โป๊ปฟรังซิส: "พวกอนุรักษ์นิยม อย่าปิดตัวเอง พวกหัวก้าวหน้า อย่าหลงตามจิตตารมณ์ทางโลก"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ พระศาสนจักรคาทอลิกจะเปิดประตูออกให้กว้างๆ เพื่อต้อนรับผู้ต้องการความช่วยเหลือและผู้เป็นทุกข์ถึงบาป ทรงเตือนสติพวกอนุรักษ์นิยม อย่าปิดตัวเอง อย่าตกเป็นเหยื่อความไม่ยืดหยุ่น อย่าทำตัวเป็นพวกเมตตาจอมปลอมที่ต้องการจะปิดบาดแผลมากกว่ารักษาบาดแผล เช่นเดียวกัน ทรงเตือนพวกหัวก้าวหน้าและเสรีนิยม อย่าหลงกับการประจญให้ลงจากไม้กางเขน จนก้มหัวให้กับจิตตารมณ์ทางโลก มากกว่าจะก้มหัวให้พระจิต ขณะที่ผลลงมติประชุมสมัชชาพระสังฆราช ปรากฏว่า เรื่องการอนุญาตให้คาทอลิกที่หย่าร้างและไปแต่งงานใหม่ สามารถรับศีลมหาสนิทได้ พระสังฆราชเห็นด้วย 104 เสียง ไม่เห็นด้วย 74 เสียง ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลงการอภิบาลผู้รักเพศเดียวกัน พระสังฆราชเห็นด้วย 118 เสียง ไม่เห็นด้วย 62 เสียง อย่างไรก็ตาม วาติกันย้ำว่า นี่เป็นแค่ผลการประชุม เพื่อหารือต่อไป ยังไม่ใช่บทสรุปสุดท้ายและไม่ใช่การประกาศใช้หลักคำสอนแต่อย่างใด



ช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการปิดการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก ในเรื่องครอบครัว การประชุมนี้มีการลงมติหัวข้อการอภิปรายในการประชุมหลายเรื่อง อาทิ การอนุญาตให้คาทอลิกที่หย่าร้างและไปแต่งงานใหม่ สามารถรับศีลมหาสนิทได้หรือไม่ และ การอภิบาลคนที่รักเพศเดียวกัน เป็นต้น

สำหรับพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับพระสังฆราชที่ร่วมประชุม มีใจความว่า "มันเป็นการเดินทางของมนุษยชาติ เดินไปพร้อมกับการปลอบโยนปลอบขวัญ และมันยังมีช่วงเวลาแห่งความหดหู่ ความตึงเครียด และการประจญล่อลวง ซึ่งความเป็นไปได้บางส่วนนั้น สามารถระบุได้ตามนี้

"อันดับแรก การประจญล่อลวงให้เป็นศัตรูกับความไม่ยืดหยุ่น มันคือความต้องการที่จะปิดตัวเอง ไม่อนุญาตให้พระเจ้ามาสร้างความประหลาดใจให้กับเราในตัวบทบัญญัติ ไม่อนุญาตให้พระเจ้ามาสร้างความประหลาดใจให้กับเราในความมั่นใจเกี่ยวกับสิ่งที่เรารู้และสิ่งใดที่เรายังคงต้องเรียนรู้และบรรลุ จากช่วงเวลาของพระคริสตเจ้า มันคือการประจญล่อลวงที่ออกนอกหน้ามาก มันเป็นการประจญล่อลวงของความเคร่งครัด ของความระมัดระวังตัวแบบสุดๆ หรือเราเรียกสิ่งนี้ว่า 'พวกหัวอนุรักษ์นิยม'

"การประจญล่อลวงที่มีแนวโน้มที่จะทำลายคุณงามความดี มันมาในรูปแบบของการอ้างความเมตตาจอมปลอม ซึ่งต้องการจะปิดบาดแผล มากกว่าจะรักษาบาดแผล มันเป็นการรักษาอาการของโรค ไม่ได้รักษาที่สาเหตุของโรค มันคือการประจญล่อลวงของ 'คนที่ทำดี' อันเกิดจากความกลัว หรือที่เราเรียกกันว่า 'พวกหัวก้าวหน้าและพวกหัวเสรีนิยม'

"การประจญล่อลวงที่จะเปลี่ยนก้อนหินให้เป็นขนมปัง (ลูกา 4:1-4) และยังเป็นการเปลี่ยนขนมปังให้เป็นก้อนหิน และโยนมันให้กับคนบาป ผู้อ่อนแอ และผู้ป่วย และมันยังเป็นการให้คนอื่นแบกสัมภาระหนัก โดยที่เราไม่ได้แบกเลย (ลูกา 11:46)

"การประจญล่อลวงให้ลงจากไม้กางเขน เพื่อมาสร้างความพอใจให้สัตบุรุษ และไม่อยู่บนไม้กางเขน เพื่อเติมเต็มพระประสงค์ของพระบิดา แต่เลือกจะก้มหัวให้กับจิตตารมณ์ฝ่ายโลก แทนที่จะชำระทุกสิ่งและก้มหัวให้กับพระจิตของพระเจ้า

