โป๊ปฟรังซิส: "พระสังฆราชอย่าปลีกตัวห่างจากพระสงฆ์ อย่าตกเป็นเหยื่อจิตตารมณ์ทางโลก"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติพระสังฆราช อย่าปลีกตัวห่างจากพระสงฆ์ แต่จงเอาใจใส่พวกเขาให้มากๆ ทรงเป็นห่วงพระสังฆราชจะตกเป็นเหยื่อจิตตารมณ์ของโลก และมัวแต่หมกมุ่นกับความสำเร็จของงานที่ทำ นอกจากนี้ ทรงชื่นชมเกาหลี จากอดีตเป็นดินแดนจุดหมายของการแพร่ธรรม แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นดินแดนผลิตธรรมทูตออกไปแพร่ธรรมทั่วโลก



ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ได้เสด็จไปยังสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศเกาหลี เพื่อพบปะและให้โอวาทกับบรรดาพระคาร์ดินัลและพระสังฆราชคาทอลิกชาวเกาหลี โดยพันธกิจนี้เป็นงานสุดท้ายของวันแรกในการเยือนเกาหลีใต้ของพระสันตะปาปา

ในส่วนโอวาทที่พระสันตะปาปาตรัสกับบรรดาพระสังฆราชชาวเกาหลี มีว่า "พ่อขอให้กำลังใจพวกท่านในการดำเนินชีวิตเป็นผู้ปกปักรักษาความทรงจำอันงดงาม ซึ่งยังคงจำวิธีการที่บรรดามรณสักขีชาวเกาหลีได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อลงบนแผ่นดินจนบังเกิดผลอย่างอุดมสมบูรณ์ ทำให้เราพร้อมเก็บเกี่ยวพระหรรษทานบนแผ่นดินได้อย่างล้นเหลือ พวกท่านคือลูกหลานของมรณสักขีชาวเกาหลี พวกท่านคือทายาทสืบต่อการเป็นประจักษ์พยานถึงพระคริสตเจ้า พวกท่านยังเป็นทายาทของประเพณีอันน่าประทับใจ โดยผ่านทางความซื่อสัตย์ ความพยายาม และการทำงานของบรรดาฆราวาสหลายต่อหลายรุ่น

"ในเส้นเลือดหลักแบบนี้ มรดกล้ำค่าที่ถูกส่งมอบจากบรรพบุรุษได้บังเกิดผลแล้วในตอนนี้ เราสามารถพบเห็นการผลิดอกออกผลผ่านทางกลุ่มคาทอลิกและวิถีชุมชนวัดที่มีชีวิตชีวา รวมไปถึงการสอนคำสอนที่มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกันการก้าวออกไปสัมผัสกับเยาวชน สิ่งเหล่านี้ บังเกิดผลงดงงามทั้งในโรงเรียนและบ้านเณร"

จากนั้น พระสันตะปาปา ผู้ทรงพระชนมายุ 77 ชันษา ทรงแบ่งปันว่า พระศาสนจักรคาทอลิกเกาหลีจัดเป็นสถานที่สำคัญสำหรับชีวิตฝ่ายจิตของประเทศแห่งนี้ก็ว่าได้ เพราะที่นี่คือแรงผลักดันชั้นเยี่ยมในการส่งธรรมทูตออกไปแพร่ธรรมตามประเทศต่างๆ

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "จากจุดเริ่มของการเป็นจุดหมายสำหรับการแพร่ธรรม บัดนี้ เกาหลีได้กลายเป็นดินแดนของธรรมทูตไปแล้ว พระศาสนจักรสากลได้ผลิดอกออกผลและได้รับประโยชน์จากพระสงฆ์และนักบวชมากมายที่ถูกส่งออกไปแพร่ธรรมจากประเทศแห่งนี้

"อย่างไรก็ตาม จงเป็นผู้ปกปักรักษาความทรงจำดีๆแบบนี้ไว้ พ่อพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร มันหมายความว่า จงอย่าทำแค่จดจำสิ่งดีๆในอดีตเท่านั้น แต่จงก้าวไปข้างหน้าด้วยความเข้มแข็ง พละกำลัง และปรีชาญาณที่เพียบพร้อม เพื่อจะได้เผชิญหน้ากับอนาคตด้วยความมั่นใจ

"นอกจากนี้ พี่น้องพระสังฆราชที่รัก พ่ออยากให้พวกท่านเป็นผู้พิทักษ์รักษาความหวัง ความหวังที่เกิดจากพระหรรษทานของพระวรสารและพระเมตตาของพระเยซูคริสต์ นี่คือความหวังที่ได้บันดาลให้เกิดบรรดามรณสักขีชาวเกาหลี จงรักษาความหวังด้วยการดำเนินชีวิตอยู่ในกรอบของความศักดิ์สิทธิ์ จงมีความรักแบบพี่น้อง มีความเมตตา และทำหน้าที่ธรรมทูตด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักร

"พ่อยังขอร้องทุกคนให้ความสนใจต่อผู้ยากไร้ ผู้อาวุโส และเด็ก จงส่งเสริมการศึกษาและให้ความช่วยเหลือต่อผู้ยากไร้ เฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ลี้ภัย เพราะความเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ยากไร้ ถูกพิจารณาว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของชีวิตคริสตชน" พระสันตะปาปา ตรัสย้ำ

"สิ่งหนึ่งที่พ่ออยากเน้นย้ำพระสังฆราชก็คือ พระสังฆราชต้องอย่าทำตัวห่างไกลจากพระสงฆ์เป็นอันขาด แต่จงทำตัวให้ว่างเข้าไว้ และจงให้ความสนใจกับความต้องการของพระสงฆ์แต่ละคน ที่สำคัญ พระสังฆราชต้องระวังการประจญล่อลวงที่มักจะมาพร้อมกับความสำเร็จของผลงานด้วย

ตอนท้าย พระสันตะปาปาทรงเตือนสติพระสังฆราช อย่างตกเป็นเหยื่อของ "โลกธุรกิจ" เป็นอันขาด นอกจากนี้ อย่าตกเป็นเหยื่อของจิตตารมณ์ทางโลกที่มุ่งแสวงหาแต่ความสำเร็จด้วย

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "วิบัติแก่พวกเรา ถ้าไม้กางเขนที่เราแบกไม่สามารถแยกแยะความปราดเปรื่องทางโลกได้ ดังนั้น พ่อขอร้องพวกท่านบรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ จงปฏิเสธการประจญล่อลวงทุกชนิด ขอให้พวกเราได้รับการปกป้องจากพระจิต ผู้จะช่วยหยุดยั้งจิตตารมณ์ทางโลกซึ่งมาหลอกล่อเราในชีวิตจิตและการทำงานอภิบาลด้วย"

"สุดท้าย พ่อขอให้กำลังใจพวกท่านในความพยายามสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน ความศักดิ์สิทธิ์ และความกระตือรือร้นในกลุ่มชาวเกาหลี ความทรงจำดีๆในอดีตและความหวังจะเป็นเครื่องนำทางให้เราก้าวไปสู่อนาคต" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: CNA

Comments