ฟาติมาสาร - เสียงบ่นจากอเมริกันคาร์ดินัล (1 ก.ย. 2013)
ต้นเดือนหน้า วันที่ 1-3 ตุลาคม สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส จะเป็นประธานในการประชุมครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในสมณสมัยของพระองค์ นั่นคือ การประชุมเพื่อปฏิรูปโรมันคูเรีย
ก่อนลงรายละเอียด หลายคนคงสงสัยว่า “โรมันคูเรีย” (ROMAN CURIA) คืออะไร โรมันคูเรียคือองค์กรบริหารพระศาสนจักรส่วนกลาง หากจะกล่าวไปมันเหมือนรัฐบาลกลางของประเทศใหญ่ๆอย่างสหรัฐอเมริกาหรือออสเตรเลีย โรมันคูเรียมีหัวหน้าผู้บริหารคือ “เลขาธิการนครรัฐวาติกัน” ส่วนสังฆมณฑลท้องถิ่นตามประเทศต่างๆเปรียบได้กับรัฐบาลท้องถิ่นที่คอยดูแลคริสตชนในถิ่นของตน
หากใครติดตาม Pope Report เป็นประจำ น่าจะทราบดีว่า ต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้พระสันตะปาปาต้องปฏิรูปโรมันคูเรีย เกิดจาก “พระคาร์ดินัล ตาร์ชิซิโอ แบร์โตเน่” คนที่เป็นเลขาธิการนครรัฐวาติกัน (ปัญหาเกิดจากการบริหารงานที่ไม่โปร่งใสของพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่ ซึ่งมักจะเล่นพวกพ้องและจ้างผู้รับเหมาทำงานในวาติกันแบบไม่โปร่งใส รวมถึงชอบโยกย้ายคนที่ “เห็นต่าง” จากตน ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ไกลๆไปเลย)
ปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมด บรรดาพระคาร์ดินัลหลายองค์ที่ตามข่าวในวาติกันต่างทราบกันดี ในการประชุมคณะพระคาร์ดินัลก่อนการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีการยกปัญหาของเลขาธิการนครรัฐวาติกันมาโต้แย้งกัน ตัวของพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่ก็ทราบดีว่า ตนเองมีศัตรูรอบด้านเยอะมาก แต่ที่ยังอยู่ในตำแหน่งได้ยาวนานเพราะนิสัยของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 จะปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาของตนก่อนเสมอ ไม่ว่าคนนั้นจะเจอมรสุมขนาดไหน พระองค์จะยืนเคียงข้างตลอดเวลา (2 สัปดาห์ที่แล้ว ผมเขียนไปว่า พระสันตะปาปา ฟรังซิส สั่งว่า “ถ้าใครแอบอ้างชื่อพระสันตะปาปา ให้มาถามพระองค์ก่อนว่า พระองค์สั่งแบบนั้นจริงไหม” ... หนึ่งในคนที่มักจะอ้างชื่อพระสันตะปาปาก็คือพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่นี่แหละ ครั้งหนึ่ง พระคาร์ดินัล วอลเตอร์ แคสเปอร์ อดีตประธานสมณสภาส่งเสริมเอกภาพคริสตชน เคยบ่นดังๆว่า “เหลือเชื่อมากๆที่ตนเองทำเรื่องขอเข้าเฝ้าพระสันตะปาปา แต่กว่าจะได้เฝ้า มันใช้เวลาถึง 8 เดือน เพราะพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่มักจะบอกว่า พระสันตะปาปาไม่ว่าง แต่พอพระคาร์ดินัลแคสเปอร์เจอพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ พระสันตะปาปากลับตอบว่า มาคุยได้เลย”)
จนถึงตอนนี้ กาลเวลาเปลี่ยนมาถึงยุคของพระสันตะปาปา ฟรังซิส แต่คนที่ทำหน้าที่เลขาธิการนครรัฐวาติกันยังเป็นหน้าเก่าอย่างพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่เหมือนเดิม เมื่อเป็นเช่นนี้ พระคาร์ดินัลบางกลุ่มเริ่มหมดความอดทนและเริ่มออกมาให้สัมภาษณ์เชิงเร่งให้พระสันตะปาปาทำอะไรสักอย่างกับผู้ที่ทำหน้าที่ดังกล่าว
หนึ่งในพระคาร์ดินัลที่ออกมาพูดดังๆถึงเรื่องนี้คือ “พระคาร์ดินัล ทิโมธี โดแลน” ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งสหรัฐอเมริกาและยังเป็นพระอัครสังฆราชแห่งอัครสังฆมณฑลนิวยอร์ก พระคาร์ดินัลโดแลนจัดเป็นหนึ่งในคนที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อชาวคาทอลิกอเมริกันค่อนข้างมาก ท่านออกมาให้สัมภาษณ์ถึงตำแหน่งเลขาธิการนครรัฐวาติกันว่า “พวกเราพระสังฆราชคาทอลิกอเมริกันต้องการคนที่มีความสามารถในการบริหารจัดการและมีความเป็นผู้นำในการทำหน้าที่เลขาธิการนครรัฐวาติกัน เราไม่ต้องการคนที่บริหารงานแบบเอื้อประโยชน์พวกพ้องเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้”
