โป๊ปฟรังซิส: "อย่าทิ้งเด็กและคนชราให้เป็นส่วนเกินของสังคม"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงวอนขอคริสตชนอย่าทอดทิ้งเด็กและคนชราให้เป็นส่วนเกินของสังคม ทรงชี้ เยาวชนต้องเรียนรู้แนวทางการสร้างครอบครัวอบอุ่นจากพ่อแม่และปู่ย่าตายาย ทรงย้ำ เวลาแต่งงาน เราต้องอย่าหวังผลประโยชน์จากคู่ชีวิต แต่เราต้องแบ่งปันและเสียสละร่วมกับคู่ชีวิตของเรา


ช่วงสายวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมของสมณสภาเพื่อครอบครัว ที่มาประชุมในโอกาสครบ 30 ปีที่สันตะสำนักออกกฏบัตรเรื่องสิทธิในครอบครัว โดยงานนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "ครอบครัว การดำเนินชีวิตด้วยความชื่นชมยินดีในความเชื่อ"

ในส่วนพระดำรัสสอน พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า:

- เราแต่ละคนต้องร่วมสร้างบุคลิกภาพในครอบครัวให้เจริญเติบโตอย่างอบอุ่น ไม่ว่าคนที่เป็นพ่อ, แม่, พี่ หรือน้อง เราต้องสร้างครอบครัวให้มีลมหายใจและสายสัมพันธ์แห่งความอบอุ่น สำหรับเราที่เป็นคริสตชน การอบรมความเชื่อจะช่วยให้เราตระหนักถึงความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเรา ตระหนักถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เราต้องอย่าเมินเฉยต่อทุกคนที่เจ็บป่วย, อ่อนแอ รวมถึงคนที่ไม่เป็นที่ต้องการของสังคม

- ครอบครัวถูกสร้างขึ้นจากการแต่งงาน ซึ่งนี่ถือเป็น "ศีลศักดิ์สิทธิ์แรกของมนุษย์"

- ในการแต่งงาน เราได้มอบตัวเราทั้งครอบให้แก่คู่ชีวิต เราให้โดยไม่ต้องมาหวังหรือคิดคำนวณสิ่งใดๆ เพราะเราต้องแบ่งปันและเสียสละร่วมกับคู่ชีวิตของเรา เหนือสิ่งอื่นใด เราต้องวางใจในพระญาณสอดส่องของพระเจ้า นี่คือประสบการณ์ที่จะสอนให้เยาวชนสามารถเรียนรู้จากพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของตนเอง

- การแต่งงานคือประสบการณืของความเชื่อในพระเจ้าและความวางใจในพระองค์ วางใจในเสรีภาพขั้นพื้นฐานและความศักดิ์สิทธิ์ เพราะความศักดิ์สิทธิ์จะช่วยให้เรามอบตัวเราเองด้วยความเสียสละในทุกๆวัน

- ชีวิตครอบครัว เราต้องพบเจอบุคคล 2 ระดับ หนึ่งคือ วัยเด็กและวัยชรา ซึ่งทั้ง 2 วัยนี้เป็นวัยคนละขั้ว แต่ก็เปี่ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์ทั้งคู่ แต่บ่อยครั้งก็เป็นวัยที่ถูกเมินเฉยมากที่สุด

- สังคมทุกวันนี้ เมินเฉยต่อเด็กและคนชรา เราทำให้คนชรากลายเป็นส่วนเกินของสังคม เมื่อใดที่เด็กและคนชราถูกมองข้ามความสำคัญ สังคมก็จะพบกับความอยุติธรรมและจะทำให้สังคมล้มเหลว และนี่ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาสังคม

- พระศาสนจักรคาทอลิกจะต้องใส่ใจกับปัญหานี้ เราต้องสร้างความใกล้ชิดฝ่ายจิตกับสมาชิกครอบครัวทุกคน เฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนของตน, ผู้ที่ครอบครัวต้องแตกหัก, ผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัยและไม่มีงานทำ และคู่สมรสที่เผชิญปัญหาหย่าร้าง เราต้องช่วยพวกเขาด้วยความกล้าหาญและเคารพสิ่งที่เขาเป็น เพราะความงดงามของการแต่งงานและชีวิตครอบครัวจะได้รับการส่องแสงจากพระวรสารเป็นสำคัญ

Read More: Vatican Radio

Comments