โป๊ปฟรังซิส: อย่าพูดแค่ "ฉันจะไปสวรรค์" แต่จงพูดอีกว่า "ฉันจะกลับคืนชีพเหมือนพระคริสต์"
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงถาม ทำไมเราพูดกันแค่ "ฉันจะไปสวรรค์ ฉันไม่ต้องการตกนรก" ทำไมไม่มีใครสักคนที่พูดต่อไปอีกว่า "ฉันจะกลับคืนชีพเหมือนพระคริสตเจ้า" ทรงสอน แก่นแท้แห่งอัตลักษณ์คริสตชนคือการอยู่กับพระเจ้า อยู่กับพระองค์ทั้งกายและวิญญาณ
![](//2.bp.blogspot.com/-SmtvTjIpet4/Ua4NYmx0zRI/AAAAAAAAF24/rFwGLJz1bbg/s1600/June%2B4%2C%2B2013%2B-%2BPope%2BFrancis%2Bprayed%2Bat%2Btomb%2Bof%2BBlessed%2BJohn%2BXXIII_3.jpg)
ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซานี้ มาจากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ท่านกล่าวว่า "ถ้าพระคริสตเจ้าไม่ได้กลับคืนชีพ การเทศน์สอนของเราก็ไร้ประโยชน์ และความเชื่อของท่านก็ไร้ประโยชน์เช่นเดียวกัน ยิ่งกว่านั้น เราจะกลายเป็นพยานเท็จ เพราะเรายืนยันว่า พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนชีพจากความตาย"
พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันบทอ่านนี้ว่า "คริสตชนชาวโครินธ์ในตอนนั้น มีความเชื่อว่าพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพจะช่วยพวกเขาจากสวรรค์ แต่พวกเขาไม่เข้าใจเท่าไหร่เกี่ยวกับการกลับคืนชีพ พวกเขามีความคิดว่า ใช่! คนตายต้องถูกพิพากษา แต่พวกเขาไม่ได้ตกนรก คนดีก็เช่นกัน (ไม่ได้ไปสวรรค์) เพราะพวกเขาจะล่องลอยในจักรวาล อยู่ในอากาศ เป็นเพียงแค่วิญญาณต่อหน้าพระเจ้า ดังนั้น นักบุญเปาโลจึงเสนอสิ่งที่ถูกต้องในมุมมองที่ต่างออกไปให้พวกเขา นั่นคือ การกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า ไม่เฉพาะคริสตชนโครินธ์เท่านั้นที่มีความยากลำบากในการเข้าใจคำสอนนี้ พวกคริสตชนชาวกรีกที่เอเธนส์ ซึ่งเป็นนักปรัชญาผู้ฉลาดหลักแหลม ก็ยังกลัวและไม่เข้าเรื่องนี้เช่นกัน
"พวกคริสตชนชาวกรีกที่เอเธนส์ มองว่า คำสอนคริสตชนเรื่องการกลับคืนชีพของร่างกายเป็นเรื่องน่าอาย พวกเขาไม่เข้าใจ! นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักบุญเปาโลจึงเสนอคำตอบที่เป็นเหตุผลและชัดเจนให้พวกเขา นั่นคือ 'ถ้าพระคริสตเจ้ากลับคืนชีพ เหตุใดพวกท่านจึงพูดว่าบรรดาผู้ตายจะไม่กลับคืนชีพ? ถ้าพระคริสตเจ้ากลับคืนชีพ บรรดาผู้ตายก็ต้องกลับคืนชีพด้วย' นี่คือพลังของการแปรเปลี่ยน พลังแห่งงานของพระจิตที่เราได้รับตอนรับศีลล้างบาป ซึ่งแปรเปลี่ยนพวกเราให้กลับคืนชีพ
"เมื่อเราพูดถึงสิ่งนี้ เราจะพูดเป็นภาษาของเราว่า 'ฉันจะไปสวรรค์ ฉันไม่ต้องการตกนรก' เราพูดแค่นี้และเราก็หยุดตรงนี้เลย ไม่มีใครสักคนที่พูดต่อไปว่า 'ฉันจะกลับคืนชีพเหมือนพระคริสตเจ้า' ไม่มีเลย! แม้แต่พวกเราเองก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจเรื่องนี้อยู่นะ