“พวกเราคาดหวังว่าในการประชุมปฏิรูปโรมันคูเรีย จะมีการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังและเป็นวาระเร่งด่วน พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นผู้นำในการอภิบาลจิตใจและทรงทำให้พระองค์เองเป็นแบบอย่างที่เด่นชัดอยู่แล้ว แต่คนที่จะมาบริหารและประสานงานกับสังฆมณฑลต่างๆทั่วโลก เราต้องการคนที่มีความสามารถจริงๆ ไม่ใช่สร้างความสับสนเหมือนกับตอนนี้”
จะเห็นได้ว่า บรรดาพระสังฆราชคาทอลิกอเมริกันเริ่มส่งเสียงฮึ่มๆรบเร้าพระสันตะปาปาให้เร่งแก้ไขเรื่องตัวเลขาธิการนครรัฐวาติกันให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า พระสันตะปาปา ฟรังซิส จะไม่รู้ถึงปัญหานี้ พระองค์ทรงทราบเรื่องนี้ดี พระสันตะปาปา ฟรังซิส เคยพูดเปรยๆไว้ว่า “สไตล์การทำงานของพ่อเป็นแบบตรงๆ จะโต้แย้งพระสันตะปาปาก็พูดออกมาเลย พ่อชอบนะ ถ้ามีคนแย้งความเห็นเรา เพราะมันทำให้เราได้เห็นอะไรที่กว้างขึ้น พ่อไม่ชอบพวกประจบสอพลอ เฉพาะอย่างยิ่ง พวกที่ชอบพูดว่า ‘ได้ครับผม เหมาะสมครับท่าน’ คนพวกนี้พ่อไม่ประทับใจ พวกเขาออกความเห็นเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น”
... ในมุมมองของผมที่ติดตามปัญหานี้มาตลอด เชื่อว่า บทสัมภาษณ์ที่พระคาร์ดินัลโดแลนกล่าวเชิงบ่นนี้ น่าจะเป็นการกระตุ้นให้การประชุมปฎิรูปโรมันคูเรียเกิดความจริงจังกับตำแหน่งเลขาธิการนครรัฐวาติกัน เพราะเห็นกันแล้วว่า ตลอดหลายปีที่ผ่าน ปัญหามากมายที่เกิดในสมณสมัยของพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ก็มาจากตำแหน่งนี้ ดังนั้น มันถึงเวลาปฏิรูปเสียที และต้องทำให้ถูกเหมือนคำพูดที่ว่า PUT THE RIGHT MAN ON THE RIGHT JOB หรือ “เลือกคนให้เหมาะกับงาน” นั่นเอง
ก่อนลงรายละเอียด หลายคนคงสงสัยว่า “โรมันคูเรีย” (ROMAN CURIA) คืออะไร โรมันคูเรียคือองค์กรบริหารพระศาสนจักรส่วนกลาง หากจะกล่าวไปมันเหมือนรัฐบาลกลางของประเทศใหญ่ๆอย่างสหรัฐอเมริกาหรือออสเตรเลีย โรมันคูเรียมีหัวหน้าผู้บริหารคือ “เลขาธิการนครรัฐวาติกัน” ส่วนสังฆมณฑลท้องถิ่นตามประเทศต่างๆเปรียบได้กับรัฐบาลท้องถิ่นที่คอยดูแลคริสตชนในถิ่นของตน
หากใครติดตาม Pope Report เป็นประจำ น่าจะทราบดีว่า ต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้พระสันตะปาปาต้องปฏิรูปโรมันคูเรีย เกิดจาก “พระคาร์ดินัล ตาร์ชิซิโอ แบร์โตเน่” คนที่เป็นเลขาธิการนครรัฐวาติกัน (ปัญหาเกิดจากการบริหารงานที่ไม่โปร่งใสของพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่ ซึ่งมักจะเล่นพวกพ้องและจ้างผู้รับเหมาทำงานในวาติกันแบบไม่โปร่งใส รวมถึงชอบโยกย้ายคนที่ “เห็นต่าง” จากตน ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ไกลๆไปเลย)
ปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมด บรรดาพระคาร์ดินัลหลายองค์ที่ตามข่าวในวาติกันต่างทราบกันดี ในการประชุมคณะพระคาร์ดินัลก่อนการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีการยกปัญหาของเลขาธิการนครรัฐวาติกันมาโต้แย้งกัน ตัวของพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่ก็ทราบดีว่า ตนเองมีศัตรูรอบด้านเยอะมาก แต่ที่ยังอยู่ในตำแหน่งได้ยาวนานเพราะนิสัยของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 จะปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาของตนก่อนเสมอ ไม่ว่าคนนั้นจะเจอมรสุมขนาดไหน