โป๊ปฟรังซิส: "คนจนจ่ายค่าเสียหายให้นักการเมืองโกง นักธุรกิจโกง และพระสังฆราชพระสงฆ์โกง"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ คนยากไร้และเด็กๆคือคนที่ต้องมาชดใช้ผลจากการโกงของพวกนักการเมือง นักธุรกิจ รวมถึงพระสังฆราชและพระสงฆ์ ทรงย้ำ บาปใกล้ตัวเราที่จับต้องได้ก็คือบาปการโกง ทรงแบ่งปัน น่าเศร้าที่ทุกวันนี้ มีแต่ข่าวนักการเมืองร่ำรวยแบบแจกแจงที่มาของเงินไม่ได้ ถูกนำตัวไปขึ้นศาล เช่นเดียวกับพวกนักธุรกิจที่เอาเปรียบลูกจ้าง นอกจากนี้ ยังเศร้าหนัก เมื่อพระสังฆราชและพระสงฆ์บางคน ก็มีส่วนร่วมในการโกงด้วย


ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซานี้มาจากหนังสือพงศ์กษัตริย์ เป็นเหตุการณ์ที่ "นาโบธ" เจ้าของสวนองุ่นถูกลากออกไปนอกเมืองและเอาหินทุ่มจนตาย เพียงเพราะไม่ยอมยกสวนองุ่นที่เป็นมรดกตกทอดของวงศ์ตระกูลให้กับกษัตริย์อาหับ

พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันเรื่องนี้ ผ่านบทเทศน์ว่า "นี่คือเรื่องเศร้าสุดๆ แม้จะเป็นเรื่องเก่าขนาดไหน มันก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงบาปที่อยู่ใกล้ตัวเราแบบสุดๆ นั่นก็คือ การขี้โกง นั่นเอง เหตุการณ์ในพันธสัญญาเดิมนี้ยังคงเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน เราพบเห็นได้จากการโกงด้วยอำนาจ วัตถุสิ่งของ การเมือง หรือจะเป็นการโกงทางจิตใจ

"ในหนังสือพิมพ์ที่เราได้อ่านกันทุกวัน เราได้เห็นพวกนักการเมืองที่ร่ำรวยแบบหาที่มาที่ไปไม่ได้ต้องถูกนำตัวไปขึ้นศาล หรือจะเป็นพวกนักธุรกิจเจ้าของกิจการที่อู้ฟู่จากการเอาเปรียบลูกจ้าง ก็ถูกนำตัวไปขึ้นศาลด้วยเช่นกัน เรายังได้ยินเรื่องของพระสังฆราชที่ร่ำรวย และละทิ้งหน้าที่การอภิบาลเพื่อไปสนใจแต่อำนาจของตัวเอง พวกนักการเมืองจอมโกง พวกนักธุรกิจคดโกง และพวกพระสังฆราชพระสงฆ์ขี้โกง เราพบเห็นเรื่องพวกนี้ได้ในทุกที่ และเราต้องพูดความจริงกันว่า การโกงคือบาปอย่างจับต้องได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักธุรกิจ หรือพวกพระสังฆราชพระสงฆ์ ต่างพร้อมเสมอที่จะเข้าไปมีส่วนร่วม พวกเราถูกประจญล่อลวงให้ขี้โกง มันคือบาปที่ใกล้ตัวมากๆ

"การที่คนๆหนึ่งกลายเป็นคนโกงบนหนทางที่จ้องจะเป็นที่ 1 ทั้งที่หนึ่งในด้านความเป็นอยู่ที่ดี ที่หนึ่งในด้านเงินทอง จากนั้นก็เป็นที่หนึ่งในอำนาจ ที่หนึ่งในความยะโสโอหัง และจากสิ่งเหล่านี้ ทุกสิ่งมีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นการเข่นฆ่ากัน ว่าแต่ ใครล่ะที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับการโกง คำตอบก็คือคนยากจนไงที่ต้องมาชดใช้ค่าเสียหายให้

"คนยากจนเหล่านี้นี่แหละคือนาโบธ ผู้ที่ต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับการโกง(ด้วยชีวิต) ใครกันที่จ่ายค่าเสียหายให้กับพระสังฆราชพระสงฆ์ที่ขี้โกง ก็เด็กๆนั่นไง พวกเขาไม่สามารถทำเครื่องหมายสำคัญมหากางเขน พวกเขาไม่รู้เรื่องคำสอน พวกเราไม่ได้รับการเอาใจใส่ ส่วนผู้ป่วยก็ไม่มีคนมาเยี่ยม พวกเขาไม่ได้รับการอภิบาลทางจิตใจ ผู้ยากไร้ต้องจ่ายค่าชดใช้ให้กับการโกง ด้วยการอับจนทางวัตถุและจิตใจด้วยเช่นกัน

"หนทางเดียวที่จะหลีกหนีจากการถูกประจญให้ขี้โกงก็คือการรับใช้  เพราะการโกงคือการหยิ่งยะโส การโอหัง แต่ความรักความเมตตาอย่างถ่อมตนคือการรับใช้ช่วยเหลือผู้อื่น

"วันนี้ เราจะถวายมิสซาให้กับพวกเขา ผู้ที่ต้องจ่ายค่าชดใช้ให้กับการโกง ผู้ที่ต้องมารับทุกข์จากการโกง มีมรณสักขีที่ถูกโกงจากการเมือง ถูกโกงจากเศรษฐกิจ และถูกโกงจากการอภิบาล พวกเราจะภาวนาเพื่อพวกเขา ขอพระเจ้าช่วยให้เราใกล้ชิดพวกเขา แน่นอนว่า พระองค์จะอยู่กับนาโบธ ในวินาทีที่เขาถูกหินทุ่มจนตาย เขาเป็นเหมือนกับนักบุญสตีเฟ่น ขอพระเจ้าทรงอยู่ใกล้และมอบพละกำลังแก่พวกเขาด้วย เพื่อที่ว่า พวกเขาจะได้เดินหน้าต่อไปเพื่อเป็นประจักษ์พยานถึงพระองค์" พระสันตะปาปาตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments