โป๊ปฟรังซิส: "สงฆ์ที่จบโรม อย่าหลงตัวเองกลับไปบ้านในฐานะด็อกเตอร์เด็ดขาด"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ สงฆ์คาทอลิกที่เรียนจบโรม แต่ทำเป็นกลับบ้านในฐานะ "ด็อกเตอร์" ไม่ใช่ "พระสงฆ์" ถือเป็นเรื่องอันตรายมากๆ ทรงชี้ พระสงฆ์ที่สนใจแต่วิชาการ ไม่สนใจชีวิตจิต ก็ทำผิดอย่างมหันต์ ส่วนพระสงฆ์ที่สนใจแต่การเป็นสงฆ์ แต่ไม่มีสังคมหมู่คณะ ก็จัดเป็นเรื่องเจ็บปวดเช่นกัน ทรงเตือน สงฆ์ต้องอย่าพูดจาให้ร้ายกัน ทรงเปรียบ พระสงฆ์ที่จิตใจวุ่นวาย แต่ลืมไปขอความช่วยเหลือจากแม่พระ ก็เป็นเหมือน "สงฆ์กำพร้าแม่" นั่นเอง


ช่วงสายวันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาสงฆ์คาทอลิกที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยของสันตะสำนัก ซึ่งได้มาเข้าเฝ้าในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน

ในส่วนพระดำรัสกับพวกเขา พระสันตะปาปาทรงเริ่มต้นด้วยการทักทายสงฆ์นักศึกษาทุกคน พร้อมทักทายเป็นพิเศษไปยังสงฆ์นักศึกษาที่มาจากตะวันออกกลางและยูเครน สองดินแดนที่ยังคงเต็มไปด้วยความขัดแย้งและสงคราม โดยพระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า "พ่อต้องการบอกลูกๆว่า พ่อร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพวกลูกในสถานการณ์แห่งความทุกข์ทรมานแบบนี้ พ่อใกล้ชิดกับพวกลูกอย่างมากๆ เฉพาะอย่างยิ่งในคำภาวนา"

จากนั้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับบรรดาสงฆ์นักศึกษาในหลายหัวข้อ โดยพระองค์ทรงให้พวกเขาถามคำถาม และพระองค์ทรงตอบแบบไม่มีการเตรียมล่วงหน้า คำถามนั้นมีหลายหัวข้อ อาทิ ความสมดุลระหว่างชีวิตการศึกษาและชีวิตจิต, วิถีทางของการเป็นผู้นำของพระสงฆ์ และการประกาศพระวรสารใหม่

ในส่วนของความสมดุลระหว่างชีวิตการศึกษาและชีวิตจิต พระสันตะปาปาทรงเตือนสติบรรดาสงฆ์นักศึกษาว่า "พ่ออยากเตือนว่า มันอันตรายมากๆเมื่อสงฆ์นักศึกษาเรียนจบจากกรุงโรมแล้วกลับไปบ้าน แต่ไม่กลับไปในฐานะ 'พระสงฆ์' แต่กลับไปในฐานะ 'ด็อกเตอร์' พ่อไม่เข้าใจเลยจริงๆว่า ทำไมพระสงฆ์บางคนที่กำลังศึกษาอยู่ที่กรุงโรม ถึงไม่มีชีวิตหมู่คณะเลย ไม่เพื่อนฝูง เรื่องแบบนี้ถือว่าผิดมากๆนะ ส่วนสงฆ์นักศึกษาที่เอาแต่เรื่องวิชาการ แต่ไม่สนใจชีวิตจิต ไม่สนใจมิสซาประจำวัน ไม่สนใจสวดภาวนาทุกวัน ไม่สนใจการอ่านและรำพึงพระวาจา (Lectio Divina) ไม่สนใจที่จะรำพึงส่วนตัวกับพระเจ้า หรือไม่สนใจชีวิตอภิบาล พวกนี้ก็ผิดอีกเช่นกัน"

จากนั้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวถึงชีวิตหมู่คณะ ชีวิตที่มีสังคมเพื่อนฝูง พระองค์ตรัสว่า "ถ้าคนๆหนึ่งเตรียมตัวที่จะเป็นพระสงฆ์อย่างเดียว โดยไม่คิดจะมีหมู่คณะ ไม่มีสังคม มันก็เป็นเรื่องเจ็บปวด ชีวิตหมู่คณะจัดว่าสำคัญมากๆ เพราะมันคือการแบ่งปันระหว่างพี่น้อง และเดินร่วมกันไปสู่การเป็นสงฆ์

"ชีวิตหมู่คณะมีปัญหาและอุปสรรค แต่มันก็มีมิตรภาพและการแลกเปลี่ยนความคิดกัน อย่างไรก็ตาม พ่ออยากเตือนสติถึงสิ่งๆหนึ่งที่พ่ออยากเรียกมันว่า 'ภาษาพระสงฆ์' (Clerical language) ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการทำดีผูกมิตรต่อหน้า แต่ลับหลังแล้วทำดีต่อกันน้อยมาก พ่อยังอยากให้พวกเราสวดภาวนาให้แก่กัน เฉพาะอย่างยิ่ง สวดให้คนที่ต้องการคำภาวนาแบบมากๆด้วย

"พ่อมั่นใจว่า ถ้าพวกลูกทำสิ่งนี้ หมู่คณะก็จะไปได้ดี นั่นคือ ใช้ชีวิตให้มันดีๆ พูดดีๆ แย้งกันดีๆ สวดให้กันดีๆ แต่มีสองสิ่งเล็กๆ ที่อยากให้ทำ นั่นคือ อย่าพูดจาให้ร้ายกัน และจงสวดภาวนาให้คนที่กำลังประสบปัญหา"

สำหรับคำถามเรื่องวิถีทางของการเป็นผู้นำของพระสงฆ์ พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "การเป็นผู้นำของพระสงฆ์ มีทางเดียวเท่านั้น นั่นคือ การเป็นผู้รับใช้ ถ้าเราไม่เป็นผู้รับใช้ เราจะไม่มีผู้ติดตาม(หมายถึงฝูงแกะ)"

ตอนท้าย พระสันตะปาปาทรงแนะนำให้บรรดาผู้เข้ารับการอบรมเตรียมเป็นพระสงฆ์ (เณร) สวดขอความช่วยเหลือจากแม่พระให้มากๆ เฉพาะอย่างยิ่ง เวลามีปัญหากระแสเรียก

"สิ่งแรกเลย พวกลูกต้องไปที่แท่นแม่พระและรอให้จิตใจสงบลง พวกลูกบางคนอาจแย้งว่า 'โลกยุคนี้ นักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ก็มี ผมคิดว่าผมไปพบจิตแพทย์ดีกว่ามั้ง' แต่อย่าลืมสิ่งนี้นะ สิ่งแรกคือไปหาแม่พระ แม่ของพวกลูก เพราะพระสงฆ์ที่ลืมแม่พระ เฉพาะอย่างยิ่งในจิตใจวุ่นวาย ก็เหมือนเป็นพระสงฆ์กำพร้า เขาก็เป็นสงฆ์ที่ลืมแม่ของตัวเอง" พระสันตะปาปาตรัสปิดท้าย

ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาพบสงฆ์นักศึกษาในกรุงโรม

Read More: Vatican Radio

Comments