โป๊ปฟรังซิส: "พ่อรู้สึกแย่มากๆ เมื่อเห็นบรรดาพระสงฆ์มีรถใหม่และหรูหราขับกัน"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงยอมรับ เจ็บปวดมากๆเมื่อได้เห็นบรรดาพระสงฆ์มีรถใหม่และหรูหราขับกัน ทรงเสนอแนะ ถ้าพระสงฆ์หรือซิสเตอร์ต้องซื้อรถยนต์ ควรเลือกให้เรียบง่ายเข้าไว้ ไม่ใช่เลือกรุ่นใหม่ล่าสุดและหรูหรา ทรงย้ำ ความชื่นชมยินดีของพระสงฆ์และนักบวช ไม่ได้มาจากการมี "สมาร์ทโฟน" แต่เกิดจากความสุขในกระแสเรียกศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกันนี้ ทรงเตือนสติ พระสงฆ์และนักบวชเคยนินทาพ่อแม่พี่น้องของตัวเองไหม ถ้าไม่ ก็จงอย่าซุบซิบนินทาพี่น้องในหมู่คณะของตน เพราะเราคือหมู่คณะพี่น้องกัน


ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 6 กรกฏาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาผู้เข้ารับการอบรมในสามเณราลัยและบรรดาโนวิสกว่า 6,000 คน จาก 67 ประเทศที่มาเข้าเฝ้าโอกาสปีแห่งความเชื่อ ในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวสอนแบบไม่อ่านสคริปท์ แต่เป็นการสอนพวกเขา "แบบสดๆ จากใจ" ซึ่งพระดำรัสสอนมีใจความว่า:

- การถวายและอุทิศตัวเองให้พระคริสตเจ้าแบบชั่วครั้งชั่วคราวไม่ใช่เรื่องที่ดีพอเลย ตอนนี้ เราอยู่ในวัฒนธรรมซึ่งทุกสิ่งดูแบบชั่วครั้งชั่วคราวที่มาแล้วก็ไป มันจึงเป็นการยากมากๆที่จะเลือกทางเดินทางใดทางหนึ่งให้เด็ดขาดไปเลย

- พ่ออยากให้ทุกคนคิดอย่างรอบคอบ(เมื่อต้องสมัครบวชหรือถวายตัว) จงสวดขอพระเยซูอย่างร้อนรน และเมื่อลูกมั่นใจแล้วว่า นี่คือเสียงเรียกของพระเยซูให้ติดตามพระองค์ จงถวายชีวิตให้พระเจ้าอย่างมั่นใจได้เลย

- การเป็นพระสงฆ์หรือนักบวชชายหญิงไม่ใช่การเลือกทางเดินของชีวิต แต่นี่คือการตอบรับกระแสเรียกของพระเจ้า มันคือการตอบรับเสียงเรียกแห่งรักของพระองค์

- กระแสโลกที่เป็นแบบชั่วครั้งชั่วคราวนี้แหละที่พยายามกระหน่ำใส่พวกเรา มันเข้ามาคุกคามคนของพระศาสนจักรด้วย มันคุกคามบรรดาพระสงฆ์ ซิสเตอร์ และนักบวชชายหญิงทุกคน

- ความชื่นชมยินดี(แบบคริสตชน)เกิดจากอะไร ความชื่นชมยินดีไม่ได้มาจากโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ไม่ได้มาจากมอเตอร์ไซค์ที่ปราดเปรียว และไม่ได้มาจากรถยนต์แบบที่หลายคนเข้าใจกันนะ

- ลูกที่รัก ถ้าลูกเป็นพระสงฆ์แล้ว ถ้าลูกจำเป็นต้องมีรถยนต์ไว้ขับ พ่อขอแนะนำให้เลือกรถยนต์รุ่นเล็กและคันเล็กๆ อย่าไปเลือกรถรุ่นใหม่ล่าสุด ทำไม? ลองคิดดูซิว่า มีเด็กทั่วโลกมากมายเท่าไหร่ที่กำลังจะอดตายเพราะความหิวโหย เราเอาเงินที่จะซื้อรถใหม่ ไปช่วยเด็กๆเหล่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ

- พ่อเป็นห่วงบรรดาพระสงฆ์และซิสเตอร์ที่มีรถใหม่ พ่ออยากให้พวกเขาซื้อของที่ใหม่และทันสมัยเมื่อถึงคราวจำเป็นเท่านั้น ไม่งั้่น ก็หันมาขี่จักรยานเหมือนกับ มองซินญอร์ อัลเฟร็ด ซัวเร็บ เลขาฯของพ่อก็ได้นะ (ทุกคนปรบมือชอบใจกันยกใหญ่)

- สำหรับพ่อ มันเจ็บปวดมากๆนะ มันทำให้พ่อรู้สึกแย่มากๆเมื่อได้เห็นบรรดาพระสงฆ์มีรถใหม่และหรูหราขับกัน 

- รถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นก็จริง แต่เราต้องเลือกให้เหมาะสม เลือกให้มันดูเรียบง่ายเข้าไว้ 

- ลูกที่รัก ความชื่นชมยินดีที่แท้จริง ถือเป็นสิ่งที่ "สัมผัสได้" มันต้องสัมผัสได้เท่านั้นนะ เมื่อใดที่พ่อเห็นลูกๆที่เป็นเณรหรือเป็นเณรี หรือเห็นพระสงฆ์และซิสเตอร์ กำลังทุกข์โศกและเครียดอย่างหนัก พ่อว่ามันมีบางอย่างผิดปกตินะ

- ทำไมพ่อคิดแบบนั้น ก็เพราะมันไม่มีความเศร้าโศกอยู่ในความศักดิ์สิทธิ์นะ ... เป็นศาสนบริกรต้องอย่าทำหน้าเศร้า แต่เราต้องชื่นชมยินดี

- บรรดาเณรและเณรีที่รัก จงอย่ากลัวที่จะสำนึกในบาปผิดของตัวเอง นอกจากนี้ นอกจากอย่ากลัวแล้ว จงกล้าที่จะดำเนินชีวิตให้อยู่ในความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อที่พวกลูกจะได้มีความรู้สึกชื่นชมยินดีในการเป็น "พ่อวิญญาณ" และ "แม่วิญญาณ" ในอนาคต

- นอกจากนี้ ถ้าต้องทำงานร่วมกับเยาวชน พวกพระสงฆ์และซิสเตอร์ ต้องเข้าหาพวกเขาด้วยชีวิตของตน สิ่งนี้หมายความว่าไง นักบุญฟรานซิส อัสซีซี เคยกล่าวไว้ว่า "จงประกาศพระวรสารทุกครั้ง ถ้าจำเป็น จงทำให้พวกเขาเห็นเป็นแบบอย่าง"

- ดังนั้น ถ้าต้องทำงานร่วมกับเยาวชน จงใช้ชีวิตของตัวเองสร้างความน่าเชื่อถือให้กับพระวรสารที่เราเทศน์สอนพวกเขา

- ลูกที่รัก ในชีวิตการเป็นพระสงฆ์และนักบวช มีอยู่ 4 สิ่งที่เราต้องใส่ใจให้มากๆ นั่นคือ 1) ชีวิตฝ่ายจิต, 2) ชีวิตฝ่ายปัญญาหัดใฝ่หาความรู้, 3) ชีวิตอภิบาล และ 4) ชีวิตหมู่คณะ

- ใน 4 สิ่งนี้ สิ่งที่สำคัญสุดคือ "ชีวิตหมู่คณะ" พวกลูกต้องสร้างให้ได้เพราะมันคือกระแสเรียกสำหรับลูกๆเอง

- อีกเรื่องหนึ่งที่พ่ออยากพูดก็คือ พ่อรู้สึกละอายใจมากๆกับการกระทำของพ่อที่เคยซุบซิบนินทาผู้อื่น ในคณะนักบวชหลายคณะ การซุบซิบนินทาคือสิ่งที่สมาชิกในคณะทำกันเหมือนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

- คำถามของพ่อคือ "เราเคยซุบซิบนินทาให้ร้ายพ่อแม่ พี่น้องของเราไหม" แล้วทำไมเราต้องมาซุบซิบนินทาให้ร้ายพี่น้องนักบวชในหมู่คณะเราด้วย

- ลูกๆที่รัก จงก้าวเดินออกจากตัวเองเพื่อไปพบพระเยซูและเพื่อนพี่น้อง จงกล้าที่จะภาวนาและพบปะผู้คน พ่อต้องการให้พระศาสนจักรเป็นพระศาสนจักรที่เป็นธรรมทูตแพร่ธรรม ไม่ใช่พระศาสนจักรที่นิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลย

- พ่ออยากให้ข้อคิดว่า ลูกๆต้องอย่าเรียนรู้เรื่องผิดๆจากคนรุ่นเก่าๆที่เอาแต่บ่นอย่างเดียว แต่ไม่ทำอะไร พวกลูกต้องกล้า! ต้องมองโลกแง่ดี และต้องกล้าออกไปประกาศพระวรสาร

- ตัวอย่างที่ชัดเจนสำหรับพวกลูกก็คือ "บุญราศีเทเรซาแห่งกัลกัตต้า" ท่านดูแลผู้ป่วยมากมาย และนี่แหละคือแบบอย่างแห่งความกล้าหาญของเราทุกคน

ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาให้โอวาทผู้เข้ารับการอบรมในสามเณราลัยและบรรดาโนวิส

Read More: Vatican Radio

Read More: Vatican Insider

Comments