โป๊ปฟรังซิส: "วิธีให้คนสมัครบวชเยอะๆ แต่ตอนบวชไม่กรองให้ดี ส่งผลเสียต่อพระศาสนจักร"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเผย ไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่เชิญชวนให้คนเยอะๆ มาสมัครบวชเป็นพระสงฆ์ แต่สุดท้าย ไม่คัดกรองคุณสมบัติให้ดี ผลเสียจึงเกิดกับพระศาสนจักร ทรงย้ำ พระสงฆ์ต้องตระหนักให้มากๆ ถึงการเป็นพระสงฆ์ ไม่ใช่หลงปล่อยตัวไปตามจิตตารมณ์ทางโลก ทรงชี้ กระบวนการอบรมเป็นพระสงฆ์ ต้องเคี่ยวเข็ญเรื่องมิติด้านสติปัญญา ความเป็นมนุษย์ และมิติฝ่ายจิตของแต่ละคน



ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมของสมณกระทรวงพระสงฆ์ ที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงเตือนสติพวกเขาแบบจัดเต็ม ไล่ตั้งแต่การกล่าวถึงกระบวนการอบรมเตรียมตัวเพื่อบวชเป็นสงฆ์, การให้กำลังใจสงฆ์ที่ล้มลงระหว่างติดตามพระเยซู รวมไปถึงการแสดงความเห็นส่วนพระองค์ว่า เวลาคัดเลือกคนจะบวชเป็นสงฆ์ ต้องคัดให้ดีๆ มิฉะนั้น ผลเสียจะตกกับพระศาสนจักร

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ผู้ที่ได้รับกระแสเรียกให้มาทำงานอภิบาลสงฆ์ พวกเขาไม่ใช่เจ้านายของกระแสเรียก แต่เป็นคนทำงาน เป็นผู้บริหารพระพรที่พระเจ้าทรงมอบความวางใจในตัวเขา ทั้งนี้ เพื่อจะได้รับใช้คุณความดีแห่งประชากรของพระเจ้า ประชากรของพระเจ้าในที่นี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะคนที่ปฏิบัติศาสนกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนที่ห่างไกลจากพระเจ้าและยังรวมถึงคนที่ไม่ได้ยืนยันความเชื่อในพระเยซูด้วย นอกจากนี้ เรายังถูกเรียกมาเพื่อรับใช้กลุ่มคริสตชน เราถูกเรียกมาเพื่อดูแลขุมทรัพย์ของกระแสเรียกและส่งเสริมพวกเขา และต้องเดินร่วมทางไปกับมวลสัตบุรุษ

"กระแสเรียกคือเพชรในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งจำเป็นต้องเจียระไนและเอาใจใส่อย่างดี เพื่อที่กระแสเรียกนี้จะได้ส่องแสงท่ามกลางสัตบุรุษ แม้ในทุกวันนี้ กระบวนการอบรมบวชเป็นพระสงฆ์ พระศาสนจักรต้องการจะนำวิธีการสอนของพระคริสตเจ้ามาปรับใช้ โดยผ่านทางการเชื้อเชิญคนอื่นๆให้มาติดตามเรา และทำเหมือนที่เราทำ กระบวนการอบรมบวชเป็นพระสงฆ์ไม่ใช่ถนนวันเวย์ (เดินรถทางเดียว) ที่ใครจะมาถ่ายทอดแนวคิดเทวศาสตร์และแนวคิดชีวิตจิตให้ก็ได้

"กระบวนการอบรมเป็นพระสงฆ์จะติดตัวผู้อภิบาลที่ได้รับการบวชแล้วไปตลอดชีวิต พระสงฆ์ไม่มีวันยุติการเป็นศิษย์ของพระเยซู แม้ว่าพวกเขาจะเดินสะดุดหรือล้มลงยามที่เขาติดตามพระองค์ ดังนั้น การอบรมเป็นพระสงฆ์จะต้องระบุถึงมิติด้านสติปัญญา ความเป็นมนุษย์ และมิติฝ่ายจิตของแต่ละคน

"ในทำนองเดียวกัน ทุกกระแสเรียกมาพร้อมกับพันธกิจการแห่งการประกาศข่าวดี การประกาศพระวรสารได้เริ่มขึ้นโดยผ่านทางความเป็นพี่น้องและความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระสังฆราชและคณะสงฆ์ ความเป็นหนึ่งเดียวกันสามารถที่จะนำไปสู่ความขยันขันแข็งในการแพร่ธรรมอย่างทรงพลัง สิ่งนี้จะทำให้เราเป็นอิสระจากการประจญล่อลวงที่ทำให้เราหลงไปกับแสวงหาการกินดีอยู่ดีและการเห็นชอบกับสิ่งต่างๆ

"พระสงฆ์ที่ได้รับการบวชแล้ว จำเป็นต้องตระหนักถึง 'การเป็นพระสงฆ์' ท่ามกลางฝูงแกะ จงอย่าหลงไปตามจิตตารมณ์ทางโลก จงมีสติรู้ผิดชอบชั่วดีว่า วิถีชีวิตของเราต้องประกาศพระวรสาร ความชื่นชมยินดีและความสงบของกระแสเรียกการเป็นสงฆ์จะดำรงอยู่กับท่านในยามที่เหนื่อยล้าและเจ็บปวด ความชื่นชมยินดีและความสงบของกระแสเรียก จะมาจากการสวดภาวนา

"พวกเราต้องการพระสงฆ์ เพราะทุกวันนี้ กระแสเรียกการเป็นสงฆ์กำลังหายสาบสูญ พระเจ้าทรงเรียก แต่คนตอบสนองยังไม่พอ ส่วนพระสังฆราช พวกเราก็ได้ดึงคนเด็กหนุ่มที่สมัครเข้ามาเต็มที่ แต่เราไม่คัดกรอง สิ่งนี้ไม่ดีกับพระศาสนจักร ดังนั้น ขอเถอะ ศึกษาแนวทางกระแสเรียกให้ดีๆ จงทดสอบให้ดีว่า คนๆนี้เป็นของพระเจ้าจริงหรือไม่ คนๆนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ คนๆนี้ดูแข็งแรงดีหรือไม่ คนๆนี้มีความสามารถที่จะอุทิศชีวิตให้กับการประกาศพระวรสารหรือไม่ หรือเขามีความสามารถในการสร้างครอบครัวและตัดใจไม่ติดตามพระเยซู

"พวกเรามีปัญหามากๆนะในทุกวันนี้ มีปัญหามากในหลายสังฆมณฑล เรามีปัญหาก็เพราะกลอุบาย (Chicanery) ที่พระสังฆราชบางคนชอบใช้เพื่อดึงคนแบบไม่คัดเลือกแบบนี้นี่แหละ ดังนั้น โปรดคิดถึงประชากรดีๆของพระเจ้าด้วยนะ" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments