โป๊ปฟรังซิส: "พ่อแม่ที่ไม่มีเวลาให้ลูก ลูกก็เป็นเด็กกำพร้าไปแล้ว"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงสอน พ่อแม่ที่ไม่มีเวลาให้ลูกของตัวเอง ลูกก็กลายเป็นเด็กกำพร้าไปแล้ว เพราะเขาไม่มีความทรงจำใดๆกับครอบครัวเลย ทรงถาม ชีวิตวุ่นวายยุ่งเหยิงแบบต้องตื่นแต่เช้า และเดินทางไกลๆไปทำงาน พอกลับบ้านก็เหนื่อยจนไม่มีเวลาให้ลูกๆ แบบนี้มันใช่เหรอ ถ้าเป็นแบบนี้ชีวิตเราโหดร้ายไปหรือเปล่า ทรงย้ำ พระศาสนจักรไม่ใช่องค์กรการกุศล แต่เป็น "แม่" ที่พร้อมดูแลทุกคน


ช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเปิดการสัมมนาของสังฆมณฑลโรม ภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน โดยการสัมมนานี้ เน้นเรื่องบทบาทของพระศาสนจักรในฐานะแม่ของสังคมที่มีลูกๆหลายคนมีความเสี่ยงจะเป็นเด็กกำพร้า

โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสให้ข้อคิดกับทุกคนว่า "ปีที่แล้ว พ่อมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชุมชนวัดต่างๆในสังฆมณฑลโรม พ่อได้พบกับผู้คนมากหน้าหลายตา อย่างไรก็ตาม การพบปะนี้ ถึงจะเป็นช่วงสั้นๆ แต่สัตบุรุษทุกคนก็ได้แสดงออกถึงความหวังและความคาดหวังที่เขามี รวมไปถึงแบ่งปันความเจ็บปวดและปัญหาต่างๆให้พ่อฟัง

"หลายคนมาบอกพ่อว่า เขารู้สึกสับสนกับชีวิตที่ยุ่งยากวุ่นวาย บ่อยครั้ง เป็นชีวิตที่ขาดความหมายและคุณค่า พ่อลองคิดถึงวันยุ่งๆวุ่นๆของพวกเขาดู เริ่มตั้งแต่ตื่นแต่เช้า พาลูกไปส่งที่โรงเรียน จากนั้น เดินทางไกลๆไปทำงานที่ออฟฟิศ เขารู้สึกถึงภาระอันหนักอึ้งซึ่งกำลังบีบอัดเขาอยู่ สถานการณ์แบบนี้ เราควรถามตัวเองด้วยว่า นี่คือชีวิตหรือเนี่ย?

"เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ คำถามที่ผุดขึ้นในใจก็คือ เราจะดูแลลูกๆของเราอย่างไร, ลูกของเราจะรู้สึกกับชีวิตของเขาอย่างไร เพราะพวกเขารู้สึกว่า บางครั้ง เราดำเนินชีวิตในสภาพที่โหดร้ายไปหรือเปล่า เราไม่รู้จักวิธีดำเนินชีวิตให้สวยงามใช่หรือไม่ เราพอใจที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาเจอสภาพแบบนี้เหรอ"

จากนั้น พระสันตะปาปาทรงตำหนิความจริงที่ว่า พ่อแม่หลายคนไม่มีเวลาให้กับลูกๆของตัวเอง และนั่นไม่ต่างกับการทำให้ลูกต้องเป็นเด็กกำพร้า

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ลูกจะเป็นเด็กกำพร้า ก็ต่อเมื่อ เขาไม่มีความทรงจำกับครอบครัวตัวเอง เพราะอะไร เพราะปู่ย่าตายายถูกส่งไปอยู่บ้านพักคนชรา ลูกจะเป็นเด็กกำพร้าที่ขาดความรัก เพราะพ่อแม่ดูเร่งรีบกับชีวิตจนเกินไป ผลที่ตามมาก็คือพ่อก็เหนื่อย แม่ก็เหนื่อย ลูกไม่มีคนดูแลและเป็นเด็กกำพร้าไปเลย!"

พร้อมกันนี้ พระสันตะปาปาองค์แรกที่มาจากคณะเยสุอิต ยังกล่าวยืนยันว่า พระศาสนจักรต้องเป็น "แม่" ไม่ใช่ทำหน้าที่เป็นพวกเอ็นจีโอ หรือองค์กรการกุศลที่มีสาขาอยู่ตามจุดต่างๆเป็นอันขาด

"การอยู่ในพระศาสนจักรคือการอยู่ในบ้านกับแม่ของเรา ถ้าพระศาสนจักรไม่ทำหน้าที่เป็นแม่ การไปร่วมวัดก็เหมือนกับการไปเยี่ยมหน่วยงานการกุศลมากกว่า หรือเป็นเหมือนการไปเชียร์ฟุตบอล ซึ่งสัตบุรุษก็เป็นเหมือน 'แฟนบอล' เท่านั้น ดังนั้น สัตบุรุษทุกคนต้องสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของผู้เป็นแม่ในพระศาสนจักร เราต้องต้อนรับทุกคนที่เข้ามาในพระศาสนจักรด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ต้อนรับเขาเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน" พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย

ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาเปิดการสัมมนาของสังฆมณฑลโรม

Read More: Vatican Radio

Comments