โป๊ปฟรังซิส: "เมื่อพระเจ้าเลือกคนมาทำพันธกิจ พระองค์จะจัดเตรียมทุกอย่างให้เขาอย่างดี"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ เมื่อพระเจ้าเลือกใครสักคนมาทำงานให้พระองค์ พระเจ้าจะจัดเตรียมทุกสิ่งให้คนๆนั้นอย่างดี ทรงย้ำ ข้อแตกต่างระหว่างงานที่พระเจ้าทรงมอบหมายกับงานที่เจ้านายมอบให้เราทำ ก็คือ งานที่เจ้านายมอบหมาย เราต้องทำให้สำเร็จ แต่งานที่พระเจ้ามอบหมาย พระเจ้าจะนำเราเข้าสู่กระบวนการต่างๆของพระองค์ อาทิ การอ่านเครื่องหมายแห่งกาลเวลา, การทดสอบความนบนอบและซื่อสัตย์ต่อพระองค์


ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซานี้มาจากหนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 พระเจ้าตรัสกับเอลียาห์ให้ออกจากถ้ำ เพื่อจะได้เห็นการประทับของพระองค์ และเมื่อพระเจ้าทรงผ่านไป ลมก็พัดแรงมากและเกิดแผ่นดินไหว พร้อมทั้งมีไฟลุกออกมา แต่พระเจ้าไม่ได้ประทับในไฟนั้น อย่างไรก็ตามมีเสียงกระซิบเบาๆให้เอลียาห์ได้ยินว่า จงกลับไปตามทางที่มา เพราะพระเจ้าทรงมีพันธกิจให้ทำแล้ว

พระสันตะปาปา ทรงแบ่งปันบทอ่านนี้ว่า "การที่มีเสียงกระซิบเบาๆผ่านทางไฟที่กำลังลุก จัดเป็นการเผยแสดงที่สวยงามมากๆ มันอาจดูขัดแย้งกันสักหน่อย แต่พระเจ้าทรงอยู่ในเหตุการณ์ที่ปกคลุมด้วยความเงียบ เอลียาห์รู้ดีว่าจะอ่านเครื่องหมายแห่งการประทับอยู่ของพระเจ้าได้อย่างไร และพระเจ้าก็ทรงจัดเตรียมพระพรแห่งการอ่านเครื่องหมายนี้ให้กับเขาด้วยการมอบหมายพันธกิจให้เขาทำ

"ในพันธกิจที่พระเจ้ามอบหมายให้เอลียาห์ ก็คือ การเจิมกษัตริย์คนใหม่ของอิสราเอล รวมไปถึงการเจิมประกาศกคนใหม่ที่จะสานงานต่อจากตัวของเอลียาห์ พ่ออยากให้พวกเราพิจารณาดีๆว่า งานที่ละเอียดอ่อนและต้องใช้ความรู้สึกผู้นำเช่นนี้ พระเจ้าทรงมอบความวางใจไว้กับชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นคนแพ้และต้องไปหลบอยู่ในถ้ำ พระเจ้าทรงจัดเตรียมจิตวิญญาณ หัวใจ และการทดลองใจ พระองค์ทรงจัดเตรียมการทดลองนี้เพื่อดูถึงการนบนอบเชื่อฟังของเขา นอกจากนี้ พระเจ้าทรงเตรียมความพยายามอุตสาหะให้กับเอลียาห์ด้วย

"เมื่อพระเจ้าทรงต้องการให้คนสักคนทำพันธกิจ เมื่อพระเจ้าต้องการให้ใครสักคนทำงานเพื่อพระองค์ พระเจ้าจะจัดเตรียมทุกอย่างให้คนๆนั้นเป็นอย่างดีเหมือนกับที่พระองค์จัดเตรียมให้เอลียาห์ ส่วนสำคัญสุดในการทำงานให้พระเจ้าก็คือการที่พระเจ้าทรงมอบความวางใจในตัวคนๆนั้น

"ข้อแตกต่างระหว่างงานที่พระเจ้าทรงมอบหมายกับงานที่เจ้านายมอบให้เราทำ ก็คือ งานที่มนุษย์มอบหมาย เราต้องทำให้สำเร็จ เราต้องทำด้วยหน้าที่และซื่อสัตย์ แต่สำหรับงานที่พระเจ้าทรงมอบให้ทำนั้น เมื่อพระองค์ทรงมอบงานให้เรา พระเจ้าทรงนำเราเข้าสู่กระบวนการต่างๆ ได้แก่ กระบวนการของการชำระให้บริสุทธิ์, กระบวนการของการอ่านเครื่องหมายของพระองค์, กระบวนการของการนบนอบเชื่อฟัง, กระบวนการแห่งการสวดภาวนา และเหนือสิ่งอื่นใด ยังมีกระบวนการของซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ซึ่งประกอบไปด้วยการให้พระเจ้านำทางเรา" พระสันตะปาปา ตรัสสอนในช่วงท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments