โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนอิจฉา-นินทา-มองว่าตัวเองเจ๋งกว่าคนอื่น คือพวกตัดแขนขาพระศาสนจักร"
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือน การที่คริสตชนอิจฉากัน นินทากัน และมองว่าตัวเองเจ๋งกว่าคนอื่น ถือเป็นการตัดแขนขาพระศาสนจักร และนี่คือสงครามที่ไม่ได้เริ่มรบในสมรภูมิ แต่รบที่หัวใจของเรา ทรงชี้ หัวใจขี้อิจฉาจะพัฒนาตัวเองให้เป็น "หัวใจแห่งความเคียดแค้น" ทรงย้ำ คริสตชนที่คิดว่าตัวเอง "เจ๋ง" กว่าคนอื่น ไม่ต่างจากฟาริสีที่บอกพระเจ้าว่า "ขอบคุณที่ให้ลูกไม่ต้องเป็นเหมือนคนพวกนี้" ตอนท้าย ทรงเชิญทุกคนร่วมรำลึก "วันระลึกถึง นักบุญจอห์น ปอล ที่ 2" ด้วย
ช่วงสายวันพุธที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 80,000 คน ความพิเศษของวันนี้คือเป็นวันที่พระศาสนจักรกำหนดให้เป็นวันระลึกถึง "นักบุญจอห์น ปอล ที่ 2" ด้วย ส่วนเนื้อหาเทศน์สอนประจำวันนี้ พระสันตะปาปายังคงเทศน์เตือนสติเกี่ยวกับเรื่องความแตกแยกในกลุ่มคริสตชนเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว
พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ในยุคสมัยของนักบุญเปาโล กลุ่มคริสตชนที่เมืองโครินธ์ต้องประสบกับความยากลำบากมากมายในเรื่องความรู้สึกแตกแยก ความอิจฉาริษยา ความเข้าใจผิดต่อกัน และการมองว่าคนอื่นไม่มีความสำคัญ เรื่องทั้งหมดนี้ถือเป็นเรื่องไม่ดีเลย เพราะแทนที่จะช่วยกันสร้างและช่วยเหลือพระศาสนจักรให้เจริญเติบโตประดุจร่างกายของพระคริสตเจ้า พวกเขากลับทำให้มันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พวกเขาตัดแขนขาตัวเองชัดๆ
"สิ่งเหล่านี้ก็เกิดในยุคของเราด้วย ลองคิดถึงกลุ่มคริสตชนของเราดูซิ คิดถึงชุมชนวัดของเรา มันมีการอิจฉาและนินทามากแค่ไหน มันมีความเข้าใจผิดและการมองคืนอื่นไม่ใช่คนสำคัญมากขนาดไหน แล้วมันเป็นไงล่ะ มันคือการตัดอวัยวะของเราชัดๆ นี่คือจุดเริ่มต้นของสงคราม สงครามที่ไม่ได้เริ่มสู่กันที่สมรภูมิ แต่มันเป็นสงครามที่เริ่มต้นในจิตใจของเรา เริ่มด้วยความเข้าใจผิด ความแตกแยก การอิจฉา และการต่อสู่ชิงดีชิงเด่นกันเอง นี่คือสิ่งที่คริสตชนเมืองโครินธ์เป็น พวกเขาคือแชมป์ของการอิจฉาและนินทากัน นักบุญเปาโลจึงต้องเสนอแนะแนวทางปฏิบัติให้กับพวกเขา เพื่อจะได้ปรับปรุงให้พวกเขาดีขึ้น
"สิ่งแรกและเป็นสิ่งสำคัญสุด พวกเราต้องตระหนักถึงพระพรและคุณภาพของพี่น้องเราในกลุ่มที่เราอยู่ พวกความอิจฉาต่างๆ เช่น 'คนนี้ซื้อรถใหม่ เราอิจฉามันจริงๆ' หรือ 'คนนี้ถูกล็อตเตอรี่ เราอิจฉามันจัง' หรือ 'คนนี้ทำเรื่องนี้ได้ดี เราอิจฉามัน' ทั้งหมดนี้คือการตัดแขนขา(ของพระศาสนจักร) มันเป็นการทำร้าย(พระศาสนจักร) สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น! เพราะเมื่อการอิจฉาริษาเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และมันครอบครองใจเราจนเต็ม หัวใจแห่งการอิจฉาจะเป็นหัวใจที่ขมขื่น เคียดแค้น เป็นหัวใจที่แทนที่จะมีเลือดสูบฉีด กลับถูกสูบฉีดด้วยน้ำส้มสายชูรสเปรี้ยวแทน
"แทนที่เราจะอิจฉาคนอื่น เราต้องพูดกับพระเจ้าดีกว่าไหมว่า 'ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงประทานสิ่งดีๆ ให้กับคนที่เราอิจฉา' คริสตชนต้องรู้จักใกล้ชิดและมีส่วนร่วมกับความทุกข์ของคนยากไร้และคนที่ต้องการความช่วยเหลือแบบสุดๆ กล่าวคือ เราต้องแสดงออกถึงความสำนึกในทุกสิ่ง(ที่พระเจ้าประทานมาให้) จงขอบคุณพระเจ้า จงทำให้หัวใจของเรารู้จักพูดคำว่าขอบคุณ หัวใจที่รู้จักพูดขอบคุณคือหัวใจที่ดีงาม เป็นหัวใจที่ล้ำค่า เป็นหัวใจที่เปี่ยมสุข เพราะมันรู้จักขอบคุณนั่นเอง พ่อจึงอยากถามพวกเราว่า 'พวกเราทุกคนรู้จักพูดคำว่าขอบคุณบ้างไหม ไม่เสมอไปใช่ไหม? เพราะอะไร เพราะเรายังมีความอิจฉาริษยา ความอิจฉามันจะทำให้เราถอยหลังนะ
"สุดท้ายนี้ พ่ออยากขอร้องพวกเราทุกคน ก้าวตามคำแนะนำของนักบุญเปาโลที่บอกกับคริสตชนเมืองโครินธ์ว่า 'จงอย่ามองว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นเด็ดขาด!' มีคนมากแค่ไหนที่คิดว่าตัวเองเจ๋งกว่าคนอื่น พวกเราก็เช่นกัน ถ้าคิดแบบนี้เราก็เหมือนพวกฟาริสีที่พูดว่า 'ขอบคุณพระเจ้าที่ให้ข้าพเจ้าไม่ต้องเป็นเหมือนคนพวกนี้ ขอบคุณพระเจ้าที่ให้ข้าพเจ้าเหนือกว่าพวกนั้น' นี่คือสิ่งแย่มากๆ อย่าทำแบบนี้เด็ดขาด" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย
หลังการเทศน์สอนจบลง พระสันตะปาปาทรงเชิญทุกคนระลึกถึง "นักบุญจอห์น ปอล ที่ 2" โอกาสที่พระศาสนจักรคาทอลิกกำหนดให้ วันที่ 22 ตุลาคม เป็น "วันระลึกถึงนักบุญจอห์น ปอล ที่ 2" โดยพระสันตะปาปา ฟรังซิส ตรัสว่า "วันนี้ เราระลึกถึงนักบุญจอห์น ปอล ที่ 2 ผู้เชิญเราทุกคนให้เปิดประตูหัวใจให้กับพระคริสตเจ้า ในการเสด็จกลับไปเยือนโปแลนด์ครั้งแรกหลังจากได้รับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปา พระองค์ทรงวิงวอนขอพระจิตโปรดฟื้นฟูโปแลนด์ขึ้นใหม่ พระองค์ทรงวางใจในธรรมล้ำลึกแห่งพระเมตตาของพระเจ้า มรดกแห่งจิตวิญญาณของพระองค์จะไม่มีวันถูกลืมเลือน แต่ขอให้เราแบ่งปันและแสดงออกอย่างชัดแจ้งถึงคุณความดีของพระศาสนจักร ครอบครัว และสังคม"
อนึ่ง ก่อนการเข้าเฝ้าทั่วไป พระสันตะปาปาทรงอนุญาตให้คณะผู้บริหาร เทรนเนอร์ และนักเตะของ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค มาเข้าเฝ้าในวาติกัน โดยพระสันตะปาปาทรงกล่าวกับ "บาเยิร์น" ว่า "เมื่อคืนนี้ พวกท่านเล่นได้สุดยอดไปเลย!" (บาเยิร์น บุกมาถล่ม โรม่า ถึงกรุงโรม 7-1) นอกจากนี้ บาเยิร์น ได้ถวายเงิน 1 ล้านยูโร (41 ล้านบาท) เพื่อให้พระสันตะปาปานำไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ด้วย
