โป๊ปฟรังซิส: "พระคาร์ดินัลต้องเลี่ยงนิสัยชวนคนนินทา แบ่งพรรคแบ่งพวก และ เลือกที่รักมักที่ชัง"
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ พระคาร์ดินัลต้องเป็นประจักษ์พยานถึงพระเยซู และต้องหลีกเลี่ยงนิสัยชวนคนคิดแผนชั่วร้าย, การนินทาให้ร้าย, การแบ่งพรรคแบ่งพวก, การเลือกที่รักมักที่ชัง และการให้สิทธิพิเศษแก่บางคน พระคาร์ดินัลต้องตรงไปตรงมาแบบพระวรสารที่สอนว่า "ใช่คือใช่ ไม่คือไม่" (Yes is yes, no is no) ทรงขอร้องสัตบุรุษสวดให้พระสันตะปาปา พระคาร์ดินัล และบรรดาพระสังฆราช เพื่อที่ว่าพวกท่านจะได้เป็นผู้รับใช้ที่ดี ไม่ใช่ทำตัวเป็นเจ้านาย

ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาร่วมกับบรรดาพระคาร์ดินัลใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งไปเมื่อวานนี้ พิธีนี้จัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ในส่วนบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสว่า:
- ในบทอ่านที่หนึ่งจากหนังสือเลวีนิติ พระเจ้าตรัสว่า "ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์เพราะเรา องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์" ส่วนพระวรสาร พระเยซูตรัสว่า "ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์" พระวาจาของพระเจ้าตอนดังกล่าวจัดว่าท้าทายพวกเราเป็นอย่างมากในฐานะที่เราเป็นศิษย์ติดตามพระเยซู มันสำคัญเป็นพิเศษสำหรับบรรดาพระคาร์ดินัลใหม่ การดำเนินชีวิตและเลียนแบบความศักดิ์สิทธิ์และสมบูรณ์แบบของพระเจ้าอาจดูเหมือนเป็นเป้าหมายที่ยากจะสัมฤทธิ์ผล แต่เราต้องอย่าลืมว่า ถ้าปราศจากพระจิต ความพยายามของเราก็จะสูญเปล่า
- พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสกับเราถึงความศักดิ์สิทธิ์และอธิบายให้เราทราบถึงบัญญัติใหม่ พระองค์ทรงทำในทางกลับกันกับสิ่งที่บรรดาฟาริสีทำ
- ความแตกต่างแรกคือ "การแก้แค้น" เราได้ยินแล้วหนิว่า "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" แต่พระเยซูทรงสอนเราว่า "ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย ผู้ใดอยากฟ้องท่านที่ศาลเพื่อจะได้เสื้อยาวของท่าน ก็จงแถมเสื้อคลุมให้เขาด้วย" พวกเราไม่ได้ถูกเรียกร้องว่า อย่าตอบโต้ความชั่วด้วยความชั่วเท่านั้น แต่เรายังถูกเรียกร้องให้ทำสิ่งดีๆด้วย
- ความแตกต่างที่สองคือ "ศัตรู" สมัยนั้นมีคำพูดว่า "จงรักเพื่อนบ้าน และเกลียดชังศัตรู" แต่พระเยซูตรัสกับเราว่า "จงรักศัตรูและจงสวดภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน" พระเยซูไม่ได้สอนให้เราประพฤติตัวเป็นคนดีบนโต๊ะอาหาร ถ้าเป็นเช่นนั้น พระองค์คงไม่ต้องเสด็จลงมาจากสวรรค์และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนหรอก พระเยซูเสด็จมาเพื่อช่วยเราให้ได้รับความรอด
- บรรดาพี่น้องพระคาร์ดินัลที่รัก พระเยซูและพระศาสนจักรเรียกร้้องท่านในการเป็นประจักษ์พยานด้วยความกระตือรือร้น ดังนั้น เราต้องรักคนที่เป็นศัตรูกับเรา เราต้องรักคนที่พูดจาให้ร้ายเรา เราต้องรู้จักยิ้มให้กับคนที่อาจจะไม่สมควรได้รับรอยยิ้มจากเรา เราต้องต่อต้านความหยิ่งและโอหังด้วยความสุภาพถ่อมตน
- สิ่งเหล่านี้คือทัศนคติของพระคาร์ดินัล นี่คือสิ่งที่เขาควรจะทำ พระคาร์ดินัลต้องหลีกเลี่ยงและช่วยคนอื่นให้หลีกเลี่ยงนิสัยเหล่านี้ ได้แก่ การชวนให้คนอื่นคิดแผนชั่วร้าย, การนินทาให้ร้าย, การแบ่งพรรคแบ่งพวก, การเลือกที่รักมักที่ชัง และการให้สิทธิพิเศษแก่บางคน ขอให้ภาษาของพวกเราเป็นภาษาพระวรสาร นั่นคือ ใช่คือใช่ ไม่คือไม่ (Yes is yes, no is no)
หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมใจทำงานเพื่อเอกภาพในหมู่คริสตชน ต้องหลีกเลี่ยงความแตกแยก เพราะกลุ่มคริสตชนไม่ได้ขึ้นกับผู้เทศน์สอน แต่ขึ้นตรงกับพระเยซูคริสต์
