โป๊ปฟรังซิส: "จงสวดขอพระเจ้าอย่างกล้าหาญและไม่ลดละ แต่อย่าสวดแบบติดสินบน"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงสอนคริสตชนให้กล้าสวดขอพระเจ้าด้วยความกล้าหาญและกล้าที่จะ "รบเร้า" วอนขอพระเจ้าอย่างไม่ลดละ แต่ทั้งนี้ ต้องอย่าสวดขอพระแบบ "ติดสินบน" แบบว่า ถ้าได้ตามที่ขอแล้ว จะทำโน่นทำนี่ถวาย เพราะแบบนั้นไม่เรียกว่าเป็นการสวดภาวนา 


ช่วงเช้าที่ผ่านมา (จันทร์ที่ 1 ก.ค.) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระคาร์ดินัล เคิร์ต ค็อช ประธานสมณสภาเพื่อส่งเสริมเอกภาพคริสตชน มาร่วมถวายด้วย ส่วนผู้ร่วมพิธีได้แก่สมาชิกสมณสภาเพื่อส่งเสริมเอกภาพคริสตชน ในส่วนบทเทศน์ พระสันตะปาปาทรงสอนว่า:

- เราต้องสวดภาวนาด้วยความกล้าหาญต่อพระเจ้า สวดด้วยความต่อเนื่องร้อนรน เหมือนที่อับราฮัมแสดงให้เห็น

- เมื่อเราพูดถึงความกล้าหาญ เรามักจะคิดถึงความกล้าหาญแบบอัครสาวก ที่กล้าออกไปประกาศพระวรสาร แต่ช้าก่อน มันยังมีความกล้าหาญอีกแบบซึ่งแสดงออกต่อหน้าพระเจ้า นั่นคือความกล้าหาญแบบอับราฮัม ผู้มีความกล้าที่จะร้องขอพระเจ้าต่อเหตุการณ์บางอย่าง

- ความหาญกล้าที่จะต่อรองกับพระเจ้า อาจทำให้เราพวกหัวเราะอับราฮัม เราอาจมองเป็นเรื่องตลกที่คนๆหนึ่งหาญกล้าต่อรองกับพระเจ้า อับราฮัมต่อรองขอพระเจ้าถึงเหตุการณ์ที่เมืองโสโดม ถ้าเจอคนดี 50 คน ไล่ลงมาเรื่อยๆจนเหลือแค่ 10 คน อับราฮัมต่อรองพระเจ้า ทั้งๆที่รู้ดีว่า มันแทบหาคนดีที่เมืองนั้นไม่ได้เลย แต่มันเป็นวิธีเดียวที่จะถูกต้องในการร้องขอชีวิต อับราฮัมจึงกล้าที่จะต่อรองกับพระเจ้าอย่างไม่ลดละ

- บางครั้ง เราบางคนชอบไปวอนขอสิ่งของบางอย่างจากพระเจ้าเพื่อตัวเอง เราชอบทูลพระเจ้าว่า "ถ้าเป็นจริง เราจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ถวายพระเจ้า" แต่พ่อขอบอกเลยว่า "นี่ไม่ใช่การสวดภาวนา" เพราะถ้าเราต้องการให้พระเจ้ามอบพระหรรษทานให้เรา เราต้องไปขอพระองค์ด้วยความกล้าหาญและทำในสิ่งที่อับราฮัมทูลขอพระเจ้า

- ในความเป็นจริงแล้ว พระเยซูทรงยกย่องหญิงคนหนึ่งที่วอนขอพระองค์อย่างไม่ลดละ เพื่อให้พระองค์รักษาลูกสาวของเธอ การไม่ลดละความพยายามหรือจะพูดว่า "การรบเร้า" นี้ จัดเป็นความเหนื่อยหน่าย แต่นี่คือทัศนคติของการสวดภาวนา เพราะมันแสดงให้เห็นว่า เราต้องการสิ่งนี้จากใจ นี่คือการทูลขอพระเจ้าจากใจ

- นักบุญเทเรซา กล่าวไว้ว่า "จงสวดภาวนาให้เหมือนกับเรากำลังเจรจาต่อรองกับพระเจ้า" ใช่ การภาวนาแบบนี้คือการรบเร้าวอนขอพระเจ้า แต่นี่คือการภาวนาที่จะได้รับพระหรรษทานจากพระเจ้า

- สุดท้ายนี้ พ่อขอฝากการบ้านให้ทุกคนไปปฏิบัติ ขอให้เราใช้เวลาวันละ 5 นาที อ่านและรำพึงพระวาจาในหนังสือเพลงสดุดี บทที่ 103 ทุกวัน ตามนี้:

"จิตวิญญาณข้าฯ จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า และทุกสิ่งในตัวข้าพเจ้า จงถวายสาธุการแด่พระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
จิตวิญญาณข้าฯ จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า และอย่าลืมพระราชกิจทุกสิ่งของพระองค์
ผู้ทรงอภัยความชั่วช้าทั้งสิ้นของท่าน ผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของท่าน
ผู้ทรงไถ่ชีวิตของท่านจากปากแดนผู้ตาย ผู้ทรงสวมความเมตตาและพระกรุณาเป็นมงกุฎให้ท่าน"

Read More: Vatican Radio

Comments