โป๊ปฟรังซิส: "อย่าให้ปากพูดปกป้องเด็ก แต่มือขายอาวุธและใช้แรงงานเด็ก"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงตำหนิพวกผู้นำประเทศที่รณรงค์ปกป้องเด็กและเยาวชน แต่อีกมุมหนึ่ง ก็ค้าขายอาวุธ และใช้แรงงานเด็กไปด้วย ทรงชี้ เด็กๆคือเครื่องหมายสะท้อนสุขภาพของสังคม ถ้าเด็กได้รับการปกป้องและได้รับความรัก สังคมก็สุขภาพแข็งแรงแน่นอน ตอนท้าย ทรงเชิญผู้นำอิสราเอลและปาเลสไตน์ มาภาวนาและหารือสันติภาพร้อมพระองค์ที่วาติกัน ซึ่งผู้นำทั้งสองชาติ ก็ตอบรับคำเชิญของพระสันตะปาปาด้วย

ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซา ณ จัตุรัสรางหญ้า เมืองเบ็ธเลเฮม (Manger Square) ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่พระเยซูประสูติ ก่อนไปถวายมิสซา พระสันตะปาปาทรงทำเซอร์ไพรส์ทุกคน (รวมทั้งบอดี้การ์ดพระสันตะปาปา) ด้วยการสั่งให้รถโป๊ปโมบิลหยุด และไปภาวนา ณ กำแพงที่เป็นการกั้นขวางระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ออกจากกัน (รัฐบาลอิสราเอล สร้างกำแพงนี้ขึ้น ทำให้แบ่ง เบ็ธเลเฮม ออกจากอิสราเอลไปด้วย) โดยพระสันตะปาปาทรงหยุดภาวนาประมาณ 5 นาที

ในส่วนบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวถึงพระกุมารเยซู ผู้นำสันติมาให้กับโลก และกล่าวถึงเด็กๆทุกคน

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "พระกุมารเยซูคือเครื่องหมายที่ผู้รอคอยพระผู้ไถ่ได้รับจากพระเจ้า พระกุมารเยซูคือเครื่องหมายแห่งความอ่อนโยนของพระเจ้าและการประทับอยู่ของพระเจ้าในโลก ทุกวันนี้ก็เช่นกัน เด็กๆทุกคนก็เป็นเครื่องหมายจากพระเจ้า นี่คือเครื่องหมายของความหวัง เครื่องหมายแห่งชีวิต และยังเป็นเครื่องหมายแห่งความเมตตาของพระเจ้าด้วย เด็กๆคือเครื่องหมายบอกถึงสุขภาพของครอบครัว สุขภาพของสังคม และสุขภาพของโลก เมื่อใดที่เด็กๆได้รับความรัก การเอาใจใส่ และการปกป้อง ครอบครัวก็จะมีสุขภาพที่ดี สังคมก็แข็งแรงขึ้นไปอีก และโลกก็เปี่ยมด้วยมนุษยธรรมมากยิ่งขึ้นด้วย

"พระกุมารแห่งเบ็ธเลเฮมทรงมีสภาพบอบบาง เหมือนกับเด็กทารกที่เกิดใหม่เช่นกัน พวกเขาก็บอบบาง พระกุมารเยซูคือพระวจนาตถ์ที่มารับสภาพมนุษย์ เพื่อแปรเปลี่ยนหัวใจและการดำเนินชีวิตของพวกเรา พระกุมารเยซูก็เหมือนเด็กทารกทุกคน นั่นคือ เป็นผู้อ่อนแอ พระองค์จึงจำเป็นต้องได้รับการปกป้องและต้อนรับ เด็กๆจำเป็นต้องได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและได้รับการปกป้อง ตั้งแต่วินาทีแรกที่ปฏิสนธิในครรภ์มารดา แต่น่าเศร้า ในโลกของเรายุคนี้ ซึ่งเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เด็กหลายคนต้องดำเนินชีวิตแบบสถานการณ์ที่โหดร้าย และอยู่ตามชายขอบของสังคม เด็กๆหลายคนต้องถูกเอาเปรียบ ถูกดูแลอย่างไม่เป็นธรรม ถูกจับไปเป็นทาส และตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงและการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ ยังมีเด็กอีกมากที่ต้องเป็นผู้ลี้ภัย และต้องจบชีวิตลงกลางทะเลจากเหตุเรืออับปาง เฉพาะอย่างยิ่งในน่านน้ำเมดิเตอร์เรเนี่ยน