นอกจากนี้ พระสันตะปาปายังเชิญทุกคนสวดภาวนาให้พระสันตะปาปา พระคาร์ดินัล และบรรดาพระสังฆราช เพื่อที่ว่าพวกท่านจะได้เป็นผู้รับใช้ที่ดี ไม่ใช่ทำตัวเป็นเจ้านาย
ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาถวายมิสซาร่วมกับคณะพระคาร์ดินัลใหม่
Read More: Vatican Radio

ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาร่วมกับบรรดาพระคาร์ดินัลใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งไปเมื่อวานนี้ พิธีนี้จัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ในส่วนบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสว่า:
- ในบทอ่านที่หนึ่งจากหนังสือเลวีนิติ พระเจ้าตรัสว่า "ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์เพราะเรา องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์" ส่วนพระวรสาร พระเยซูตรัสว่า "ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์" พระวาจาของพระเจ้าตอนดังกล่าวจัดว่าท้าทายพวกเราเป็นอย่างมากในฐานะที่เราเป็นศิษย์ติดตามพระเยซู มันสำคัญเป็นพิเศษสำหรับบรรดาพระคาร์ดินัลใหม่ การดำเนินชีวิตและเลียนแบบความศักดิ์สิทธิ์และสมบูรณ์แบบของพระเจ้าอาจดูเหมือนเป็นเป้าหมายที่ยากจะสัมฤทธิ์ผล แต่เราต้องอย่าลืมว่า ถ้าปราศจากพระจิต ความพยายามของเราก็จะสูญเปล่า
- พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสกับเราถึงความศักดิ์สิทธิ์และอธิบายให้เราทราบถึงบัญญัติใหม่ พระองค์ทรงทำในทางกลับกันกับสิ่งที่บรรดาฟาริสีทำ
- ความแตกต่างแรกคือ "การแก้แค้น" เราได้ยินแล้วหนิว่า "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" แต่พระเยซูทรงสอนเราว่า "ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย ผู้ใดอยากฟ้องท่านที่ศาลเพื่อจะได้เสื้อยาวของท่าน ก็จงแถมเสื้อคลุมให้เขาด้วย" พวกเราไม่ได้ถูกเรียกร้องว่า อย่าตอบโต้ความชั่วด้วยความชั่วเท่านั้น แต่เรายังถูกเรียกร้องให้ทำสิ่งดีๆด้วย
- ความแตกต่างที่สองคือ "ศัตรู" สมัยนั้นมีคำพูดว่า "จงรักเพื่อนบ้าน และเกลียดชังศัตรู" แต่พระเยซูตรัสกับเราว่า "จงรักศัตรูและจงสวดภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน" พระเยซูไม่ได้สอนให้เราประพฤติตัวเป็นคนดีบนโต๊ะอาหาร ถ้าเป็นเช่นนั้น พระองค์คงไม่ต้องเสด็จลงมาจากสวรรค์และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนหรอก พระเยซูเสด็จมาเพื่อช่วยเราให้ได้รับความรอด
- บรรดาพี่น้องพระคาร์ดินัลที่รัก พระเยซูและพระศาสนจักรเรียกร้้องท่านในการเป็นประจักษ์พยานด้วยความกระตือรือร้น ดังนั้น เราต้องรักคนที่เป็นศัตรูกับเรา เราต้องรักคนที่พูดจาให้ร้ายเรา เราต้องรู้จักยิ้มให้กับคนที่อาจจะไม่สมควรได้รับรอยยิ้มจากเรา เราต้องต่อต้านความหยิ่งและโอหังด้วยความสุภาพถ่อมตน
- สิ่งเหล่านี้คือทัศนคติของพระคาร์ดินัล นี่คือสิ่งที่เขาควรจะทำ พระคาร์ดินัลต้องหลีกเลี่ยงและช่วยคนอื่นให้หลีกเลี่ยงนิสัยเหล่านี้ ได้แก่ การชวนให้คนอื่นคิดแผนชั่วร้าย, การนินทาให้ร้าย, การแบ่งพรรคแบ่งพวก, การเลือกที่รักมักที่ชัง และการให้สิทธิพิเศษแก่บางคน ขอให้ภาษาของพวกเราเป็นภาษาพระวรสาร นั่นคือ ใช่คือใช่ ไม่คือไม่ (Yes is yes, no is no)
หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมใจทำงานเพื่อเอกภาพในหมู่คริสตชน ต้องหลีกเลี่ยงความแตกแยก เพราะกลุ่มคริสตชนไม่ได้ขึ้นกับผู้เทศน์สอน แต่ขึ้นตรงกับพระเยซูคริสต์
นอกจากนี้ พระสันตะปาปายังเชิญทุกคนสวดภาวนาให้พระสันตะปาปา พระคาร์ดินัล และบรรดาพระสังฆราช เพื่อที่ว่าพวกท่านจะได้เป็นผู้รับใช้ที่ดี ไม่ใช่ทำตัวเป็นเจ้านาย
ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาถวายมิสซาร่วมกับคณะพระคาร์ดินัลใหม่
Read More: Vatican Radio
Comments
Post a Comment