พระองค์จะยืนเคียงข้างตลอดเวลา (2 สัปดาห์ที่แล้ว ผมเขียนไปว่า พระสันตะปาปา ฟรังซิส สั่งว่า “ถ้าใครแอบอ้างชื่อพระสันตะปาปา ให้มาถามพระองค์ก่อนว่า พระองค์สั่งแบบนั้นจริงไหม” ... หนึ่งในคนที่มักจะอ้างชื่อพระสันตะปาปาก็คือพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่นี่แหละ ครั้งหนึ่ง พระคาร์ดินัล วอลเตอร์ แคสเปอร์ อดีตประธานสมณสภาส่งเสริมเอกภาพคริสตชน เคยบ่นดังๆว่า “เหลือเชื่อมากๆที่ตนเองทำเรื่องขอเข้าเฝ้าพระสันตะปาปา แต่กว่าจะได้เฝ้า มันใช้เวลาถึง 8 เดือน เพราะพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่มักจะบอกว่า พระสันตะปาปาไม่ว่าง แต่พอพระคาร์ดินัลแคสเปอร์เจอพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ พระสันตะปาปากลับตอบว่า มาคุยได้เลย”)
จนถึงตอนนี้ กาลเวลาเปลี่ยนมาถึงยุคของพระสันตะปาปา ฟรังซิส แต่คนที่ทำหน้าที่เลขาธิการนครรัฐวาติกันยังเป็นหน้าเก่าอย่างพระคาร์ดินัลแบร์โตเน่เหมือนเดิม เมื่อเป็นเช่นนี้ พระคาร์ดินัลบางกลุ่มเริ่มหมดความอดทนและเริ่มออกมาให้สัมภาษณ์เชิงเร่งให้พระสันตะปาปาทำอะไรสักอย่างกับผู้ที่ทำหน้าที่ดังกล่าว
หนึ่งในพระคาร์ดินัลที่ออกมาพูดดังๆถึงเรื่องนี้คือ “พระคาร์ดินัล ทิโมธี โดแลน” ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งสหรัฐอเมริกาและยังเป็นพระอัครสังฆราชแห่งอัครสังฆมณฑลนิวยอร์ก พระคาร์ดินัลโดแลนจัดเป็นหนึ่งในคนที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อชาวคาทอลิกอเมริกันค่อนข้างมาก ท่านออกมาให้สัมภาษณ์ถึงตำแหน่งเลขาธิการนครรัฐวาติกันว่า “พวกเราพระสังฆราชคาทอลิกอเมริกันต้องการคนที่มีความสามารถในการบริหารจัดการและมีความเป็นผู้นำในการทำหน้าที่เลขาธิการนครรัฐวาติกัน เราไม่ต้องการคนที่บริหารงานแบบเอื้อประโยชน์พวกพ้องเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้”
“พวกเราคาดหวังว่าในการประชุมปฏิรูปโรมันคูเรีย จะมีการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังและเป็นวาระเร่งด่วน พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นผู้นำในการอภิบาลจิตใจและทรงทำให้พระองค์เองเป็นแบบอย่างที่เด่นชัดอยู่แล้ว แต่คนที่จะมาบริหารและประสานงานกับสังฆมณฑลต่างๆทั่วโลก เราต้องการคนที่มีความสามารถจริงๆ ไม่ใช่สร้างความสับสนเหมือนกับตอนนี้”
จะเห็นได้ว่า บรรดาพระสังฆราชคาทอลิกอเมริกันเริ่มส่งเสียงฮึ่มๆรบเร้าพระสันตะปาปาให้เร่งแก้ไขเรื่องตัวเลขาธิการนครรัฐวาติกันให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า พระสันตะปาปา ฟรังซิส จะไม่รู้ถึงปัญหานี้ พระองค์ทรงทราบเรื่องนี้ดี พระสันตะปาปา ฟรังซิส เคยพูดเปรยๆไว้ว่า “สไตล์การทำงานของพ่อเป็นแบบตรงๆ จะโต้แย้งพระสันตะปาปาก็พูดออกมาเลย พ่อชอบนะ ถ้ามีคนแย้งความเห็นเรา เพราะมันทำให้เราได้เห็นอะไรที่กว้างขึ้น พ่อไม่ชอบพวกประจบสอพลอ เฉพาะอย่างยิ่ง พวกที่ชอบพูดว่า ‘ได้ครับผม เหมาะสมครับท่าน’ คนพวกนี้พ่อไม่ประทับใจ พวกเขาออกความเห็นเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น”
... ในมุมมองของผมที่ติดตามปัญหานี้มาตลอด เชื่อว่า บทสัมภาษณ์ที่พระคาร์ดินัลโดแลนกล่าวเชิงบ่นนี้ น่าจะเป็นการกระตุ้นให้การประชุมปฎิรูปโรมันคูเรียเกิดความจริงจังกับตำแหน่งเลขาธิการนครรัฐวาติกัน เพราะเห็นกันแล้วว่า ตลอดหลายปีที่ผ่าน ปัญหามากมายที่เกิดในสมณสมัยของพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ก็มาจากตำแหน่งนี้ ดังนั้น มันถึงเวลาปฏิรูปเสียที และต้องทำให้ถูกเหมือนคำพูดที่ว่า PUT THE RIGHT MAN ON THE RIGHT JOB หรือ “เลือกคนให้เหมาะกับงาน” นั่นเอง
AVE MARIA
Comments
Post a Comment