โป๊ปฟรังซิส: "การศึกษายุคนี้แตกสลาย ถ้าครูลงโทษเด็ก พ่อแม่เด็กมาเอาเรื่องทันที"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ ระบบการศึกษายุคนี้แตกสลายแล้ว ครูลงโทษนักเรียนเมื่อไหร่ วันรุ่งขึ้น พ่อแม่จะมาเอาเรื่องครูทันที ต่างจากสมัยก่อนที่พระองค์เคยเป็นเด็กเกเร และครูเชิญแม่มาพบ แม่ยังสั่งให้พระองค์ขอโทษครูด้วยซ้ำที่ทำตัวไม่ดี พร้อมกันนี้ ทรงใช้ "กูเกิ้ล แฮงค์เอ้าส์" สอนเด็กๆ อย่ากลัวที่จะเป็นสะพานสร้างสันติให้กับทุกคน จงรู้จักทำงานเป็นทีม เพื่อสร้างโลกให้ดียิ่งขึ้น 



ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการประชุมของ "สกอลัส อ็อคกูร์เรนเตส" หน่วยงานของอาร์เจนตินาที่สร้างเครือข่ายการเรียนรู้เพื่อผสานความเชื่อทางศาสนาเข้ากับวัฒนธรรมต่างๆทั่วโลก โดย สกอลัส อ็อคกูร์เรนเตส ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดงานฟุตบอลนัดพิเศษเพื่อสันติภาพ ซึ่งมีบรรดานักฟุตบอลระดับโลกทั้งในอดีตและปัจจุบันมาร่วมกันอย่างคับคั่งด้วย

สำหรับพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับผู้เข้าร่วมการประชุม พระองค์ทรงกล่าวแบบสดๆ ไม่มีสคริปท์ที่ร่างไว้ โดยทรงร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จจากการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ รวมถึงร่วมยินดีกับความสำเร็จของโครงการต่างๆที่ทางหน่วยงานได้วางไว้ เพื่อจะได้สร้างสะพานเชื่อมระหว่างศาสนสัมพันธ์กับวัฒนธรรมได้อย่างกลมกลืนและสงบสุข

จากนั้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวถึงปัญหายอดฮิตในยุคนี้ นั่นคือ ครูลงโทษนักเรียนเมื่อไหร่ วันรุ่งขึ้น พ่อแม่จะมาเอาเรื่องครูทันที พระสันตะปาปาทรงระบุว่า นี่คือการพังทลายของระบบการศึกษาของยุคนี้ไปแล้ว นอกจากนี้ ยังทรงตำหนิวัฒนธรรมทิ้งๆขว้างๆที่ให้เงินเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง และไม่สนใจมนุษย์เท่าที่ควร

"พ่อมีเรื่องอยากแบ่งปันให้ฟัง ตอนพ่อเรียนชั้นประถม ครูได้เรียกคุณแม่ของพ่อไปพบ เพื่อตำหนิเรื่องความประพฤติของพ่อในชั้นเรียน คุณแม่ของพ่อมาที่โรงเรียนและครูก็ยืนยันหนักแน่นว่าตัวพ่อเองเกเรมาก คุณแม่ได้สั่งให้พ่อ(หมายถึงพระสันตะปาปา)ขอโทษครู ซึ่งพ่อก็ทำตามที่แม่บอก แต่สำหรับทุกวันนี้ ถ้าครูจะลงโทษเด็กล่ะก็ วันต่อมา พ่อแม่ของเด็กจะมาโรงเรียนเพื่อเอาเรื่องคุณครูทันที ระบบการศึกษามันพังแล้ว! สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็เป็นเหมือนสังคมทุกวันนี้ เราต้องซ่อมแซมระบบการศึกษาแล้วล่ะ

"เราไม่สามารถปล่อยให้เด็กๆติดอยู่กับความเมตตาของวัฒนธรรมทิ้งๆขว้างๆ ซึ่งเงินและความรุนแรงมีอำนาจเหนือทุกสิ่ง เห็นได้ชัดว่า วัฒนธรรมทิ้งๆขว้างๆได้นำรากฐานที่ดีออกไปจากสังคม เด็กๆต้องอยู่กับวัฒนธรรมทิ้งๆขว้างๆ เพราะพวกเขาไม่ได้รับการศึกษาหรืออาจเป็นได้ว่า พวกเขาไม่เป็นที่ต้องการของพ่อแม่ กล่าวคือ อัตราการเกิดของประเทศที่พัฒนาแล้วมันต่ำมากๆ นี่คือสัญญาณเตือนเลยนะ! เช่นเดียวกัน ผู้สูงอายุก็ถูกดูแลแบบทิ้งๆขว้างๆ และพวกเขาก็เข้าสู่ระบบการุญฆาตแบบเงียบๆนั่นเอง

"อีกหนึ่งวัฒนธรรมทิ้งๆขว้างๆที่พ่ออยากพูดถึงคือเยาวชนไม่มีงานทำในประเทศที่พัฒนาแล้ว นี่คือพันธะหน้าที่เราจะต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อเผชิญหน้ากับวัฒนธรรมที่ทำให้ผู้สูงอายุและเยาวชนกลายเป็นคนด้อยโอกาสในสังคม วัฒนธรรมแบบนี้ให้ระบบการเงินเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง มากกว่าจะให้ความสำคัญกับมนุษย์เป็นศูนย์กลาง

"ดังนั้น มันจึงสำคัญมากๆที่จะต้องสร้างเครือข่ายที่ครอบคลุมและเปี่ยมด้วยความเข้มแข็งจากคอนเน็กชั่นของพวกเรา เพื่อจะได้ส่งเสริมและช่วยเหลือเด็กๆให้เติบโตอย่างถูกต้อง เครือข่ายนี้ต้องมอบความหวัง สิ่งดีงาม และการพบปะพูดคุยกันให้กับพวกเขา ถ้าเด็กๆขาดสิ่งเหล่านี้ไป มันจะเหลือแค่หนทางนำไปสู่การทำสิ่งผิดกฏหมายและติดยาเสพติดแน่นอน" พระสันตะปาปา ตรัสแบ่งปัน

หลังจากพระสันตะปาปาให้โอวาทเสร็จ ก็เป็นการเชื่อมต่อ "กูเกิ้ล แฮงเอ้าส์" เพื่อทำการคอนเฟอเร๊นซ์คอลล์กับเยาวชนจากตุรกี, เอล ซัลวาดอร์, อิสราเอล, แอฟริกาใต้ และ ออสเตรเลีย โดยพระสันตะปาปาทรงให้เด็กๆถาม แล้วพระองค์จะตอบ

เยาวชนจากออสเตรเลียถามพระสันตะปาปาว่า "ทุกวันนี้ เยาวชนสามารถที่จะทำได้ทั้ง 'สร้างสะพานเชื่อมความสัมพันธ์' และ 'สร้างกำแพงทำลายความสัมพันธ์' ดังนั้น พวกเราจะทำอะไรได้มากกว่านี้ไหมครับ"

พระสันตะปาปา ตรัสตอบว่า "กำแพงสร้างการขวางกั้น มันแบ่งเราออกจากกัน ส่วนสะพาน เชื่อมเราให้ใกล้กันยิ่งขึ้น สิ่งที่ลูกๆเยาวชนสามารถทได้ในวันนี้คือจงสื่อสารกับคนอื่นๆให้มากๆ เพื่อจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้กัน และอย่าลืมที่จะรับฟังเวลาที่คนอื่นพูดกับเรา เพราะการสื่อสารคือการให้ การสื่อสารพูดจากันคือความเมตตาที่มีให้กัน การสื่อสารคือการเคารพ และการพูดจากันคือหนึ่งในรูปแบบของการหลีกเลี่ยงการเหยียดเชื้อชาติศาสนากัน

"พ่ออยากกล่าวถึงสิ่งที่ สกอลัส อ็อคกูร์เรนเตส เราทำอยู่สักนิดนึง นี่คือหน่วยงานที่วางรากฐาน 3 อย่างให้กับเยาวชนโดยผ่านทางการศึกษา, กีฬา และวัฒนธรรม กีฬาจัดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันสอนเราให้ทำงานเป็นทีม กีฬายังช่วยปกป้องเราจากการหลงตัวเอง ปกป้องเราจากการมีอีโก้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการทำงานเป็นทีมจึงสำคัญมากๆ การเรียนก็ต้องเรียนไปกับเพื่อนๆเรียนเป็นกลุ่ม และใช้ชีวิตไปด้วยกันให้เป็นทีมเดียวกัน

"จงอย่ากลัว จงอย่ากลัวที่จะสร้างสะพานแห่งสันติเข้าหากัน จงดำเนินชีวิตเป็นหมู่คณะ สร้างทีมขึ้นมา เพื่อสร้างสันติภาพให้กับโลก ที่สำคัญ อย่าลืมวัฒนธรรม ความรู้ และมรดกทางศาสนาที่บรรพบุรุษมอบให้พวกเรานะ"  พระสันตะปาปา ตรัสสอน

ตอนท้าย เยาวชนชาวตุรกี ซึ่งออนไลน์จากนครอิสตันบูล ทูลถามพระสันตะปาปาว่า "จะเป็นไปได้ไหมครับที่เราจะได้เห็นโลกให้มีความน่าอยู่มากขึ้นกว่านี้"

พระสันตะปาปา ตรัสตอบว่า "พ่อไม่มีลูกแก้ววิเศษที่จะมองแล้วบอกว่า โลกจะดีขึ้นหรือแย่ลง! พ่อรู้อย่างเดียวว่า โลกจะดีขึ้นได้ด้วยการที่เราช่วยกันทำงานอย่างหนักในการสร้างสันติและความสามัคคี พ่อเชื่อแบบนั้นนะ"

ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาประชุมกับ สกอลัส อ็อคกูร์เรนเตส

Read More: Vatican Radio

Comments