โป๊ปฟรังซิส: "ในเขตวัดและกลุ่มคริสตชน ต้องไม่มีการนินทา"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ ในเขตวัดและกลุ่มคริสตชน ต้องไม่มีการนินทา ทรงชี้ น่าเศร้าที่ความแตกแยกในกลุ่มคริสตชนเกิดเพราะการนินทา อิจฉาริษยา และการหมั่นไส้กัน ทรงสอน ไม่ได้บอกให้คริสตชนตัดลิ้นตัวเองเพื่อจะได้ไม่พูดนินทา แต่เราต้องรู้จักอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยวนของปีศาจ ทรงยกตัวอย่างคนที่เป็นนักบุญได้เลยคือคนที่ไม่พูดจาให้ร้ายใคร ไม่นินทา มีแต่ยิ้มรับทุกสถานการณ์

ภาพ: AP

ช่วงสายวันพุธที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 12,000 คน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนเน้นเรื่อง "ความแตกแยกในกลุ่มคริสตชน" เป็นหลัก

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ความรู้สึกอบอุ่นใจอย่างแรกของพวกเรา เกิดจากความจริงที่ว่า พระเยซูทรงสวดภาวนาอย่างมากเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันในกลุ่มศิษย์ของพระองค์ นี่คือการภาวนาในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย พระเยซูตรัสหลายครั้งว่า 'พระบิดาเจ้า ขอให้พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกัน' พระองค์ภาวนาเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกัน

"จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มีบาปมากมายหลายประการที่เกิดจากความแตกแยกในพระศาสนจักร ขอให้เราอย่าคิดถึงแค่ความแตกแยก แต่ขอให้คิดถึงความผิดพลาดแบบพื้นๆในเขตวัดของเรา นี่คือบาปของกลุ่มคริสตชน เขตวัดของเราถูกจัดตั้งมาเพื่อเป็นสถานที่แห่งการแบ่งปัน แต่บางครั้ง มันน่าเศร้ามากที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายจากการอิจฉา ความริษยา และความเกลียดชัง กล่าวคือ ทุกคนนินทากัน มันต้องไม่มีการนินทาในเขตวัด! พ่อขอย้ำเลยนะ!

"พ่อขอถามหน่อยว่า มันดีหรือไม่ดี ถ้าหากมีใครบางคนได้รับเลือกให้เป็นประธานของหน่วยงาน แต่แล้วมันก็มีการนินทาเขาลับหลัง ถ้าหากคนๆนั้นได้รับเลือกให้เป็นประธานครูคำสอน แล้วเกิดมีการนินทาคนๆนั้นล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ มันก็ไม่ใช่พระศาสนจักร เราต้องอย่าทำแบบนี้เด็ดขาด

"พ่อไม่ได้บอกให้พวกท่านตัดลิ้นตัวเองทิ้งนะ ไม่ๆ พ่อไม่ได้พูดแบบนั้น แต่พ่อขอพระเจ้าโปรดประทานพระหรรษทานของการอดทนอดกลั้นให้กับเรา นั่นคือ การนินทาคือความเป็นคน แต่มันไม่ใช่ความเป็นคริสตชน! การนินทาเกิดเพราะเราให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง มันเกิดเมื่อเราดิ้นรนแสวงหาความสำเร็จส่วนตัวและทำให้เราตัดสินคนอื่น เราต้องเลิกทำนิสัยนี้ให้ได้ เพราะมันทำให้เราแตกแยก มากกว่าจะรวมเราเป็นหนึ่งเดียวกัน

"ถ้าเรามองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ มันมีความแตกแยกเยอะมากในกลุ่มคริสตชน ในประวัติศาสตร์ การแตกแยกของคริสตชนเกิดจากเราขัดแย้งกันเพราะความแตกต่างทางเทวศาสตร์ นี่ไม่ใช่คริสตชน! เราต้องถูกแบ่งออกจากกันจนถึงตอนนี้ ก็เพราะเรื่องแบบนี้ ดังนั้น เราต้องวอนขอพระเจ้าเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันของกลุ่มคริสตชน ความเป็นหนึ่งเดียวกันที่พระเยซูทรงต้องการ เพราะพระองค์ทรงภาวนาเพื่อเราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน

"พ่ออยากแบ่งปันเรื่องหนึ่งให้ฟังนะ ครั้งหนึ่ง ในสังฆมณฑลที่พ่อเคยรับผิดชอบ พ่อได้ยินเรื่องน่าสนใจมากๆเรื่องหนึ่งและเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ มันเป็นเรื่องของหญิงชราท่านหนึ่ง ซึ่งทำงานรับใช้วัดมาตลอดชีวิต บางคนที่รู้จักเธอดี พูดว่า 'หญิงคนนี้ไม่เคยพูดจาให้ร้ายใครเลย ไม่เคยนินทาใคร เธอมีแต่ยิ้มอย่างเดียว' ผู้หญิงแบบนี้แหละที่จะสามารถถูกแต่งตั้งเป็นนักบุญได้ในวันพรุ่งนี้เลย นี่เป็นเรื่องดีและเป็นแบบอย่างที่ดีมากๆ

"เราต้องตรวจสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเราอย่างจริงจัง ความแตกแยกในกลุ่มคริสตชน หรือจะเป็นในโรงเรียน, เขตวัด, หน่วยงาน หรือจะเป็นที่ไหนก็ตาม คือบาปผิดร้ายแรง เพราะมันคือผลงานของปีศาจ แต่สำหรับพระเจ้าแล้ว พระองค์ต้องการให้เราเติบโตด้วยการให้อภัยและรักกันและกัน ดังนั้น ขอให้เราดำเนินชีวิตให้เหมือนพระเยซูให้มากๆ และนี่แหละคือความศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร นั่นคือ การตระหนักถึงพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้า และได้รับการเติมเต็มด้วยพระเมตตาและพระหรรษทานของพระองค์

"พี่น้องที่รัก ขอให้พระวาจาของพระเยซูดังก้องให้หัวใจเราเสมอ นั่นคือ 'เป็นบุญของผู้สร้างสันติ เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า' ขอให้เราตั้งใจจริงที่จะวอนขอการอภัยจากพระเจ้าในทุกครั้งที่เราเป็นต้นเหตุให้เกิดความแตกแยกและความไม่เข้าใจกันในกลุ่มชุมชนของเรา ขอให้เราตระหนักว่า เราจะไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน ถ้าไม่มีการกลับใจ

"ว่าแต่ อะไรคือการกลับใจ? ขอให้เราสวดขอพระเจ้า เพื่อพระองค์จะประทานให้เรารู้ว่า การกลับใจคือการไม่พูดจาให้ร้ายใคร ไม่ด่าใคร ไม่นินทา แต่เลือกที่จะรักทุกคน นี่คือพระหรรษทานที่พระเจ้ามอบให้เรา นี่คือการกลับใจของหัวใจเรา" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Insider

Comments