"แก่นแท้แห่งอัตลักษณ์คริสตชนคือการอยู่กับพระเจ้า อยู่กับพระองค์ทั้งกายและวิญญาณ นี่แหละ อัตลักษณ์คริสตชนเราจึงจะสมบูรณ์แบบ" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย
Read More: Vatican Radio
![](http://2.bp.blogspot.com/-SmtvTjIpet4/Ua4NYmx0zRI/AAAAAAAAF24/rFwGLJz1bbg/s1600/June%2B4%2C%2B2013%2B-%2BPope%2BFrancis%2Bprayed%2Bat%2Btomb%2Bof%2BBlessed%2BJohn%2BXXIII_3.jpg)
ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซานี้ มาจากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ท่านกล่าวว่า "ถ้าพระคริสตเจ้าไม่ได้กลับคืนชีพ การเทศน์สอนของเราก็ไร้ประโยชน์ และความเชื่อของท่านก็ไร้ประโยชน์เช่นเดียวกัน ยิ่งกว่านั้น เราจะกลายเป็นพยานเท็จ เพราะเรายืนยันว่า พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนชีพจากความตาย"
พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันบทอ่านนี้ว่า "คริสตชนชาวโครินธ์ในตอนนั้น มีความเชื่อว่าพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพจะช่วยพวกเขาจากสวรรค์ แต่พวกเขาไม่เข้าใจเท่าไหร่เกี่ยวกับการกลับคืนชีพ พวกเขามีความคิดว่า ใช่! คนตายต้องถูกพิพากษา แต่พวกเขาไม่ได้ตกนรก คนดีก็เช่นกัน (ไม่ได้ไปสวรรค์) เพราะพวกเขาจะล่องลอยในจักรวาล อยู่ในอากาศ เป็นเพียงแค่วิญญาณต่อหน้าพระเจ้า ดังนั้น นักบุญเปาโลจึงเสนอสิ่งที่ถูกต้องในมุมมองที่ต่างออกไปให้พวกเขา นั่นคือ การกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า ไม่เฉพาะคริสตชนโครินธ์เท่านั้นที่มีความยากลำบากในการเข้าใจคำสอนนี้ พวกคริสตชนชาวกรีกที่เอเธนส์ ซึ่งเป็นนักปรัชญาผู้ฉลาดหลักแหลม ก็ยังกลัวและไม่เข้าเรื่องนี้เช่นกัน
"พวกคริสตชนชาวกรีกที่เอเธนส์ มองว่า คำสอนคริสตชนเรื่องการกลับคืนชีพของร่างกายเป็นเรื่องน่าอาย พวกเขาไม่เข้าใจ! นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักบุญเปาโลจึงเสนอคำตอบที่เป็นเหตุผลและชัดเจนให้พวกเขา นั่นคือ 'ถ้าพระคริสตเจ้ากลับคืนชีพ เหตุใดพวกท่านจึงพูดว่าบรรดาผู้ตายจะไม่กลับคืนชีพ? ถ้าพระคริสตเจ้ากลับคืนชีพ บรรดาผู้ตายก็ต้องกลับคืนชีพด้วย' นี่คือพลังของการแปรเปลี่ยน พลังแห่งงานของพระจิตที่เราได้รับตอนรับศีลล้างบาป ซึ่งแปรเปลี่ยนพวกเราให้กลับคืนชีพ
"เมื่อเราพูดถึงสิ่งนี้ เราจะพูดเป็นภาษาของเราว่า 'ฉันจะไปสวรรค์ ฉันไม่ต้องการตกนรก' เราพูดแค่นี้และเราก็หยุดตรงนี้เลย ไม่มีใครสักคนที่พูดต่อไปว่า 'ฉันจะกลับคืนชีพเหมือนพระคริสตเจ้า' ไม่มีเลย! แม้แต่พวกเราเองก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจเรื่องนี้อยู่นะ
"แก่นแท้แห่งอัตลักษณ์คริสตชนคือการอยู่กับพระเจ้า อยู่กับพระองค์ทั้งกายและวิญญาณ นี่แหละ อัตลักษณ์คริสตชนเราจึงจะสมบูรณ์แบบ" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย
Read More: Vatican Radio
Comments
Post a Comment