ประมวลภาพ: การเข้าเฝ้าทั่วไป
ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาต้อนรับทีมบาเยิร์น มิวนิค
Read More: Vatican Radio
ช่วงสายวันพุธที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 80,000 คน ความพิเศษของวันนี้คือเป็นวันที่พระศาสนจักรกำหนดให้เป็นวันระลึกถึง "นักบุญจอห์น ปอล ที่ 2" ด้วย ส่วนเนื้อหาเทศน์สอนประจำวันนี้ พระสันตะปาปายังคงเทศน์เตือนสติเกี่ยวกับเรื่องความแตกแยกในกลุ่มคริสตชนเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว
พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ในยุคสมัยของนักบุญเปาโล กลุ่มคริสตชนที่เมืองโครินธ์ต้องประสบกับความยากลำบากมากมายในเรื่องความรู้สึกแตกแยก ความอิจฉาริษยา ความเข้าใจผิดต่อกัน และการมองว่าคนอื่นไม่มีความสำคัญ เรื่องทั้งหมดนี้ถือเป็นเรื่องไม่ดีเลย เพราะแทนที่จะช่วยกันสร้างและช่วยเหลือพระศาสนจักรให้เจริญเติบโตประดุจร่างกายของพระคริสตเจ้า พวกเขากลับทำให้มันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พวกเขาตัดแขนขาตัวเองชัดๆ
"สิ่งเหล่านี้ก็เกิดในยุคของเราด้วย ลองคิดถึงกลุ่มคริสตชนของเราดูซิ คิดถึงชุมชนวัดของเรา มันมีการอิจฉาและนินทามากแค่ไหน มันมีความเข้าใจผิดและการมองคืนอื่นไม่ใช่คนสำคัญมากขนาดไหน แล้วมันเป็นไงล่ะ มันคือการตัดอวัยวะของเราชัดๆ นี่คือจุดเริ่มต้นของสงคราม สงครามที่ไม่ได้เริ่มสู่กันที่สมรภูมิ แต่มันเป็นสงครามที่เริ่มต้นในจิตใจของเรา เริ่มด้วยความเข้าใจผิด ความแตกแยก การอิจฉา และการต่อสู่ชิงดีชิงเด่นกันเอง นี่คือสิ่งที่คริสตชนเมืองโครินธ์เป็น พวกเขาคือแชมป์ของการอิจฉาและนินทากัน นักบุญเปาโลจึงต้องเสนอแนะแนวทางปฏิบัติให้กับพวกเขา เพื่อจะได้ปรับปรุงให้พวกเขาดีขึ้น
"สิ่งแรกและเป็นสิ่งสำคัญสุด พวกเราต้องตระหนักถึงพระพรและคุณภาพของพี่น้องเราในกลุ่มที่เราอยู่ พวกความอิจฉาต่างๆ เช่น 'คนนี้ซื้อรถใหม่ เราอิจฉามันจริงๆ' หรือ 'คนนี้ถูกล็อตเตอรี่ เราอิจฉามันจัง' หรือ 'คนนี้ทำเรื่องนี้ได้ดี เราอิจฉามัน' ทั้งหมดนี้คือการตัดแขนขา(ของพระศาสนจักร) มันเป็นการทำร้าย(พระศาสนจักร) สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น! เพราะเมื่อการอิจฉาริษาเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และมันครอบครองใจเราจนเต็ม หัวใจแห่งการอิจฉาจะเป็นหัวใจที่ขมขื่น เคียดแค้น เป็นหัวใจที่แทนที่จะมีเลือดสูบฉีด กลับถูกสูบฉีดด้วยน้ำส้มสายชูรสเปรี้ยวแทน
