โป๊ปฟรังซิส: "อัตลักษณ์คริสตชนคือการเป็นประชากรของพระเจ้าและพระศาสนจักร"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ อัตลักษณ์ของคริสตชนคือการเป็นประชากรของพระเจ้าและพระศาสนจักร ทรงชี้ เราไม่มีวันเข้าใจการเป็นคริสตชนและเข้าใจพระเจ้า ถ้าหากเราไม่ยอมรับการเป็นประชากรของพระศาสนจักร

ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซานี้มาจากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็นเหตุการณ์ที่เปาโลและบาร์นาบัสไปประกาศพระวรสารที่เมืองเปอร์ก้า แคว้นปัมฟีเลีย (ปัจจุบันอยู่ประเทศตุรกี) พวกเขาเริ่มเทศนาด้วยการเล่าประวัติศาสตร์แห่งความรอดให้คนต่างศาสนาได้ฟัง ไล่มาตั้งแต่สมัยโมเสส, เดวิด และมาถึงตอนที่พระเยซูทรงรับพิธีล้างจากนักบุญจอห์น บัปติสต์

พระสันตะปาปา ทรงแบ่งปันพระคัมภีร์ผ่านทางบทเทศน์ใจความว่า "เราได้เห็นแล้วว่า เวลาที่ศิษย์พระเยซูประกาศพระวรสาร พวกเขาไม่ได้เริ่มด้วยการเอ่ยถึงพระเยซูทันที แต่พวกเขาจะเริ่มด้วยการเล่าถึงประวัติศาสตร์ประชากรของพระเจ้าว่าเป็นอย่างไร ในความเป็นจริงแล้ว พระเยซูไม่ได้เข้าไปอยู่ประวัติศาสตร์ช่วงต้น เพราะพระองค์คือตอนจบของเรื่องนี้ ตอนจบที่ยังดำเนินต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุด ดังนั้น พวกท่านไม่สามารถเข้าใจคริสตชนที่อยู่นอกพระศาสนจักรได้หรอก เพราะคริสตชนต้องเป็นประชากรของพระเจ้า เป็นประชากรของพระศาสนจักร คริสตชนที่ไม่มีพระศาสนจักรก็เป็นแค่บางสิ่งที่มโนขึ้นมาล้วนๆ มันไม่ใช่ของจริง

"พวกท่านไม่สามารถเข้าใจคริสตชนได้ตามลำพัง ท่านไม่สามารถเข้าใจพระเยซูได้ตามลำพัง พระเยซูคริสต์ไม่ได้มาจากท้องฟ้าเหมือนพวกซูเปอร์ฮีโร่ พระองค์ไม่ได้มาจากท้องฟ้าเพื่อช่วยเหลือเรา ไม่เลย! พระเยซูคริสต์มีประวัติศาสตร์ และเราสามารถพูดได้ว่า นี่คือความจริง พระเจ้าทรงมีประวัติศาสตร์เพราะพระองค์ต้องการจะเดินร่วมทางไปกับเรา พวกท่านไม่สามารถเข้าใจพระเยซูถ้าหากไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ของพระองค์ ดังนั้น คริสตชนที่ไม่มีประวัติศาสตร์ ไม่มีพระศาสนจักร ก็ไม่มีวันเข้าใจ

"ประชากรของพระเจ้าเดินไปพร้อมกับพระสัญญาของพระองค์ มิตินี้จัดว่ามีความสำคัญ เราจดจำพระสัญญาของพระเจ้าได้เสมอ คริสตชนเป็นความทรงจำทรงชีวิตในประวัติศาสตร์แห่งประชากรของพระเจ้า คริสตชนคือความทรงจำที่ยังมีชีวิตแห่งการเดินทางของพระองค์ คริสตชนคือความทรงจำที่มีชีวิตของพระศาสนจักร ความทรงจำทุกอย่างตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

"แล้วประชากรของพระเจ้าเดินไปในทิศทางไหนล่ะ พวกเราเดินไปยังพระสัญญาของพระองค์ไง! ประชากรที่ได้รับการเลือกสรรต่างมีพระสัญญาสำหรับอนาคตและเราต้องเดินไปยังพระสัญญานั้น เดินไปเพื่อเติมเต็มพระสัญญา และเพื่อสิ่งนี้ คริสตชนในพระศาสนจักรคือประชากรชายและหญิงที่เปี่ยมด้วยความหวัง ความหวังในพระสัญญา นี่ไม่ใช่ความคาดหวัง ไม่! ไม่นะ มันเป็นมากกว่านั้น เพราะความหวังอันนี้ เราจะไม่พบกับความผิดหวังเลย

"สุดท้ายนี้ พ่อขอสรุปบทเทศน์ว่า มันเป็นเรื่องดีที่เราจะคิดถึงอัตลักษณ์การเป็นคริสตชน อัตลักษณ์คริสตชนของเราก็คือการเป็นประชากรของพระเจ้าและพระศาสนจักร หากปราศจากสิ่งนี้ เราก็ไม่ใช่คริสตชน เราเข้าสู่พระศาสนจักรด้วยศีลล้างบาป นี่คือการทำให้เราเป็นคริสตชน ... ขอให้เราวอนขอพระหรรษทานแห่งความหวัง ซึ่งไม่ใช่การมองโลกในแง่ดี แต่มันคือการรื้อฟื้นคำมั่นสัญญากับพระเจ้าที่ทรงเรียกเราในทุกๆวัน" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Radio