โป๊ปฟรังซิส: "พระศาสนจักรบนโลกนี้ยังต้องเดินจาริกไปเรื่อยๆ เพื่อไปให้ถึงพระอาณาจักรพระเจ้า"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ พระศาสนจักรบนโลกนี้ต้องเดินจาริกต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ถึงพระอาณาจักรสรรค์ พระศาสนจักรบนโลกนี้ไม่ได้สิ้นสุดที่ตัวเองและเพื่อตัวเอง แต่เราต้องก้าวไปหาพระบิดา ทรงแบ่งปัน คนเป็นและคนตายยังสามารถเกื้อกูลกันได้เสมอ เพราะคนเป็นสามารถทำดี ร่วมมิสซา และภาวนาให้ดวงวิญญาณผู้ล่วงลับ ส่วนคนที่ตายไปแล้ว ก็จะสวดภาวนาจากสวรรค์ เพื่อวอนขอพระเจ้าเพื่อเราด้วย




ช่วงสายวันพุธที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 40,000 คน โดยการเข้าเฝ้าในวันนี้จัดขึ้นท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พระสันตะปาปาจึงตรัสสอนแบบสั้นๆ เพื่อไม่ให้สัตบุรุษต้องเปียกปอนกันเกินไป

พระดำรัสสอนในวันนี้ พระสันตะปาปายังคงสอนเรื่องการเดินทางจาริกของพระศาสนจักรไปสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า พระองค์ตรัสว่า "สังคายนาวาติกัน ที่ 2 ย้ำเตือนเราว่า (การเดินทางของ)พระศาสนจักรไม่ได้จบลงในตัวเอง แต่พระศาสนจักรกำลังเดินทางจาริกผ่านทางประวัติศาสตร์เพื่อไปหาพระอาณาจักรสวรรค์ ซึ่งพระศาสนจักรบนโลกนี้คือเมล็ดพันธุ์และจุดเริ่มต้นของพระอาณาจักรสวรรค์ และเมื่อถึงวันสุดท้าย การจาริกเดินทางนี้จะไปถึงเป้าหมายของตนเอง เมื่อสิ่งสร้างทั้งมวลจะกลายเป็นกรุงเยรูซาเล็มใหม่ที่เปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดี, สันติ และความรักของพระเจ้า

"แม้ในตอนนี้ มันยังการจาริกเดินทางต่อเนื่องระหว่างพระศาสนจักรบนโลกกับในสวรรค์ ความต่อเนื่องนี้คือผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในสายพระเนตรของพระเจ้า(ผู้ล่วงลับ)สามารถสนับสนุนเกื้อกูลคนที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยการวิงวอนขอพระเจ้าเพื่อเรา พวกเขาภาวนาจากสวรรค์ ในทางกลับกัน พวกเราที่อยู่ในโลกนี้ก็ถูกเชิญชวนให้ทำสิ่งดี สวดภาวนา และร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ เพื่อจะได้บรรเทาความทุกข์ของดวงวิญญาณที่กำลังรอคอยความสุขนี้

"ในฐานะสมาชิกของพระศาสนจักร ความแตกต่างนี้ไม่ใช่ระหว่างคนตายหรือคนเป็น แต่ความแตกต่างนี้คือผู้ที่อยู่ในพระคริสตเจ้ากับไม่ได้อยู่ในพระคริสตเจ้า" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย

หลังการเทศน์สอนจบลง พระสันตะปาปาทรงขอคำภาวนาเป็นพิเศษจากทุกคน เพราะวันศุกร์นี้ พระองค์จะเสด็จเยือนตุรกีและร่วมฉลองนักบุญแอนดรูว์ องค์อุปถัมภ์ของพระศาสนจักรออโธด็อกซ์ด้วย

Read More: Vatican Radio

Comments