"แทนที่เราจะอิจฉาคนอื่น เราต้องพูดกับพระเจ้าดีกว่าไหมว่า 'ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงประทานสิ่งดีๆ ให้กับคนที่เราอิจฉา' คริสตชนต้องรู้จักใกล้ชิดและมีส่วนร่วมกับความทุกข์ของคนยากไร้และคนที่ต้องการความช่วยเหลือแบบสุดๆ กล่าวคือ เราต้องแสดงออกถึงความสำนึกในทุกสิ่ง(ที่พระเจ้าประทานมาให้) จงขอบคุณพระเจ้า จงทำให้หัวใจของเรารู้จักพูดคำว่าขอบคุณ หัวใจที่รู้จักพูดขอบคุณคือหัวใจที่ดีงาม เป็นหัวใจที่ล้ำค่า เป็นหัวใจที่เปี่ยมสุข เพราะมันรู้จักขอบคุณนั่นเอง พ่อจึงอยากถามพวกเราว่า 'พวกเราทุกคนรู้จักพูดคำว่าขอบคุณบ้างไหม ไม่เสมอไปใช่ไหม? เพราะอะไร เพราะเรายังมีความอิจฉาริษยา ความอิจฉามันจะทำให้เราถอยหลังนะ
"สุดท้ายนี้ พ่ออยากขอร้องพวกเราทุกคน ก้าวตามคำแนะนำของนักบุญเปาโลที่บอกกับคริสตชนเมืองโครินธ์ว่า 'จงอย่ามองว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นเด็ดขาด!' มีคนมากแค่ไหนที่คิดว่าตัวเองเจ๋งกว่าคนอื่น พวกเราก็เช่นกัน ถ้าคิดแบบนี้เราก็เหมือนพวกฟาริสีที่พูดว่า 'ขอบคุณพระเจ้าที่ให้ข้าพเจ้าไม่ต้องเป็นเหมือนคนพวกนี้ ขอบคุณพระเจ้าที่ให้ข้าพเจ้าเหนือกว่าพวกนั้น' นี่คือสิ่งแย่มากๆ อย่าทำแบบนี้เด็ดขาด" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย
หลังการเทศน์สอนจบลง พระสันตะปาปาทรงเชิญทุกคนระลึกถึง "นักบุญจอห์น ปอล ที่ 2" โอกาสที่พระศาสนจักรคาทอลิกกำหนดให้ วันที่ 22 ตุลาคม เป็น "วันระลึกถึงนักบุญจอห์น ปอล ที่ 2" โดยพระสันตะปาปา ฟรังซิส ตรัสว่า "วันนี้ เราระลึกถึงนักบุญจอห์น ปอล ที่ 2 ผู้เชิญเราทุกคนให้เปิดประตูหัวใจให้กับพระคริสตเจ้า ในการเสด็จกลับไปเยือนโปแลนด์ครั้งแรกหลังจากได้รับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปา พระองค์ทรงวิงวอนขอพระจิตโปรดฟื้นฟูโปแลนด์ขึ้นใหม่ พระองค์ทรงวางใจในธรรมล้ำลึกแห่งพระเมตตาของพระเจ้า มรดกแห่งจิตวิญญาณของพระองค์จะไม่มีวันถูกลืมเลือน แต่ขอให้เราแบ่งปันและแสดงออกอย่างชัดแจ้งถึงคุณความดีของพระศาสนจักร ครอบครัว และสังคม"
อนึ่ง ก่อนการเข้าเฝ้าทั่วไป พระสันตะปาปาทรงอนุญาตให้คณะผู้บริหาร เทรนเนอร์ และนักเตะของ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค มาเข้าเฝ้าในวาติกัน โดยพระสันตะปาปาทรงกล่าวกับ "บาเยิร์น" ว่า "เมื่อคืนนี้ พวกท่านเล่นได้สุดยอดไปเลย!" (บาเยิร์น บุกมาถล่ม โรม่า ถึงกรุงโรม 7-1) นอกจากนี้ บาเยิร์น ได้ถวายเงิน 1 ล้านยูโร (41 ล้านบาท) เพื่อให้พระสันตะปาปานำไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ด้วย
ประมวลภาพ: การเข้าเฝ้าทั่วไป
ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาต้อนรับทีมบาเยิร์น มิวนิค
Read More: Vatican Radio
Comments
Post a Comment