โป๊ปฟรังซิส: “อย่าเป็นนายชุมพาบาลครึ่งทางและคริสตชนครึ่งทาง”

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือน อย่าเป็นนายชุมพาบาลครึ่งทางและคริสตชนครึ่งทาง เพราะคนพวกนี้เปิดประตูวัดออกและยืนแช่อยู่ตรงนั้น แต่ไม่ออกไปตามหาลูกแกะที่หายไป ทรงชี้ นายชุมพาบาลครึ่งทางคือพวกกลัวเสียความสุขสบายในชีวิต แต่นายชุมพาบาลแท้จริงและคริสตชนแท้จริงคือคนที่ก้าวออกไปสุดเขตแดน ไม่หยุดครึ่งๆ กลางๆ ไม่กลัวแม้ต้องสละชีวิตก็ตาม ทรงให้กำลังใจ เราต้องอย่ากลัวเวลาเจอนายชุมพาบาลครึ่งทางหรือคริสตชนครึ่งทางวิจารณ์ต่อว่า เพียงเพราะเราออกไปตามหาลูกแกะที่หลงไปให้กลับมา




ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายพิธีบูชาขอบพระคุณในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารประจำพิธีนี้ พวกฟาริสีบ่นพระเยซูที่พระองค์ต้อนรับคนบาปและกินข้าวร่วมกับคนบาป จากนั้น พระเยซูทรงเล่าเรื่องเปรียบเทียบว่า ถ้าท่านมีแกะหนึ่งร้อยตัว แต่แกะหนึ่งตัวหลงไป ท่านจะไม่ตามหามันใช่ไหม หรือจะเป็นหญิงคนหนึ่งที่มีเงิน 10 เหรียญ และหนึ่งเหรียญหายไป เธอก็จุดตะเกียงและกวาดบ้านจนพบเจอ พร้อมเรียกเพื่อนบ้านมาร่วมชื่นชมยินดี ตอนท้าย พระเยซูจึงสรุปว่า สวรรค์จะมีความยินดีที่คนบาปหนึ่งคนกลับใจ มากกว่าความยินดีเพราะคนชอบธรรม 99 คนที่ไม่ต้องการกลับใจใหม่

พระสันตะปาปา ตรัสแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า “พระเยซูทรงต้อนรับคนบาปและกินอาหารร่วมกับพวกเขา นี่คือเรื่องอัปยศมากๆในยุคนั้น ลองจินตนาการดูนะ ถ้ายุคนั้นมีนักข่าวล่ะ (มันจะเป็นเช่นไร)! แต่พระเยซูเสด็จมาเพื่อเหตุผลนี้ มาเพื่อตามหาคนที่หลงทางออกไปจากพระเจ้า อุปมา 2 เรื่องนี้นำเราให้เห็นว่าหัวใจของพระเจ้านั้นว่าเป็นเช่นใด พระเจ้าไม่เคยหยุด พระเจ้าไม่ได้ไปที่จุดๆหนึ่ง พระเจ้าไปทุกที่ทุกแห่ง พระองค์ไปจนสุดขอบเขต พระองค์มักจะไปยังเส้นเขตแดนเสมอ พระเจ้าไม่หยุดแค่ครึ่งทางบนหนทางแห่งความรอด พระองค์ไม่พูดว่า ‘เราทำทุกอย่างที่สามารถทำได้แล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องของพวกเจ้าแล้วแหละ’ พระเจ้าทรงออกไปตามหาเราเสมอ

“อย่างไรก็ตาม พวกฟาริสีและธรรมาจารย์ได้หยุดเดินกลางทาง พวกเขาห่วงแต่เรื่องความสมดุลของส่วนได้ส่วนเสียของตนและค่อนข้างจะพอใจกับสิ่งเหล่านี้ ‘ใช่ มันเป็นความจริง ฉันทำเหรียญหายไป 3 เหรียญ, ฉันทำแกะหายไป 10 ตัว แต่ฉันก็หามาได้มากกว่าละกัน’ สิ่งนี้ไม่เคยแม้แต่จะเข้ามาอยู่ในความคิดของพระเจ้า พระองค์ไม่ใช่คนหาเงินเก่ง พระเจ้าคือพระบิดาและพระองค์ทรงออกไปทั่วจนสุดปลายแผ่นดินเพื่อช่วยเรา นี่คือความรักของพระเจ้า พวกนายชุมพาบาลครึ่งทางจึงเป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆ

