โป๊ปฟรังซิส: “อย่าชิงดีชิงเด่น อย่าเห็นแก่ตัว และอย่าอวดว่าเก่งกว่าคนอื่น”

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ คาทอลิกต้องอย่าชิงดีชิงเด่นและเห็นแก่ตัว เฉพาะอย่างยิ่งในเขตวัดและโรงเรียน เพราะนี่คือหนอนที่กัดกินโครงสร้างพระศาสนจักรให้อ่อนแอ ทรงชี้ เราต้องถ่อมตนและมองว่าคนอื่นเหนือกว่าเรา อย่าโอ้อวดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่น ทรงสอน อย่าทำดี โดยหวังผลตอบแทนเด็ดขาด 




ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายพิธีบูชาขอบพระคุณในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำพิธีนี้จากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวฟิลิปปี นักบุญเปาโลสอนว่า “อย่าทำการใดเพื่อชิงดีชิงเด่นหรือโอ้อวดกัน แต่จงถ่อมตนคิดว่าผู้อื่นดีกว่าตน อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นด้วย”

พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันให้ข้อคิดว่า “ความชื่นชมยินดีของพระสังฆราชปรากฏอยู่ในการได้เห็นความรัก ความเป็นหนึ่งเดียวกัน และความสามัคคีในพระศาสนจักรของตน ความสามัคคีนี้คือพระหรรษทานซึ่งพระจิตทรงสร้างขึ้น แต่เราต้องทำหน้าที่ในส่วนของเรา เราต้องทุกอย่างเพื่อช่วยพระจิตในการสร้างความสามัคคีในพระศาสนจักร

“นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมนักบุญเปาโลถึงเรียกร้องชาวฟิลิปปีว่า อย่าทำสิ่งใดที่เห็นแก่ตัว, ทำสิ่งที่โอ้อวดกัน หรือชิงดีชิงเด่นกัน แต่จงถ่อมตนคิดว่าผู้อื่นดีกว่าตนเถิด พวกท่านได้เห็นแล้วว่า นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ในยุคนี้ แต่ถูกสอนมานานแล้ว

“กี่ครั้งแล้ว(ที่เกิดเรื่องแบบนี้)ในสถาบันของเรา ในพระศาสนจักร ในเขตวัด อาทิ ในโรงเรียน เราพบเจอมันบ้างไหม ไม่เลยเหรอ? มันต้องเห็นกันบ้างแหละ พวกการชิงดีชิงเด่นกัน พวกเราเห็นกันแล้วว่า มีหนอน 2 ตัวที่กัดกินโครงสร้างของพระศาสนจักร และทำให้พระศาสนจักรอ่อนกำลังลง นั่นคือ การเป็นศัตรูและการชิงดีชิงเด่นได้ขัดขวางความสามัคคีและความสมานฉันท์เหล่านี้

“แทนที่จะเป็นศัตรูกันและชิงดีชิงเด่นกัน นักบุญเปาโลแนะนำเราว่าอย่างไร ท่านบอกว่า ‘แทนที่จะทำแบบนี้ จงถ่อมตนคิดว่าผู้อื่นสำคัญกว่าตัวท่าน’ นักบุญเปาโลก็รู้สึกกับตนเองแบบนี้ ท่านระบุคุณสมบัติตนว่าไม่มีค่าพอที่จะถูกเรียกว่าเป็นอัครสาวก ท่านเป็นผู้ต่ำต้อยที่สุดท่ามกลางคนอื่น ท่านถ่อมตนแบบสุดๆ นี่คือทัศนคติของท่าน นั่นคือ ท่านคิดว่าคนอื่นเหนือกว่าตนเอง

