บทสนทนาของ "โป๊ปฟรังซิสกับอธิการเจ้าคณะนักบวชชาย"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ ความสัมพันธ์ระหว่างพระสังฆราชกับคณะนักบวชต้องได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น เพราะถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น คณะนักบวชถอนตัวจากงานที่ทำ พระสังฆราชจะรับงานเผือกร้อนนี้ไปทำไม่ไหวแน่ ทรงสอน พระสังฆราชต้องอย่ามองคณะนักบวชเป็นพนักงานในสังฆมณฑลเด็ดขาด ทรงชื่นชมพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ที่กล้าลุยสะสางปัญหาสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ ทรงแนะ จะอภิบาลเยาวชน ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวหาพวกเขา อย่าใช้กฏเข้าคุม เพราะมันล้าสมัยไปแล้ว 



"ลาชิวิลต้า คัตโตลิก้า" นิตยสารคาทอลิกชื่อดังของอิตาลีซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารงานของคณะเยสุอิต ตีพิมพ์บทความชื่อ "ตื่นเถิดโลก!" (Wake up the world!) อันเป็นบทสนทนาระหว่าง สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส กับบรรดาอธิการเจ้าคณะนักบวชชาย 120 คนที่มาประชุมกับพระองค์ที่วาติกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 การสนทนานี้ไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าไปทำข่าว แต่ คุณพ่ออันโตนิโอ สปาดาโร่ บรรณาธิการนิตยสาร ลาชิวิลต้า คัตโตลิก้า ได้ขออนุญาตพระสันตะปาปาตีพิมพ์บทสนทนาเพื่อเผยแพร่แก่สาธารณะชน ซึ่งพระองค์ก็อนุญาต โดยบทสนทนานี้ หนา 15 หน้า

"โป๊ป รีพอร์ต" ได้สรุป รายละเอียดสำคัญให้ทุกท่านได้ติดตามดังนี้

ปรับปรุงเอกสาร "ความสัมพันธ์ต่อกัน" 

- พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสั่งให้มีการปรับปรุงเอกสารพระศาสนจักรที่ชื่อ "Mutuae Relationes" (ความสัมพันธ์ต่อกันระหว่างพระสังฆราชกับนักบวชในพระศาสนจักรคาทอลิก) พระสันตะปาปาตรัสว่า สารนี้ออกร่วมกันระหว่างสมณกระทรวงเพื่อพระสังฆราชและสมณกระทรวงเพื่อนักบวชในค.ศ.1978 ในเอกสารระบุว่า คณะนักบวชเป็นส่วนหนึ่งของพระศาสนจักรท้องถิ่น แต่มีอำนาจในการบริหารจัดการภายในคณะของตน อย่างไรก็ตาม พระสันตะปาปามองว่า ระเบียบปฏิบัติในสารนี้ "ตกยุค" เราจึงต้องปรับปรุงเพื่อจะได้ส่งเสริมให้เกิดการเห็นคุณค่าของพันธกิจคณะนักบวช

- พระสันตะปาปาทรงยกตัวอย่างที่พระองค์เคยประสบเมื่อครั้งเป็นอธิการเจ้าคณะเยสุอิตในอาร์เจนติน่าและเป็นพระอัครสังฆราชแห่งบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า ความยุ่งยากที่พระสันตะปาปาเคยพบก็คือ "เมื่อพระสังฆราชกับคณะนักบวชมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ผลที่ตามมาคือ คณะนักบวชตัดสินใจถอนตัวจากหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในสังฆมณฑล พระสังฆราชจะต้องรับเผือกร้อนทันที"

- พระสันตะปาปาทราบดีว่า พระสังฆราชไม่ได้คุ้นเคยกับงานที่คณะนักบวชเคยปฏิบัติเสมอไป ดังนั้น บรรดาพระสังฆราชจำเป็นต้องเข้าใจว่า คณะนักบวชไม่ใช่เจ้าพนักงาน แต่เป็นของขวัญที่จะทำให้สังฆมณฑลเจริญยิ่งขึ้น

- มันเป็นเรื่องสำคัญมากๆที่สังฆมณฑลต่างๆต้องมีคณะนักบวชเข้าไปทำงาน การเสวนาพูดจากันระหว่างพระสังฆราชและคณะนักบวชเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น ปัญหาจะเกิดแน่ ถ้าพระสังฆราชไม่เข้าใจงานของคณะนักบวช และไม่มองว่า คณะนักบวชเป็นเครื่องมือเรียบง่ายในการทำงานให้สังฆมณฑล

สดุดี "โป๊ป เบเนดิกต์ ที่ 16" ที่กล้าคุ้ยปัญหาสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ

- พระสันตะปาปา ฟรังซิส ตรัสว่า "การที่พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 จัดการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังเป็นเรื่องน่าชื่นชมมากๆ พวกเราต้องรับใช้สัตบุรุษแบบนี้ ประดุจแบบอย่างความกล้าหาญที่จะฝึกอบรมบรรดาเณรที่เตรียมตัวเป็นพระสงฆ์ให้รู้ถึงความท้าทายที่เข้มข้นในการเป็นประชากรของพระเจ้า"

นักบวชต้องเป็นประจักษ์พยาน

- พระสันตะปาปา ฟรังซิส กระตุ้นบรรดานักบวชชายหญิงทุกคนว่า "พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 เคยตรัสว่า พระศาสนจักรไม่ได้เติบโตด้วยการเชิญคนให้เปลี่ยนศาสนา แต่เราเติบโตด้วยการเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า จงไปปลุกโลกให้ตื่นขึ้นด้วยการเป็นประจักษ์พยานในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งการกระทำและการใช้ชีวิต มันเป็นไปได้เสมอที่จะดำเนินชีวิตในโลกในรูปแบบที่แตกต่างออกไป

การทำงานกับเยาวชน

- พระสันตะปาปาให้มุมมองเรื่องนี้ว่า "คนที่ทำงานกับเยาวชนไม่สามารถยึดอะไรที่เป็นระเบียบแบบแผนเกินไปกับพวกเขา เราจำเป็นต้องมีภาษาใหม่ๆในการสื่อสาร มันสำคัญมากๆที่จะต้องค้นหาภาษาเยาวชนที่แตกต่างจากอดีตที่เคยเป็นมา อย่าลืมนะว่าเรากำลังดำเนินชีวิตอยู่ในโลกสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แบบแผนการทำงานกับเยาวชนจัดเป็นงานศิลปะ ไม่ใช่งานตำรวจคอยปกครองพวกเขา"

หลังจบการสนทนานี้ พระสันตะปาปาทรงประกาศให้ ปี 2015 เป็น "ปีแห่งนักบวช" นั่นเอง

Read More: Wake up the world!

Comments