โป๊ปฟรังซิส: "พระสังฆราชและพระสงฆ์ต้องไม่เก็บตัว แต่จงออกไปประกาศพระวรสารและช่วยเหลือเยาวชน"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงสอนบรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ให้ทุ่มเททั้งกายและใจให้กับงานอภิบาล อย่ามัวแต่เก็บตัวเงียบในเขตของตัวเอง เพราะยังมีคนอีกมากที่รอคอยพระวรสาร เฉพาะอย่างยิ่งพวกคนที่ทิ้งวัด ทรงย้ำ หน้าที่พระสังฆราชและพระสงฆ์คือช่วยเหลือเยาวชนในการประกาศพระวรสารและเป็นธรรมทูตของพระเยซู พร้อมชี้ การอภิบาลจะบังเกิดผลได้ ไม่ใช่ด้วยความคิดสร้างสรรค์หรือการประชุมสัมมนา แต่ต้องเกิดจากความเชื่อต่อพระเยซูคริสต์


ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 27 กรกฏาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาซึ่งจัดให้กับบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ และนักบวชชาวบราซิล ภายในอาสนวิหารนักบุญเซบาสเตียน นครริโอ เดอ จาเนโร ท่ามกลางผู้มาร่วมพิธีจำนวนมาก

สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า:

- วันนี้ เรามาที่นี่เพื่อสรรเสริญพระเจ้าและมายืนยันอีกครั้งถึงความปรารถนาของเราที่จะเป็นเครื่องมือของพระองค์ วันนี้ พ่อจึงอยากแบ่งปัน 3 สิ่งกับพวกท่าน นั่นคือ 1) เราถูกเรียกจากพระเจ้า, 2) เราถูกเรียกมาเพื่อประกาศพระวรสาร และ 3) เราถูกเรียกมาเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมของการพบกัน

- เรื่องแรก เราถูกเรียกจากพระเจ้า ... พระเยซูตรัสว่า "ท่านไม่ได้เลือกเรา แต่เป็นเราที่เลือกท่าน" (จอห์น 15:16) นักบุญเปาโลกล่าวว่า "ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ มิใช่เพื่อตัวข้าพเจ้า แต่เป็นพระคริสตเจ้าดำรงชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า" (กาลาเทีย 2:20)

- ชีวิตในพระคริสตเจ้าเป็นอะไรที่ล้ำค่ามากๆที่ทำให้เรามั่นใจได้ถึงความมีประสิทธิภาพของพันธกิจการรับใช้ ดังพระวรสารที่ว่า "เราเลือกท่านและมอบภารกิจให้ท่านไปทำให้เกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่" (จอห์น 15:16)

- ดังนั้น มันไม่ใช่ความสร้างสรรค์ด้านการอภิบาล หรือการประชุม หรือการวางแผนงานที่จะทำให้เกิดผล แต่สิ่งที่จะทำให้การอภิบาลบังเกิดผลคือการมีความเชื่อต่อพระเยซู ผู้ตรัสเสมอว่า "ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเรา ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน" (จอห์น 15:4)

- การดำรงอยู่กับพระคริสตเจ้าไม่ใช่ภาพลวงตาที่จะนำเราให้ห่างไกลคนอื่น แต่การดำรงอยู่ในพระคริสตเจ้าต่างหากที่จะนำเราให้ไปพบและรู้จักกับผู้อื่น เหมือนที่ บุญราศี เทเรซาแห่งกัลกัตต้า กล่าวว่า "เราต้องภาคภูมิใจกับกระแสเรียกของเรา เพราะมันมอบโอกาสให้เราได้รับใช้พระคริสตเจ้าผ่านทางผู้ยากไร้"

- เรื่องที่สอง เราถูกเรียกมาเพื่อประกาศพระวรสาร - บรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ที่รัก พวกท่านได้ติดตามเหล่าเยาวชนมายังงานเยาวชนโลก พวกเยาวชนได้ยินเสียงคำสั่งของพระเยซูที่ว่า "จงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ติดตามเรา" (มธ 28:19) ฉะนั้น มันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกท่านที่จะต้องช่วยเหลือพวกเยาวชนในความปรารถนาที่จะเป็นธรรมทูตของพระเยซู

- แน่นอนว่า บางครั้ง เสียงเรียก(กระแสเรียก)อาจทำให้หลายคนรู้สึกกลัว และคิดว่า การเป็นธรรมทูตแพร่ธรรมทำให้เราต้องละทิ้งบ้านเกิด ครอบครัว แลเพื่อนๆ แต่พระเจ้าทรงเรียกเราให้เป็นธรรมทูตในทุกๆแห่งหน พระเจ้าส่งเราไปประกาศพระวรสารทุกที่

- การเป็นธรรมทูตเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่เราได้รับศีลล้างบาปและเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการเป็นคริสตชน

- พวกเราพระสังฆราชและพระสงฆ์ต้องช่วยเหลือเยาวชนให้ตระหนักว่า เราถูกเรียกให้มาประกาศพระวรสารในบ้าน ในสังคมที่เราอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือที่ทำงาน เราต้องประกาศพระวรสารให้กับสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนฝูง ขอให้พวกเราพระสังฆราชและพระสงฆ์ช่วยเหลือเยาวชน เราต้องเปิดหูฟังคำถามต่างๆของพวกเขา พวกเยาวชนต้องการให้มีคนฟังพวกเขาเวลาอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก แน่นอน ความอดทนจำเป็นยิ่งที่เราต้องมี นอกจากนี้ เราต้องคอยให้คำปรึกษาชี้แนะพวกเขาด้วย

- พวกเราบรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ต้องทุ่มเททั้งกายและใจให้กับการอภิบาล! ... พระเยซูทรงดูแลศิษย์ของพระองค์ด้วยการส่งพวกเขาออกไป! พระองค์ไม่เคยดูแลพวกเขาเหมือนแม่ไก่ที่ใช้ปีกปกป้องลูกไก่ พระเยซูมีแต่ส่งศิษย์ออกไปประกาศพระวรสาร ดังนั้น เราไม่สามารถเก็บตัวเงียบในเขตวัด เก็บตัวเงียบในกลุ่มของเรา เพราะยังมีคนอีกมากที่กำลังรอคอยพระวรสาร!

- มันไม่เพียงพอหรอกนะที่จะเปิดประตูเข้าไปเพื่อรอการต้อนรับ แต่เราต้องเปิดประตูและเดินเข้าไปหาผู้คน เฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ค่อยมาวัด! คนเหล่านี้คือบุคคลวีไอพี (VIP) ที่ได้รับเชิญให้มาร่วมโต๊ะกับพระเจ้า จงออกไปและหาพวกเขาในทุกซอกทุกมุมของท้องถนน

- เรื่องสุดท้าย เราถูกเรียกมาเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมของการพบกัน ... ถือว่าโชคไม่ดีเท่าไหร่ที่หลายๆที่วัฒนธรรมของการปลีกตัวหรือปฏิเสธที่จะพบกันกำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก อาทิ เราไม่มีที่ว่างให้กับผู้สูงอายุหรือเด็กๆที่ไม่เป็นที่ต้องการของพ่อแม่ นอกจากนี้ มันยังไม่มีเวลาสำหรับคนยากจนและคนชายขอบของสังคม

- บรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ที่รัก เราต้องมีความกล้าที่จะสวนกระแสเหล่านี้ จงออกไปและพบปะผู้คนด้วยความชื่นชมยินดีและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับพวกเขา จงเป็นผู้รับใช้ของความเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมทั้งรับใช้วัฒนธรรมของการพบกัน

ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาถวายมิสซาให้กับพระสงฆ์และพระสังฆราชบราซิล

Read More: Vatican Radio



Comments