โป๊ปฟรังซิส: "สงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศเป็นเหมือนการถวายมิสซาสีดำ"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงยืนยัน การที่สงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศก็เหมือนกับการถวายมิสซาสีดำ แทนที่จะนำพาผู้คนไปเป็นนักบุญ กลับสร้างปัญหาให้ติดตัวเขาไปตลอดชีวิต ทรงเผย ตอนนี้มีการสอบสวนพระสังฆราช 3 องค์ที่ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ และจะไม่มีการเลือกปฏิบัติแน่นอน ทรงชี้ การครองโสดของพระสงฆ์คือของขวัญสำหรับพระศาสนจักร ทรงย้ำ มาเกาหลีใต้ ศรีลังกา และฟิลิปปินส์ แน่นอน พร้อมตรัสเป็นนัยๆ ถ้าร่างกายอ่อนแรงลงเรื่อยๆจนทำหน้าที่พระสันตะปาปาไม่ไหว ก็ต้องสละตำแหน่งเหมือนพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16


สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงประทานการสัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินจากเทล อาวีฟ อิสราเอล กลับมายังกรุงโรม อิตาลี โดยหัวข้อของการสัมภาษณ์ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

สงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ

พระสันตะปาปา ตรัสถึงเรื่องนี้ว่า "ในตอนนี้ มีพระสังฆราช 3 องค์ที่อยู่ระหว่างการสอบสวน คนหนึ่งถูกพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดและต้องได้รับการลงโทษ มันจะไม่มีการเลือกปฏิบัติหากเกิดคดีล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ ในอาร์เจนติน่า เราเรียกคนที่ถูกเลือกปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษว่าเป็นพวก 'เด็กนิสัยเสีย' (Spoilt Children) มันจะไม่มีเด็กนิสัยเสียอีกต่อไป มันเป็นปัญหาที่หนักใจมากๆ เมื่อพระสงฆ์ข้องเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ เขาก็ทรยศต่อพระกายของพระเจ้า พระสงฆ์ต้องนำพาเด็กๆไปสู่การเป็นนักบุญ เด็กๆวางใจในตัวพระสงฆ์ แต่แทนที่จะพาเด็กๆไปเป็นนักบุญ เขากลับทำร้ายเด็กๆเหล่านั้น นี่คือปัญหาใหญ่หลวง มันเหมือนกับการถวายมิสซาสีดำอย่างนั้นแหละ! แทนที่จะพาเขาสู่การเป็นนักบุญ ดันกลับไปสร้างปัญหาให้ติดตัวเขาไปตลอดชีวิต สัปดาห์หน้า วันที่ 6 หรือ 7 มิถุนายน พ่อจะถวายมิสซาในหอพักซางตา มาร์ธา ให้กับผู้ที่ถูกพระสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ และพ่อจะนัดประชุมกับพวกเขา จะไม่มีการอดทนอีกต่อไปกับปัญหาเหล่านี้"

การครองโสดของพระสงฆ์

พระสันตะปาปา ตรัสถึงเรื่องนี้ว่า "พระศาสนจักรคาทอลิกจารีตตะวันออก มีพระสงฆ์ที่แต่งงาน การครองตนเป็นโสดไม่ใช่ข้อความเชื่อ แต่เป็นกฏของชีวิตที่พ่อตระหนักถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่และพ่อเชื่อว่า นี่คือของขวัญสำหรับพระศาสนจักร ประตูบานนี้ยังถูกเปิดอยู่เสมอและนี่ยังไม่ใช่หลักความเชื่อ

การเยือนเกาหลีใต้ ศรีลังกา และฟิลิปปินส์

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "มีอยู่ 2 ทริปที่พ่อจะไป หนึ่งคือไปเกาหลีใต้ และเดือนมกราคม 2015 พ่อจะไปศรีลังกาและฟิลิปปินส์ ปัญหาการขาดเสรีภาพในการปฏิบัติศาสนกิจไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในบางประเทศของเอเชียเท่านั้น แต่มันขยายไปที่อื่นๆด้วย เสรีภาพในการนับถือศาสนาไม่ใช่สิ่งที่ทุกประเทศจะมี บางประเทศต้องเผชิญกับการเบียดเบียนอย่างรุนแรง ทุกวันนี้ มีมรณสักขีมากมาย และพ่อคิดว่ามากกว่าในศตวรรษแรกๆด้วยซ้ำ

ความเป็นไปได้ในการสละตำแหน่ง

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "พ่อจะทำตามที่พระเจ้าทรงบอกพ่อให้ทำ ต้องสวดภาวนาและพยายามทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงทราบดีว่าตนเองอ่อนแรงลงเรื่อยๆ พระองค์ทรงสุภาพถ่อมตนแบบที่เป็น จึงทรงตัดสินใจ(สละตำแหน่ง) อะไรจะเกิดขึ้นกับพระสันตะปาปากิตติคุณ เรื่องนี้ เราต้องดูแบบอย่างของพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 พระองค์เปิดประตูออกและนั่นแหละคือพระสันตะปาปากิตติคุณ พ่อเชื่อว่า ถ้าพระสังฆราชแห่งกรุงโรมรู้สึกว่าตนเองไม่มีพละกำลัง(ทำหน้าที่) ก็ต้องถามตัวเองเหมือนกับที่พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทำแหละ"

เงิน 15 ล้านยูโรที่ถูกยักยอกไปจากธนาคารวาติกัน

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "พระเยซูสอนสาวกว่า เรื่องอัปยศเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พวกเราเป็นมนุษย์และเราเป็นคนบาป การบริหารจัดการเรื่อเงินๆทองๆจำเป็นต้องมีความซื่อสัตย์และโปร่งใสมากๆ ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในการสอบสวนและยังดำเนินการต่อไป

กรณีสถาปนาสมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 เป็นบุญราศี

พระสันตะปาปา ตอบว่า "กรณีนี้ยังเปิดกว้าง พ่อเฝ้าดูอยู่ อัศจรรย์ที่จะมาสนับสนุนยังไม่เกิดขึ้น เราต้องเราเคารพความจริงของกระบวนการนี้ พ่อไม่สามารถคิดได้หรอกว่า พ่อจะสถาปนาพระองค์เป็นบุญราศีหรือไม่

การอนุญาตคาทอลิกหย่าร้างให้แต่งงานใหม่ได้

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "การประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกจะจัดขึ้นในเรื่องครอบครัว ปัญหากำลังจะได้รับการเผชิญ ... สิ่งหนึ่งที่พ่อไม่ชอบก็คือ บางคนในพระศาสนจักรชอบพูดว่า วัตถุประสงค์ของสมัชชาครั้งนี้มีเพื่อให้คาทอลิกที่หย่าร้างได้แต่งงานอีกครั้ง และสามารถรับศีลมหาสนิทได้ เรารู้ว่าครอบครัวทุกวันนี้ตกอยู่ในภาวะวิกฤติ เยาวชนจำนวนมากไม่อยากแต่งงาน เขาจึงเลือกอยู่ด้วยกันเลย พ่อไม่อยากให้เราต้องติดกับดักของคำถามที่ว่า 'จะเป็นไปได้ไหมที่จะให้คาทอลิกหย่าร้างได้รับศีลมหาสนิท' ปัญหาอภิบาลครอบครัวมันใหญ่กว่านั้นเยอะ แต่ละกรณีต้องดูและศึกษาแบบแตกต่างกันไป ... เราต้องทำให้มันชัดเจนว่า คาทอลิกที่แต่งงานแล้วหย่าร้างไม่ได้ถูกขับไล่ออกจากพระศาสนจักร เพราะบ่อยครั้ง พวกเขาเหมือนจะถูกดูแลอย่างกับโดนขับออกจากพระศาสนจักรก็ว่าได้

อุปสรรคในการปฏฺิรูปโรมัน คูเรีย

พระสันตะปาปา ตอบว่า "อุปสรรคแรกก็คือตัวพ่อเอง! เราได้ตกลงหลายอย่างร่วมกัน เราได้ศึกษาคูเรียทุกเรื่อง และทุกอย่างยังอยู่ภายใต้การศึกษาเพื่อทำให้หน่วยงานเหล่านี้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น อาทิ รวมบางหน่วยงานเข้าด้วยกัน"

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่พระสันตะปาปาทรงเชิญ มาห์มูด อับบาส ปธน.ปาเลสไตน์ และ ชิม่อน เปเรส ปธน.อิสราเอล ให้มาภาวนาสันติภาพร่วมกันที่วาติกัน โดยพระสันตะปาปายืนยันว่า ทั้งสองตอบตกลงแล้วที่จะมาภาวนากับพระองค์

Read More: Vatican Insider

Comments