"พี่น้องที่รัก การประจญล่อลวงต้องไม่ทำให้เราหวาดกลัวหรือทำให้เรากระอักกระอ่วนใจ รวมทั้งต้องไม่ทำให้เราปราศจากความกล้าหาญ เพราะไม่มีศิษย์ที่อยู่เหนืออาจารย์ พระเยซูยังถูกประจญล่อลวง ดังนั้น ศิษย์ของพระองค์ไม่ควรคาดหวังว่าเราจะได้รับการดูแลที่ดีกว่า(พระองค์)

"นี่คือพระศาสนจักร นี่คือสวนองุ่นของพระเจ้า พระศาสนจักรเป็นแม่และเป็นอาจารย์ที่ห่วงใยทุกคน พระศาสนจักรไม่กลัวที่จะถลกแขนเสื้อและชโลมน้ำมันลงบนบาดแผลของผู้คน นี่คือพระศาสนจักรที่ไม่กลัวที่จะไปกินและดื่มกับโสเภณีหรือคนบาป พระศาสนจักรได้เปิดประตูออกอย่างกว้างขวาง เพื่อต้อนรับผู้ต้องการความช่วยเหลือและผู้เป็นทุกข์ถึงบาป

"พวกเราได้พูดบางอย่างเกี่ยวกับพระสันตะปาปา หน้าที่ของพระสันตะปาปาคือการยืนยันถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในพระศาสนจักร มันคือการย้ำเตือนผู้มีความเชื่อทุกคนถึงหน้าที่ของเขาในการติดตามพระวรสารของพระคริสตเจ้า มันคือการย้ำเตือนว่า หน้าที่แรกของผู้อภิบาลคือการหล่อเลี้ยงฝูงแกะ พระเจ้าทรงมอบความวางใจให้กับพวกเขาให้ดูแลฝูงแกะด้วยความเมตตาแบบพ่อดูแลลูก โดยปราศจากความกลัวแบบผิดๆเกี่ยวกับลูกแกะที่หายไป" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย

หลังจากพระสันตะปาปากล่าวจบ วาติกันได้จัดการแถลงข่าวทันที เพราะพระสันตะปาปาทรงสั่งให้แถลงต่อทุกคน เพื่อความโปร่งใส โดยคุณพ่อเฟเดริโก้ ลอมบาร์ดี้ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าววาติกัน ได้เป็นประธานในการแถลงข่าวครั้งสุดท้าย เพื่อสรุปการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก ในเรื่องครอบครัว

คุณพ่อลอมบาร์ดี้ แจ้งว่า ผลการลงมติของพระสังฆราชในเรื่องการอนุญาตให้คาทอลิกที่หย่าร้างและไปแต่งงานใหม่ สามารถรับศีลมหาสนิทได้ มีพระสังฆราชลงคะแนนเห็นด้วยกับเรื่องนี้ ไม่ถึง 2 ใน 3 ของเสียงทั้งหมด โดยพระสังฆราชเห็นด้วย 104 เสียง ไม่เห็นด้วย 74 เสียง ทั้งนี้ วาติกันย้ำว่า นี่เป็นการลงคะแนนเพื่อจะได้ "หารือกันต่อไป" นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงหลักคำสอนของพระศาสนจักร ดังนั้น ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการอนุญาตให้คาทอลิกที่หย่าร้างและไปแต่งงานใหม่ สามารถรับศีลมหาสนิทได้ และก็ไม่ได้หมายความว่า เรื่องการอนุญาตให้คาทอลิกที่หย่าร้างและไปแต่งงานใหม่ สามารถรับศีลมหาสนิทได้ จะถูกปฏิเสธแต่อย่างใด

ส่วนเรื่องการอภิบาลคนรักเพศเดียวกัน แม้บรรดาพระสังฆราชส่วนมากจะเห็นด้วยว่า ควรมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการอภิบาลพวกเขา แต่เสียงลงมติก็ไม่ถึง 2 ใน 3 ของเสียงทั้งหมด โดยพระสังฆราชเห็นด้วย 118 เสียง ไม่เห็นด้วย 62 เสียง กระนั้น วาติกันย้ำว่า นี่เป็นการลงคะแนนเพื่อจะได้ "หารือกันต่อไป" นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงหลักคำสอนของพระศาสนจักร

ตอนท้าย คุณพ่อลอมบาร์ดี้ ย้ำอีกครั้งว่า การประชุมจบลงแล้ว แต่หัวข้อที่กล่าวมา ไม่ได้ถูกปฏิเสธ แต่จะมีการศึกษาและหารือกันต่อไป

Read More: Vatican Radio


หมายเหตุ - เมื่อคืนในการแถลงข่าวจากวาติกัน นักข่าวยังไม่ได้รับพระดำรัสของพระสันตะปาปาแบบเต็มๆ ทุกคนได้แต่ฟังสรุปจากวาติกัน วันนี้ วาติกันตีพิมพ์ตัวเต็ม ทำให้ความหมายบางอย่างเปลี่ยนไป และสมบูรณ์มากขึ้น ดังนั้น Pope Report จึงขอใช้ข่าวนี้เป็น "ข่าวแบบทางการ" ของการปิดการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก


Comments