บทสัมภาษณ์โป๊ปฟรังซิส: "เคล็ดลับ 10 ข้อในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเผยเคล็ดลับ 10 ข้อที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข หนึ่งในนั้นคือ "หยุดคิดร้าย หยุดให้ร้ายคน" เพราะมีแต่คนแย่ๆเท่านั้นที่จะยกตัวเองให้สูงขึ้น ด้วยการกดคนอื่นให้ต่ำลง นอกจากนี้ ทรงย้ำ เวลากินข้าวพร้อมครอบครัว จงปิดโทรทัศน์ และหันหน้าพูดคุยกันในเวลาล้ำค่าแบบนี้ ทรงชื่นชม "สวีเดน" ประเทศใจกว้างเปิดรับผู้ลี้ภัยแบบไม่มีอิดออด ทรงยืนยัน รางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ไม่เคยอยู่ในความคิดของพระองค์เลย



ย้อนกลับไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กรกฏาคม 2014 ซึ่งดูเหมือนธรรมดา แต่ก็มีความพิเศษแอบแฝงอยู่ เพราะนี่คือวันที่ 500 ที่สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา เมื่อเป็นเช่นนี้ "วีว่า" นิตยสารของอาร์เจนตินา จึงได้ขอเข้าสัมภาษณ์พระสันตะปาปาแบบสุดพิเศษ บทสัมภาษณ์นี้ มีหลายอย่างน่าสนใจ พระสันตะปาปาแบ่งปันมุมมองหลายอย่างให้เราได้รับทราบ จะเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามกันเลย

วีว่า: อยากให้พระองค์ช่วยแบ่งปันเคล็ดลับให้หน่อยว่า เคล็ดลับที่จะทำให้ชีวิตมีแต่เรื่องน่ายินดี มีแต่ความสุข ควรมีเรื่องใดบ้างครับ

พระสันตะปาปา: มีคำกล่าวของชาวโรม พูดไว้ว่า "แค่ดำเนินชีวิตต่อไป ก็เท่านั้น!" พ่อคิดว่า ทุกคนควรจะได้รับการชี้แนะด้วยแนวคิดนี้ แนวคิดที่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ใช้ชีวิตต่อไป จงดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้า นี่เป็นเคล็ดลับแรกที่พ่ออยากแบ่งปัน

เคล็ดลับที่สองคือ "จงอุทิศตนเพื่อผู้อื่น" คนเราจำเป็นต้องเปิดตัวเองและมีความใจกว้างให้กับคนอื่น เพราะถ้าเราถอนตัวจากผู้อื่นและหมกมุ่นกับตัวเอง เราก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นพวกอีโก้จัด และน้ำนิ่งก็จะกลายเป็นน้ำเน่าทันที!

เคล็ดลับที่สามคือ "จงดำเนินชีวิตด้วยความสุขุมรอบคอบ" มีนิยายเรื่องหนึ่งของอาร์เจนตินา เขียนโดย ริการ์โด้ กุยรัลเดส เขาได้ถ่ายทอดการใช้ชีวิตวัยเด็กของตัวเองว่าเป็นเหมือนสายน้ำที่เชี่ยวจัด พุ่งชนโขดหินทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่เมื่อโตขึ้น สายน้ำนี้เปลี่ยนเป็นสายน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ แต่ยังไหลเร็ว พอแก่ตัวลง สายน้ำนี้กลายเป็นน้ำในสระ นิ่ง เฉื่อยๆ  เขาสะท้อนข้อคิดว่า ชีวิตเราก็เหมือนสายน้ำ กล่าวคือ เราต้องพร้อมเสมอที่จะก้าวไปข้างหน้า แต่มันต้องเป็นการก้าวแบบสุภาพ เอื้อเฟื้อผู้อื่น และใช้ชีวิตแบบสุขุม

เคล็ดลับที่สี่คือ "รู้จักหยุดพักหาเวลาว่างบ้าง" จงรู้จักมีอารมณ์ศิลป์ เพลิดเพลินกับวรรณกรรม ที่สำคัญ หาเวลาเล่นกับลูกๆของตัวเองบ้าง เพราะพ่อสังเกตเห็นว่า พ่อแม่หลายคนเริ่มไม่สนใจการเล่นกับลูกๆแล้ว ที่สุดแล้ว เขาก็จะไม่รู้เลยว่า วิธีการเล่นกับลูกต้องทำอย่างไร ดังนั้น พ่อแม่ที่ทำงานมาทั้งวัน ควรหาเวลาเล่นกับลูกๆบ้างนะ