"เมื่อเราพิจารณาและพบว่า เด็กๆต้องเผชิญเหตุการณ์แบบนี้ เรารู้สึกละอายใจต่อหน้าพระเจ้ากันบ้างไหม เราอับอายต่อหน้าพระเจ้าผู้ทรงลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์กันหรือเปล่า" พระสันตะปาปา ตรัสถามอย่างตรงไปตรงมา

"เราต้องคิดนะว่า เราเป็นเหมือนแม่พระและนักบุญโยเซฟ ที่ปกป้องดูแลพระเยซูด้วยความรักหรือไม่ หรือว่า เราเป็นเหมือนเฮร็อด ซึ่งพร้อมฆ่าทุกคนที่จะมาแทนตัวเขาเอง ... ลองถามตัวเองนะว่า เราพร้อมที่จะอยู่กับเด็กๆไหม เราพร้อมจะรับฟังพวกเขาหรือเปล่าเราพร้อมจะดูแลเด็กๆและสวดภาวนาเพื่อพวกเขาบ้างไหม หรือว่าเรามัวแต่เมินเฉยพวกเขา เพราะเรามัวแต่สนใจเรื่องของตัวเอง

"ทุกวันนี้ เด็กๆกรีดร้องดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงร้องไห้ของพวกเขากำลังท้าทายเรา ... แต่น่าเศร้า ในโลกที่เราพูดกันว่าเราปกป้องผู้เยาว์ แต่มันยังมีการค้าขายอาวุธ และใช้เด็กๆเป็นกองกำลัง มันยังมีการค้าขายแรงงานเด็ก สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริงๆ!

"ดังนั้น ขอให้พระกุมารเยซูนำเราไปสู่วิธีการดำเนินชีวิตที่ไม่ขัดแย้งกับสิ่งที่เรารณรงค์ แต่ขอให้เราคัดค้านลัทธิบริโภคนิยม และจงให้อภัยกัน ยกโทษให้กัน จงเปี่ยมด้วยความรักแบบพี่น้องกัน" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงนำสวดราชินีแห่งสวรรค์ โดยหลังภาวนา พระสันตะปาปาทรงทำเซอร์ไพรส์อีกครั้ง ด้วยการกล่าวเชิญชวนคู่พิพาทอย่าง "มาห์มูด อับบาส" ปธน.ปาเลสไตน์ และ "ชิม่อน เปเรส" ปธน.อิสราเอล ให้มาที่วาติกัน และมาสวดภาวนาเพื่อสันติภาพกับพระองค์

"โอกาสที่เราได้มาอยู่ร่วมกัน ณ สถานที่ประสูตของเจ้าชายแห่งสันติภาพ ข้าพเจ้าปรารถนาจะเชิญชวน ประธานาธิบดี มาห์มูด อับบาส และ ประธานาธิบดี ชิม่อน เปเรส มาร่วมสวดภาวนาเพื่อสันติภาพกับข้าพเจ้าที่วาติกัน ข้าพเจ้าของเสนอให้บ้านของข้าพเจ้าที่วาติกัน เป็นสถานที่ให้ท่านทั้งสองได้ภาวนาร่วมกัน" พระสันตะปาปา ตรัสอย่างชัดเจน ท่ามกลางเสียงปรบมือของผู้ร่วมพิธีทุกคน (ประธานาธิบดี อับบาส มาร่วมมิสซาด้วย แต่ตัวเขาเป็นมุสลิม)

อนึ่ง มีรายงานยืนยันแล้วว่า ประธานาธิบดี มาห์มูด อับบาส และ ประธานาธิบดี ชิม่อน เปเรส ตอบรับคำเชิญของพระสันตะปาปา และจะเดินทางไปวาติกันในเดือนมิถุนายน

ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาถวายมิสซา ณ จัตุรัสรางหญ้า

Read More: Vatican Radio