“นักบุญมาร์ติน เด ปอร์เรส นักบวชโดมินิกันผู้สุภาพถ่อมตน ซึ่งพระศาสนจักรระลึกถึงในวันนี้ เคยกล่าวว่า ‘จิตวิญญาณของท่านคือการรับใช้ เพราะท่านรู้สึกว่า คนอื่นๆ แม้แต่คนบาปหนาที่สุด ยังเหนือกว่าตัวท่านเอง ท่านรู้สึกแบบนี้จริงๆ’

“นอกจากนี้ นักบุญเปาโลก็เรียกร้องเราทุกคนอย่ามองว่าเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นด้วย จงรับใช้ผู้อื่น สิ่งนี้คือความชื่นชมยินดีของพระสังฆราช เมื่อได้เห็นพระศาสนจักรของตนเป็นแบบนี้ กล่าวคือ มีทัศนคติเดียวกัน มีความรักความเมตตาเดียวกัน และอยู่ในความกลมกลืนกันอย่างพร้อมเพรียง นี่คืออากาศที่พระเยซูต้องการในพระศาสนจักร พวกท่านสามารถมีความเห็นต่างกันได้ มันเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ แต่จงอยู่ภายใต้อากาศแบบนี้ บรรยากาศแบบนี้ ด้วยความสุภาพถ่อมตน ความรักความเมตตา โดยปราศจากเหยียดหยามผู้อื่น”

จากนั้น พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารประจำพิธีนี้ พระเยซูทรงสอนเรื่อง “การเลือกเชิญแขก” (ลูกา 14: 12-14) พระเยซูตรัสว่า “เวลาจัดเลี้ยงอาหารกลางวันหรืออาหารค่ำ อย่าเชิญมิตรสหาย, พี่น้อง หรือเพื่อนบ้านที่มั่งมี เพราะท่านจะได้รับการตอบแทน แต่จงเชิญคนยากจน คนพิการ คนง่อย คนตาบอด แล้วท่านจะเป็นสุข พวกเขาไม่มีสิ่งใดตอบแทน แต่พระเจ้าจะตอบแทนท่านแน่นอน”

พระสันตะปาปา ตรัสแบ่งปันพระวรสารนี้ว่า “มันแย่นะ เมื่อเราได้พบคนในพระศาสนจักร ในสังฆมณฑล และในเขตวัดของเรา ที่แสวงหาแต่ผลประโยชน์ส่วนตน ไม่สนใจจะรับใช้ผู้อื่นเลย พระเยซูตรัสในพระวรสารว่า ‘จงอย่าแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน จงอย่าแสวงหาสิ่งตอบแทน จงอย่าเป็นคนประเภทที่พูดว่า ดูซิ ผมทำสิ่งนี้ให้คุณ แต่คุณต้องทำอย่างนี้กลับมาให้ผมนะ’

“และในอุปมาสอนใจวันนี้ ที่ให้เราเชิญคนที่ไม่สามารถตอบแทนเราให้มาร่วมงานเลี้ยง เมื่อมีความสามัคคีในพระศาสนจักร มันก็มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีใครแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน และนี่คือทัศนคติแห่งความรู้สึกขอบคุณ กล่าวคือ ผมทำดี แต่ผมไม่ได้มาทำข้อตกลงผลประโยชน์ด้วยความดีนี้นะ”

ตอนท้าย พระสันตะปาปาทรงเชิญชวนทุกคนตรวจสอบความรู้สึกของตนเองว่า เขตวัดที่เราสังกัดเป็นแบบที่พระองค์แบ่งปันไหม ชุมชนของเราล่ะเป็นแบบไหนกัน มีจิตวิญญาณแห่งความรัก ความเป็นหนึ่งเดียวกัน และความสุภาพถ่อมตน โดยปราศจากความเห็นแก่ตัวและการชิงดีชิงเด่นกันบ้างไหม และในชุมชน ในเขตวัด มีการตระหนักว่าคนอื่นเหนือกว่าเราหรือเปล่า เพราะบางที เราจะได้ค้นพบว่า เรายังมีเรื่องที่ต้องปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นด้วย

Read More: Vatican Radio

Comments