ทุกวันนี้ ลัทธิบริโภคนิยมมีแต่จะนำความกระวนกระวายมาให้เรา มันนำพาความเครียดและทำให้ผู้คนต้องสูญเสียวัฒนธรรมแห่งการหยุดพักไปหมดแล้ว พึงระลึกไว้ว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เวลาของเขาจะถูกกลืน และคนอื่นๆจะไม่สามารถแบ่งปันเวลาพักผ่อนแบบนี้ให้เขาได้

นอกจากนี้ พ่ออยากแนะนำว่า เวลากินข้าวในครอบครัว ควรจะปิดโทรทัศน์และหันหน้ามาพูดจากัน แม้ว่า โทรทัศน์จะนำเสนอข่าวสารและมีประโยชน์ต่อเราเวลาเรากินข้าว แต่อย่าลืมนะว่า นี่คือเวลาสำคัญ ฉะนั้น อย่าให้ใครมาแย่งการพูดคุยสื่อสารในครอบครัวไปจากเราเด็ดขาด

เคล็ดลับที่ห้าคือ "วันอาทิตย์คือวันหยุด" คนทำงานควรหยุดงานในวันอาทิตย์ เพราะนี่คือวันครอบครัว

เคล็ดลับที่หกคือ "ค้นหาวิธีการใหม่ที่จะสร้างงานที่มีเกียรติให้กับเยาวชน" เราจำเป็นต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้กับเยาวชน ถ้าพวกเขาขาดโอกาส พวกเขาก็จะหันไปหายาเสพติดและมีสิทธิ์จะฆ่าตัวตาย มันไม่เพียงพอนะที่จะให้อาหารแก่เขาเท่านั้น เพราะงานที่มีเกียรติที่ท่านจะให้เขาต่างหาก ที่จะช่วยเขาให้หาอาหารประจำวันได้

เคล็ดลับที่เจ็ดคือ "จงเคารพและดูแลธรรมชาติ" ตอนนี้ ธรรมชาติถูกทำลายและลดคุณค่าลงไปมาก นี่คือความท้าทายสำคัญของเรา

เคล็ดลับที่แปดคือ "หยุดคิดร้าย หยุดให้ร้าย" มันจำเป็นมากๆที่จะต้องหยุดนิสัยพวกนี้ การทำแบบนี้คือการแสดงให้เห็นว่าเราไม่ให้เกียรติตัวเองเลย มันสะท้อนว่า เราดูแย่มากๆ เราจึงต้องยกตัวเองให้สูงขึ้นด้วยการกดคนอื่นให้ต่ำลง

เคล็ดลับที่เก้าคือ "อย่าบังคับคนอื่นเปลี่ยนศาสนา แต่จงเคารพความเชื่อของผู้อื่น" เราสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นได้โดยผ่านทางการเป็นประจักษ์พยาน เมื่อมีการเป็นตัวอย่างที่ดี การพูดคุยสื่อสารก็จะเกิดขึ้น แต่จำไว้ว่า สิ่งเลวร้ายที่สุดคือการบังคับคนอื่นเปลี่ยนศาสนา จำไว้ว่า พระศาสนจักรไม่ได้เติบโตด้วยการบังคับคนอื่นเปลี่ยนศาสนา แต่เราโตด้วยการเป็นประจักษ์พยาน

เคล็ดลับที่สิบคือ "จงทำงานเพื่อสันติภาพ" ตอนนี้ เราอยู่ในยุคของสงครามมากมาย เสียงเรียกเพื่อสันติภาพต้องถูกตะโกนออกมา! สงครามมีแต่ทำลาย มันควรพอได้แล้ว

วีว่า: พูดถึง "สงคราม" พระองค์คิดว่าหลายๆประเทศมีแนวทางการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากสงครามอย่างไรบ้าง

พระสันตะปาปา: พ่อคิดว่า ทวีปยุโรปกลัวที่จะพูดเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย แต่มีประเทศหนึ่งที่พ่อขอชมจากใจ นั่นคือ "สวีเดน" ประเทศนี้มีนโยบายชัดเจนเรื่องการรับผู้ลี้ภัย แม้สวีเดนจะมีประชากรไม่มาก แต่พวกเขาก็ใจกว้างต้อนรับผู้ลี้ภัยเข้ามาอยู่อาศัยในประเทศของตน

วีว่า: พระองค์คิดฝันไหมว่า จะได้รับรางวัล "โนเบล สาขาสันติภาพ"

พระสันตะปาปา: ไม่! พ่อไม่เคยคิดแม้แต่น้อย


Read More: Vatican Radio

Comments