“มันเศร้านะที่เห็นนายชุมพาบาลเปิดประตูวัด และยืนแช่อยู่ตรงนั้น มันเศร้าที่คริสตชนไม่ได้รู้สึกอยู่ภายในใจว่า มันจำเป็นที่จะต้องก้าวออกไปบอกคนอื่นว่าพระเจ้าทรงความดี มันยังมีพฤติกรรมนอกลู่นอกทางอีกเยอะแค่ไหนที่อยู่ในใจของคนที่คิดว่า ตัวเองเป็นผู้ชอบธรรมเหมือนพวกธรรมาจารย์และฟาริสี?

“การเป็นนายชุมพาบาลครึ่งทาง ถือเป็นความพ่ายแพ้ นายชุมพาบาลต้องมีหัวใจของพระเจ้า ต้องออกไปยังสุดเขตแดน เพราะพระเจ้าไม่ต้องการให้ใครแม้แต่คนเดียวต้องหายไป

“นายชุมพาบาลที่แท้จริง คริสตชนที่แท้จริงมีตราประทับอยู่ข้างใน นั่นคือ ไม่ควรมีใครหายไป และนี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมคนพวกนี้ถึงกลัวที่ทำให้มือของตนต้องสกปรก แต่นายชุมพาบาลที่แท้จริงไม่กลัว! นายชุมพาบาลที่แท้จริงจะไปทุกที่ที่เขาต้องการจะไป เขาเสี่ยงชีวิต เขาเสี่ยงจะเสียชื่อเสียง เขาเสี่ยงที่จะสูญเสียความสุขสบาย เสี่ยงที่จะสูญเสียสถานะ แม้แต่เสี่ยงที่จะสูญเสียวิถีชีวิตสงฆ์ แต่เขาคือนายชุมพาบาลที่แท้จริง

“แม้แต่คริสตชนก็ต้องเป็นแบบนี้ มันง่ายที่จะด่าคนอื่น ด่าพวกคนเก็บภาษีและคนบาปเหมือนที่พวกฟาริสีทำ มันง่ายนะ แต่นี่ไม่ใช่คริสตชน! มันไม่ใช่ทัศนคติของการเป็นลูกของพระเจ้า ลูกของพระเจ้าออกไปยังสุดเขตแดน เป็นผู้ให้ชีวิตเหมือนอย่างที่พระเยซูทรงมอบให้คนอื่น

“จำไว้นะ! ต้องไม่มีนายชุมพาบาลครึ่งทาง! ไม่มีเด็ดขาด! ต้องไม่มีคริสตชนครึ่งทาง! ไม่มีเด็ดขาด! นายชุมพาบาลที่ดี คริสตชนที่ดีคือคนที่ก้าวออกไป เขาคือคนที่ออกจากตัวเอง เขาออกไปหาพระเจ้าในคำภาวนาและสรรเสริญพระองค์ เขาออกไปหาผู้อื่นเพื่อนำสารแห่งความรอดไปมอบให้คนเหล่านั้น นายชุมพาบาลที่ดีและคริสตชนที่ดีรู้ดีว่า ความอ่อนโยนคืออะไร ส่วนพวกธรรมาจารย์และฟาริสีไม่รู้จักสิ่งเหล่านี้

“ดังนั้น จงอย่ากลัวเมื่อพวกเขา (นายชุมพาบาลครึ่งทางหรือคริสตชนครึ่งทาง) ต่อว่าเรา เพียงเพราะเราไปเยี่ยมพี่น้องชายหญิงที่อยู่ห่างจากพระเจ้า แต่ขอให้เราวอนขอพระหรรษทานสำหรับเราแต่ละคนและเพื่อพระศาสนจักร มารดาของเราด้วย” พระสันตะปาปา ตรัสตอนท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments