โป๊ปฟรังซิส: "บุญราศีชาวเกาหลีสอนเราว่าต้องให้พระคริสต์เป็นที่หนึ่งในชีวิต"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงสถาปนาบุญราศีชาวเกาหลี 124 องค์ พร้อมให้ข้อคิด บุญราศีชาวเกาหลีสอนเราว่าชีวิตนี้ต้องให้พระคริสตเจ้าเป็นที่หนึ่งเสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ทรงหวังเห็นแบบอย่างของบุญราศีเป็นแรงผลักดันให้ชาวเกาหลีทำงานสร้างสันติและสร้างการคืนดีกันในสังคม  






ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาสถาปนาบุญราศี เปาโล ยุน ชี-ชุง และเพื่อนมรณสักขี 123 คน โดยพิธีนี้จัดที่ลานหน้าประตูควังฮวา กรุงโซล ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 1,000,000 คน

สำหรับประวัติของบุญราศีใหม่นั้น ทั้งหมดถูกฆ่าตายจากการเบียดเบียนศาสนา เพราะยืนยันจะจัดงานศพแบบคาทอลิกให้กับแม่ของ เปาโล ยุน ชี-ชุง โดยวันนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ที่จัดการสถาปนาบุญราศีกลุ่มที่ถูกฆ่าตายสมัยเบียดเบียนศาสนา ครั้งแรกจัดในค.ศ. 1925 (สถาปนาบุญราศีไป 79 องค์) ครั้งที่สองจัดในค.ศ.1968 (สถาปนาไป 24 องค์)

ในส่วนบทเทศน์ประจำพิธีนี้ พระสันตะปาปา เริ่มต้นตรัสสอนว่า "พระคริสตเจ้าทรงมีชัยเหนือความตาย น.เปาโลกล่าวว่า ใครเล่าจะแยกเราออกจากความรักของพระคริสตเจ้าได้ วันนี้ เรามาร่วมยินดีกับ เปาโล ยุน ชี-ชุง และเพื่อนมรณสักขี 123 คน ที่ได้อุทิศชีวิตเพื่อพระคริสตเจ้าและตายดุจมรณสักขี มรณสักขีทั้ง 124 คนมีชีวิตและตายเพื่อพระคริสตเจ้า ตอนนี้ พวกเขาได้เสวยสุขกับพระองค์แล้ว ในความตายและการกลับคืนชีพของพระบุตร พระเจ้าทรงให้เราได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระองค์ด้วย ชัยชนะเหนือความตายของมรณสักขีและการเป็นประจักษ์พยานของพวกเขาต่อความรักของพระเจ้า ยังคงผลิดอกออกผลในสังคมเกาหลีทุกวันนี้

"สำหรับธรรมล้ำลึกแห่งพระญาณสอดส่องของพระเจ้าต่อ ความเชื่อในคาทอลิกได้เข้ามาในเกาหลี ผ่านทางหัวใจและความรู้สึกนึกคิดของชาวเกาหลี การที่เรามาร่วมฉลองบุญราศีเปาโล ยุน ชี-ชุง และผองเพื่อน ทำให้เราได้มีส่วนร่วมในการกลับไปสู่ความทรงจำแรกของพระศาสนจักรในเกาหลี พึงระลึกว่า ความเชื่อคริสตชนได้มายังเกาหลีผ่านทางหัวใจของความคิดของชาวเกาหลี ไม่ใช่ผ่านทางธรรมทูต ประวัติศาสตร์ของเกาหลีบอกเราถึงความสำคัญของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความงดงามของกระแสเรียกฆราวาส

"พ่ออยากเชิญชวนคาทอลิกเกาหลี พึงระลึกว่า พระเจ้าได้เข้ามายังดินแดนนี้ได้อย่างไร และมรดกทางความเชื่อที่เราต้องรักษาไว้เป็นอย่างไร มรดกจากมรณสักขีสามารถบันดาลให้เราทำงานด้วยความสามัคคี เพื่อสันติภาพ เสรีภาพ และเพื่อสร้างคืนดีกันในสังคม

"ศาสนาคริสต์เติบโตอย่างรวดเร็วในเกาหลี เพราะชาวเกาหลีต้องการจะแสวงหาความจริงผ่านทางศาสนา หลังจากได้สัมผัสกับพระคริสตเจ้าผ่านทางพระวรสาร คริสตชนเกาหลีได้เปิดใจให้กับพระเจ้า คริสตชนกลุ่มแรกในเกาหลีตระหนักเสมอว่า ด้วยประเพณีสังคมที่แตกต่าง พวกเขาจึงปฏิบัติศาสนกิจแบบเรียบง่าย

"ด้วยเหตุนี้ มรณสักขีได้แสดงให้เราเห็นว่าความสว่างส่องโลกและเกลือดองโลกนั้นเป็นอย่างไร มรณสักขีชาวเกาหลีและกลุ่มคริสตชนยุคแรกในเกาหลีเต็มใจที่สละชีวิตเพื่อยืนยันถึงพระคริสตเจ้า มรณสักขีได้ยอมสละทุกอย่างในชีวิต เพราะเขารู้ว่า พระคริสตเจ้าคือสมบัติแท้จริงของพวกเขา มรณสักขีเรียกเราให้เรานำพระคริสตเจ้าเป็นที่หนึ่งเสมอ และท้าทายเราให้คิดว่า เราจะยอมตายเพื่ออะไร มรณสักขีสอนเราถึงความสำคัญของความรักความเมตตาในชีวิตความเชื่อ มรณสักขียังสอนเราว่า การจะรักและรับใช้พระคริสตเจ้าต้องทำอย่างไร ทำได้ด้วยการรับใช้เพื่อนพี่น้องที่ต้องการความช่วยเหลือนั่นเอง

"สุดท้ายนี้ ขอให้คำภาวนาของมรณสักขีชาวเกาหลี และอาศัยคำเสนอวิงวอนของแม่พระ ช่วยเราให้ได้รับพระหรรษทานและรักษาความเชื่อของเราตลอดไป" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments