเอง แต่สิ่งนี้หมายถึงพันธกิจของพระศาสนจักรคือการส่องแสงมนุษยชาติ, ความสว่างที่พระศาสนจักรมอบให้ ต้องเป็นความสว่างที่พระศาสนจักรได้รับจากพระคริสตเจ้าด้วยทัศนคติแห่งความสุภาพถ่อมตน
“ทุกสิ่งที่เราทำในพระศาสนจักรคือการช่วยเหลือตัวเราให้ได้รับความสว่าง การรับใช้โดยปราศจากความสว่างไม่ใช่เรื่องดี มันทำให้พระศาสนจักรร่ำรวย หรือเปี่ยมด้วยอำนาจ หรือทำให้พระศาสนจักรแสวงหาอำนาจ หรือนำเราเดินบนหนทางที่ผิด เสมือนที่เกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์ เสมือนที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา เมื่อเราต้องการจะมีความสว่างอื่นที่ไม่ใช่ความสว่างจากพระเจ้า หรือกล่าวคือ ความสว่างจากตัวเราเอง
“เมื่อพระศาสนจักรสุภาพถ่อมตน เมื่อพระศาสนจักรยากจน แม้ในเวลาที่พระศาสนจักรสารภาพถึงความยากไร้ของตน พวกเราต่างก็ได้พบกับสิ่งนี้ นั่นคือ พระศาสนจักรเปี่ยมด้วยความศรัทธา ... ดังนั้น ขอให้เราสวดขอพระเจ้าให้พระศาสนจักรเปี่ยมด้วยความสุภาพถ่อมตน และไม่ป่าวประกาศว่าตนมีความสว่างที่มาจากตัวเอง แต่พระศาสนจักรต้องแสวงหาความสว่างที่มาจากพระเจ้า” พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย
Read More: Vatican Radio
Comments
Post a Comment