โป๊ปฟรังซิส: "ความรุนแรงไม่มีวันเอาชนะด้วยการใช้ความรุนแรงฟาดฟันกัน"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ สันติภาพเท่านั้นที่จะเอาชนะความรุนแรงและสงคราม ความรุนแรงไม่มีวันเอาชนะได้ด้วยการใช้ความรุนแรงฟาดฟันกัน ทรงเศร้าที่ต้องเห็นเมืองโมซุล ประเทศอิรัก ไม่มีคริสตชนอาศัยอยู่อีกต่อไป เพราะทุกคนถูกบังคับให้ลี้ภัยจากการเบียดเบียนศาสนา ทรงสอน พระเจ้าจะตัดสินพิพากษาเราแบบที่เราชอบตัดสินคนอื่นนั่นแหละ 



ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฏาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนากว่า 50,000 คน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงแสดงความกังวลต่อสถานการณ์คาทอลิกในเมืองโมซุล ประเทศอิรัก หลังเมื่อวานนี้ คาทอลิกครอบครัวสุดท้ายได้อพยพออกจากเมืองไปแล้ว เนื่องจากถูกข่มขู่ถึงชีวิต

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "พ่อรู้สึกเป็นทุกข์และกังวลมากๆกับสิ่งที่เกิดในเมืองโมซุล ซึ่งมีการเบียดเบียนคริสตชนอย่างหนักจนทำให้ตอนนี้ เมืองโมซุลไม่มีคริสตชนอาศัยอยู่อีกต่อไป มันน่าเศร้าเพราะเมืองนี้มีคริสตชนอยู่อาศัยตั้งแต่มีศาสนาคริสต์เกิดขึ้น วันนี้ พี่น้องของพวกเราถูกเบียดเบียนข่มเหง พวกเขาต้องละทิ้งบ้านเกิดของจนและถูกบังคับให้ออกไปโดยที่ไม่ได้นำสิ่งของติดตัวไปด้วยเลย!

"พ่อจึงขอกล่าวย้ำถึงความทุกข์นี้ และขอยืนยันว่า พ่อขอร่วมเป็นทุกข์ไปกับพวกท่านบรรดาพี่น้องคริสตชนที่ถูกเบียดเบียน พ่อรู้ดีว่าพวกท่านทุกข์ยากขนาดไหน พ่อขอย้ำว่า พ่อขอร่วมเป็นหนึ่งเดียวในความเชื่อกับพวกท่าน พ่อมั่นใจว่า ที่สุดแล้ว พระเจ้าจะช่วยเราเอาชนะความชั่วร้ายได้

"นอกจากนี้ พ่ออยากเชิญชวนทุกคนสวดภาวนาเพื่อสันติภาพในตะวันออกกลางและยูเครน ขอพระเจ้าแห่งสันติภาพโปรดประทานให้เกิดการพูดจาปรับความเข้าใจและคืนดีกัน ความรุนแรงไม่สามารถเอาชนะด้วยความรุนแรง เพราะความรุนแรงจะถูกชนะด้วยสันติภาพ!" พระสันตะปาปา ตรัสย้ำ

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะตรัสเรียกร้องสันติภาพ พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารวันอาทิตย์ที่พระเยซูตรัสเล่าเรื่องชายคนหนึ่งหว่านข้าวพันธุ์ดีในนาของตน แต่ศัตรูแอบมาหว่านข้าวละมานทับลงไป

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "อุปมาตอนนี้สอนเราเกี่ยวกับปัญหาของปีศาจในโลก เช่นเดียวกับสอนเรื่องความอดทนของพระเจ้า

"ปีศาจวางแผนชั่วในทุกที่ที่มีความดี มันพยายามที่จะทำให้คนแตกแยกกัน มันต้องการทำให้คนในครอบครัวและประเทศชาติแตกแยก แต่พระเจ้าทรงรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี พระองค์ทรงรู้วิธีการเฝ้ารอ พระองค์มองไปที่พื้นดินของเราแต่ละคนด้วยความอดทนและเมตตา พระเจ้าทรงมองพื้นดินและเห็นว่าความชั่วทำอะไรบ้าง แต่พระเจ้าก็มองดูเมล็ดพันธุ์แห่งความดีและเฝ้ารออย่างอดทนเพื่อให้เมล็ดเหล่านี้บังเกิดผล

"พระเจ้าทรงเป็นบิดาผู้อดทนรอคอยด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง พระองค์พร้อมจะต้อนรับและให้อภัยเรา แต่ความอดทนของพระเจ้าไม่ได้หมายความว่า พระเจ้าทรงเฉยเมยต่อปีศาจ เราต้องอย่าสับสนระหว่างความดีกับความชั่ว เพราะที่สุดแล้วเมื่อถึงวันเก็บเกี่ยว พระเยซูจะทรงตัดสินเราทุกคนโดยแบ่งตามเมล็ดพันธุ์ว่าเราเป็นเมล็ดพันธุ์ดีหรือไม่ เราจะถูกตัดสินพิพากษาแบบที่เราชอบตัดสินคนอื่นนั่นแหละ ถ้าเราแสดงความเมตตาต่อผู้อื่น เราก็จะได้รับความเมตตาจากพระเจ้าด้วยเช่นกัน" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments