ฟาติมาสาร - วาติกันพักร้อน แต่พระสันตะปาปาไม่พัก (18 ส.ค. 2013)

สิงหาคมเป็นเดือนที่เงียบที่สุดสำหรับการทำข่าวพระสันตะปาปาและวาติกัน เพราะนี่คือเดือนที่ชาวอิตาเลี่ยนและชาวยุโรปหลายประเทศพักร้อนตลอดเดือน พนักงานแผนกต่างๆในวาติกันก็พักร้อนด้วย รวมไปถึงบรรดาพระคาร์ดินัล พระสังฆราช พระสงฆ์ และนักบวชที่ไม่ใช่ชาวอิตาเลี่ยน ก็จะบินกลับประเทศของตนในเดือนนี้เช่นกัน ดังนั้น ข่าวพระสันตะปาปาตลอดเดือนสิงหาคมจึงมีให้ติดตามน้อยมาก 




ตามธรรมเนียมปฏิบัติในเดือนสิงหาคม พระสันตะปาปาจะหลบคลื่นความร้อนที่สูงถึง 40 องศาเซลเซียส ด้วยการเสด็จออกจากวาติกันไปประทับที่พระราชวังฤดูร้อน คาสเตลกันดอลโฟ ไม่ว่าจะเป็นพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6, พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 และพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ต่างไปพักร้อนที่นั่นหมด

กระนั้น ธรรมเนียมปฏิบัตินี้ไม่สามารถใช้ได้กับพระสันตะปาปา ฟรังซิส เพราะพระองค์ “ไม่พักร้อน” แต่เลือกทรงงานเงียบๆคนเดียวต่อไปในวาติกัน (หากใครติดตามข่าวพระสันตะปาปาอย่างใกล้ชิด น่าจะทราบดีว่า พระสันตะปาปา ฟรังซิส แทบไม่เคยใช้สิทธิ์พักร้อนเลย พระองค์เลือกจะทำงานทุกวันและออกไปช่วยเหลือคนจนตามท้องถนน และเมื่อมาเป็นพระสันตะปาปา พระองค์ก็ยังเลือกวิถีชีวิตแบบนี้ต่อไป นั่นคือ ทำงาน ทำงาน และทำงานอย่างเดียว)

สำหรับงานที่พระสันตะปาปาทำในระหว่างที่คนอื่นพักร้อนคือ “การเตรียมปฏิรูปโรมันคูเรีย” ซึ่งจะมีการประชุมใหญ่คณะพระคาร์ดินัล 8 องค์ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นปรึกษางานสำคัญนี้ การประชุมจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 ตุลาคม 2013

พูดถึงโรมันคูเรีย ในสมณสมัยของพระสันตะปาปาองค์ก่อนๆ เฉพาะอย่างยิ่งสมณสมัยของพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ศูนย์กลางในการบริหารพระศาสนจักรจะอยู่ที่สำนักเลขาธิการนครรัฐวาติกัน ซึ่งมี พระคาร์ดินัล ตาร์ชิซิโอ แบร์โตเน่ เป็นผู้ดูแล (คนนี้มีศักดิ์เท่ากับ “นายกรัฐมนตรี” ส่วนพระสันตะปาปาคือกษัตริย์)

อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งดังกล่าวแทนที่จะเป็นศูนย์กลางในการบริหาร กลับกลายเป็นศูนย์กลางของปัญหาซะงั้น เพราะพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่เล่นการเมืองมากเกินไปจนทำให้หลายฝ่ายทนไม่ไหวต้องออกมาโวยวายกันใหญ่ (คนของตัวเองจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นใหญ่ ถ้าเป็นคนฝั่งตรงข้ามจะถูกย้ายออกจากวาติกัน) ตัวอย่างชัดเจนสุดคือการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บรรดาพระคาร์ดินัลเปิดประเด็นสำคัญต้องรีบปฏิรูปโรมันคูเรียที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่โดยด่วน เพราะหลายคนเข้าไม่ถึงตัวของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์เลย ทุกอย่างถูกดองอยู่ที่สำนักเลขาธิการนครรัฐวาติกันหมด

พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทราบปัญหานี้ดี พระองค์จึงออกนโยบายล่าสุดว่า “ถ้าใครจะเข้าเฝ้าพระสันตะปาปา ขอให้มาติดต่อที่ห้องทำงานพระสันตะปาปาโดยตรง ไม่ต้องผ่านสำนักเลขาธิการ และถ้าคำสั่งไหนที่มีการแอบอ้างชื่อว่าพระสันตะปาปาเป็นคนสั่ง ขอให้ทุกคนอย่ายึดติดกับคำสั่งนั้น ขอให้มาถามพระสันตะปาปาโดยตรงว่า พระองค์เป็นคนสั่งแบบนั้นจริงๆใช่ไหม” 

เรื่องเข้าเฝ้าพระสันตะปาปา ในสมัยของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์จัดเป็นประเด็นมากๆ พระคาร์ดินัลหลายองค์ไม่เคยได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปาเลย หรือกว่าจะได้เข้าเฝ้าก็ต้องรอนานถึง 8 เดือน เพราะพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่จัดตารางเวลาแบบให้พวกพ้องตัวเองได้เข้าเฝ้าก่อน แต่เมื่อมาถึงสมัยของพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระองค์ทรงจัดตารางเวลาด้วยพระองค์เอง ถึงจะมีเลขาฯส่วนพระองค์ แต่เลขาฯก็ไม่มีสิทธิ์มาจัดตารางเวลาเข้าเฝ้า พระองค์จะดูเอง ดังนั้น คนทั่วไปจึงมีสิทธิ์เข้าถึงตัวพระสันตะปาปาได้ง่ายยิ่งขึ้น

ส่วนเรื่องการออกคำสั่งโดยอ้างชื่อพระสันตะปาปา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องร้อนในสมัยพระสันตะปาปาเบเนดิกต์เหมือนกัน พระคาร์ดินัลหลายองค์เปิดเผยว่า การทำงานในโรมันคูเรียสมัยพระสันตะปาปาเบเนดิกต์เป็นไปแบบยากลำบากมาก เพราะพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่ชอบออกคำสั่งโดยพูดว่า “นี่เป็นพระประสงค์ของพระสันตะปาปา ...” และ “พระสันตะปาปาเคยสั่งไว้ว่า ...”  

สองคำสั่งนี้เป็นคำพูดที่พระคาร์ดินัลแบร์โตเน่ชอบอ้างเวลาทำงานร่วมกับพระคาร์ดินัลคนอื่น ทำให้คนอื่นไม่กล้าทำงานต่อ เพราะคิดว่าพระสันตะปาปาสั่งแบบนั้นจริงๆ พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงทราบปัญหานี้ จึงสั่งชัดเจนว่า “เวลาใครอ้างชื่อพระสันตะปาปา ขอให้ทุกคนมาถามเราได้เลยว่า เราพูดแบบนั้นจริงไหม เราอยู่ที่ห้อง 201 ในหอพักซางตา มาร์ธา ถ้ามีปัญหาอะไร ท่านเดินมาหาเราได้เลย” ประเด็นเรื่องการแอบอ้างชื่อพระสันตะปาปาในทางที่ผิด ก็ได้รับการแก้ไขในที่สุด

นี่เป็นความเคลื่อนไหวเล็กๆระหว่างที่พระสันตะปาปาอยู่ในช่วงพักร้อน แต่ยังนั่งทำงานตามปกติอยู่ในวาติกัน ตลอดเดือนนี้ อาจมีข่าวให้ติดตามไม่มาก แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่มีให้ติดตามครับ


AVE   MARIA

Comments