โป๊ปฟรังซิส: "ความเงียบจะช่วยเราพบธรรมล้ำลึกของพระเจ้า"
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส บุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์ ทรงชี้ เราจะพบและสัมผัสธรรมล้ำลึกของพระเจ้า โดยผ่านทางการนิ่งเงียบ เหมือนที่แม่พระแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง ทรงสอน มนุษย์ไม่สามารถอธิบายเรื่องธรรมล้ำลึกได้ แต่เรารู้ว่า ที่ใดที่ไม่มีความสงบเงียบในชีวิต ธรรมล้ำลึกก็สูญหายไปจากที่นั่น

ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า:
- พระวรสารวันนี้ อัครเทวดากาเบรียลมาหาแม่พระแล้วแจ้งเรื่องการบังเกิดของพระเยซู อย่างไรก็ตาม ตอนที่เทวดากาเบรียลแจ้งแม่พระ แม่พระอยู่ในอาการ "วุ่นวายพระทัยมาก"
- อย่างไรก็ตาม แม้จะวุ่นวายพระทัย แต่แม่พระก็ยังสงบนิ่งและตั้งใจฟัง ความเงียบนี่แหละที่เป็น "ก้อนเมฆ" ปกคลุมธรรมล้ำลึกของความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับเรา
- เราไม่สามารถอธิบายเรื่องธรรมล้ำลึกได้ แต่เรารู้ว่า ที่ใดที่ไม่มีความสงบเงียบในชีวิต ธรรมล้ำลึกก็สูญหายไปจากที่นั่น ทุกสิ่งจะสูญสิ้นไป ดังนั้น เราต้องปกป้องธรรมล้ำลึกด้วยความเงียบ
- ธรรมล้ำลึกที่พระเจ้าเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ได้รับการปกป้องอย่างรอบคอบ นี่คือสิ่งที่เกิดกับแม่พระ เมื่อแม่พระได้ตั้งครรภ์เดชะพระจิต ธรรมล้ำลึกของการเป็นมารดาของพระเจ้าก็บังเกิด และแม่พระทราบเรื่องนี้ดี
- ลองพิจารณาดูนะว่า มีกี่ครั้งที่แม่พระเลือกที่จะเงียบ และมีกี่ครั้งที่แม่พระเลือกจะไม่พูดทั้งๆที่จริงๆแล้วความรู้สึกเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ก็เพื่อปกป้องธรรมล้ำลึกของความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับแม่พระ
- เฉพาะอย่างยิ่งตอนที่อยู่แทบเชิงกางเขน พระวรสารไม่ได้บอกเราถึงเหตุการณ์ตอนนั้นว่า แม่พระพูดอะไรออกมาไหม แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้แน่ๆคือแม่พระเงียบ แม้ในจิตใจ แม่พระจะกำลังพูดกับพระเจ้าก็ตาม
- แม่พระก็เป็นมนุษย์เหมือนเรานี่แหละ บางทีแม่พระอาจต้องการทูลพระเจ้าว่า "พระองค์บอกลูกว่า ลูกชายของลูกจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์บอกลูกว่า จะมอบบัลลังก์ของบรรพบุรุษดาวิดให้กับเขา และเขาจะครองบัลลังก์สืบไปตลอดนิรันดร"
- แต่แม่พระเลือกจะสงบนิ่ง แม่พระสัมผัสกับธรรมล้ำลึกที่แม่พระก็ไม่เข้าใจ แต่อาศัยความเงียบนั้นเอง ธรรมล้ำลึกได้เข้าไปและผลิดอกออกผลด้วยความหวัง
- ดังนั้น เราก็ต้องเป็นเหมือนแม่พระที่ใช้ชีวิตในพลังของความเงียบ คริสตชนทุกคนควรจะรู้ว่างานธรรมล้ำลึกของพระเจ้า อยู่ในจิตใจและอยู่ในจิตวิญญาณของเรา
- ความเงียบจะช่วยเราค้นพบธรรมล้ำลึก นั่นคือ ธรรมล้ำลึกของการพบกับพระเจ้า ธรรมล้ำลึกของการเดินผ่านชีวิตนี้ไปหาพระเจ้า
Read More: Vatican Radio

ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า:
- พระวรสารวันนี้ อัครเทวดากาเบรียลมาหาแม่พระแล้วแจ้งเรื่องการบังเกิดของพระเยซู อย่างไรก็ตาม ตอนที่เทวดากาเบรียลแจ้งแม่พระ แม่พระอยู่ในอาการ "วุ่นวายพระทัยมาก"
- อย่างไรก็ตาม แม้จะวุ่นวายพระทัย แต่แม่พระก็ยังสงบนิ่งและตั้งใจฟัง ความเงียบนี่แหละที่เป็น "ก้อนเมฆ" ปกคลุมธรรมล้ำลึกของความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับเรา
- เราไม่สามารถอธิบายเรื่องธรรมล้ำลึกได้ แต่เรารู้ว่า ที่ใดที่ไม่มีความสงบเงียบในชีวิต ธรรมล้ำลึกก็สูญหายไปจากที่นั่น ทุกสิ่งจะสูญสิ้นไป ดังนั้น เราต้องปกป้องธรรมล้ำลึกด้วยความเงียบ
- ธรรมล้ำลึกที่พระเจ้าเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ได้รับการปกป้องอย่างรอบคอบ นี่คือสิ่งที่เกิดกับแม่พระ เมื่อแม่พระได้ตั้งครรภ์เดชะพระจิต ธรรมล้ำลึกของการเป็นมารดาของพระเจ้าก็บังเกิด และแม่พระทราบเรื่องนี้ดี
- ลองพิจารณาดูนะว่า มีกี่ครั้งที่แม่พระเลือกที่จะเงียบ และมีกี่ครั้งที่แม่พระเลือกจะไม่พูดทั้งๆที่จริงๆแล้วความรู้สึกเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ก็เพื่อปกป้องธรรมล้ำลึกของความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับแม่พระ
- เฉพาะอย่างยิ่งตอนที่อยู่แทบเชิงกางเขน พระวรสารไม่ได้บอกเราถึงเหตุการณ์ตอนนั้นว่า แม่พระพูดอะไรออกมาไหม แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้แน่ๆคือแม่พระเงียบ แม้ในจิตใจ แม่พระจะกำลังพูดกับพระเจ้าก็ตาม
- แม่พระก็เป็นมนุษย์เหมือนเรานี่แหละ บางทีแม่พระอาจต้องการทูลพระเจ้าว่า "พระองค์บอกลูกว่า ลูกชายของลูกจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์บอกลูกว่า จะมอบบัลลังก์ของบรรพบุรุษดาวิดให้กับเขา และเขาจะครองบัลลังก์สืบไปตลอดนิรันดร"
- แต่แม่พระเลือกจะสงบนิ่ง แม่พระสัมผัสกับธรรมล้ำลึกที่แม่พระก็ไม่เข้าใจ แต่อาศัยความเงียบนั้นเอง ธรรมล้ำลึกได้เข้าไปและผลิดอกออกผลด้วยความหวัง
- ดังนั้น เราก็ต้องเป็นเหมือนแม่พระที่ใช้ชีวิตในพลังของความเงียบ คริสตชนทุกคนควรจะรู้ว่างานธรรมล้ำลึกของพระเจ้า อยู่ในจิตใจและอยู่ในจิตวิญญาณของเรา
- ความเงียบจะช่วยเราค้นพบธรรมล้ำลึก นั่นคือ ธรรมล้ำลึกของการพบกับพระเจ้า ธรรมล้ำลึกของการเดินผ่านชีวิตนี้ไปหาพระเจ้า
Read More: Vatican Radio
Comments
Post a Comment