โป๊ปฟรังซิส: "วันสถาปนานักบุญจอห์น ที่ 23 และ จอห์น ปอล ที่ 2 ไม่น่าจะจัดทันปี 2013"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงให้สัมภาษณ์นักข่าวแบบกันเองหลายเรื่อง ไล่ตั้งแต่การปฏิรูปโรมันคูเรียและธนาคารวาติกัน ทรงย้ำว่า เราไม่ควรกีดกันและแบ่งแยก "เกย์" ออกจากสังคม แต่ควรให้เกียรติพวกเขา กระนั้นปัญหาจริงๆคือพวกพระสงฆ์ที่เป็นเกย์มากกว่า ทรงชี้พระศาสนจักรต้องให้เกียรติสตรีมากกว่านี้ ตอนท้าย ทรงเผย วันสถาปนา "นักบุญจอห์น ที่ 23" และ "นักบุญจอห์น ปอล ที่ 2" ไม่น่าจะจัดปีนี้ แต่น่าจะเป็นเดือนเมษายน 2014 


สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงประทานการสัมภาษณ์แก่บรรดาผู้สื่อข่าวระหว่างเที่ยวบินกลับจากนครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล กลับมายังกรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยบรรยากาศเป็นไปแบบสนุกสนานและพระสันตะปาปาทรงให้เวลานักข่าวถึง 80 นาทีเลยทีเดียวในการพูดคุยกับพวกเขา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พระองค์เพิ่งจะตรัสว่า "ไม่ชอบให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เพราะไม่ชอบบรรยากาศที่เหมือนต้องเดินเข้ากรงสิงโตให้นักข่าวเชือด"

ในส่วนคำถามต่างๆนั้น มีดังนั้นต่อไปนี้

- นักข่าวถามทูลถามว่า "พระองค์จะมีแนวทางอย่างไรกับการปฏิรูปธนาคารวาติกัน" 

- พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "พ่อได้ตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาซึ่งเป็นคนนอกวาติกันแล้ว (หนึ่งในนั้นคือ "จอร์จ เยียว" อดีตรมต.ต่างประเทศของสิงคโปร์) พวกเขารู้ดีว่าจะจัดการแก้ไขปัญหาอย่างไร สิ่งสำคัญสุดคือความโปร่งใสและความซื่อสัตย์สุจริต นี่คือสิ่งที่ธนาคารวาติกันจำเป็นต้องมี เรื่องร้ายๆเกิดขึ้นเพราะความล้มเหลวทางศีลธรรมของบรรดาพระสงฆ์ มันนำมาซึ่งความเจ็บปวดและอัปยศ พวกเราต้องรู้ด้วยว่า สัตบุรุษเขาต้องการเข้าถึงและรู้ถึงปัญหาเหล่านี้ ซึ่งบางครั้งสื่อมวลชนได้ตามหาข่าวเหล่านี้เพื่อรายงานอยู่แล้ว"

- ธนาคารวาติกันควรจะเป็นสถาบันการเงินเพื่อความรักความเมตตาเพื่อเพื่อนมนุษย์ ส่วนหน้าที่อื่นๆต้องเลิกให้หมด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ธนาคารวาติกันจะต้องโปร่งใสและซื่อสัตย์สุจริต นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก"

- นักข่าวทูลถามต่อว่า "เรื่องปฏิรูปโรมันคูเรีย พระองค์มีความกังวลบ้างไหม"

- พระสันตะปาปาตอบว่า "เรื่องนี้ พ่อตั้งคณะพระคาร์ดินัลที่ปรึกษาขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้ ก่อนการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ บรรดาพระคาร์ดินัลได้ประชุมกันในหัวข้อที่พระสันตะปาปาองค์ใหม่ต้องทำ พวกเขาระบุไว้หมดแล้วว่า พระสันตะปาปาองค์ใหม่ต้องแก้ปัญหาหลายอย่าง แต่กระนั้น กุญแจสำคัญสุดที่จะบริหารวาติกันให้มีประสิทธิภาพมากสุดอยู่ที่เราต้องรับใช้พระศาสนจักรทั่วโลก"

- มีนักบุญมากมายทำงานในโรมันคูเรีย ทั้งพระคาร์ดินัล พระสังฆราช พระสงฆ์ ซิสเตอร์ และฆราวาส พ่อได้พบพวกเขาแล้ว พวกเขามีทั้งพนักงานประจำและอาสาสมัครที่คอยช่วยคนจน และช่วยเหลือวัดต่างๆในสุดสัปดาห์ สื่อมวลชนเขียนเรื่องในวาติกันแต่เรื่องคนบาปและเรื่องฉาวๆ แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะต้นไม้ที่หักโค่นลงมา ส่งเสียงดังมากกว่าต้นไม้ที่ค่อยๆเจริญเติบโต

- ไม่นานมานี้ มีเรื่องอัปยศเกิดในวาติกัน นั่นคือ การจับกุมตัว มองซินญอร์ นุนซิโอ สการาโน่ (ฉ้อโกงเงิน 20 ล้านยูโร) เขาไม่ได้ติดคุกหรอก เพราะเขาเป็นนักบุญ (พระสันตะปาปาตอบแบบประชด) ส่วนเรื่อง มองซินญอร์ บัตติสต้า ริคก้า ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการผู้อำนวยการธนาคารวาติกัน และถูกใส่ความว่ามีพฤติกรรมรักร่วมเพศ พ่อได้สั่งสอบสวนแล้ว แต่ไม่พบความผิดใดๆ

- การล่วงละเมิดทางเพศไม่ได้เป็นอาชญากรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นบาปด้วย

- ถ้าคนๆหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฆราวาส พระสงฆ์หรือซิสเตอร์ก็ตาม เดินไปแก้บาปและกลับใจเสียใหม่ พระเจ้าจะให้อภัยพวกเขา และเมื่อพระเจ้าให้อภัย พระองค์ก็จะไม่จดจำความผิดของเรา นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะใครที่อยากให้พระเจ้ายกโทษบาปให้เรา เขาก็ต้องอภัยให้ผู้อื่นด้วย

- คำถามต่อไป นักข่าวทูลถามว่า "เรื่องกลุ่มผู้สนับสนุนเกย์ในวาติกัน พระองค์มีแนวทางต่อเรื่องนี้อย่างไร"

- พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราต้องแยกให้ออกระหว่าง คนที่เป็นเกย์ กับ คนบางคนที่พยายามล็อบบี้เรื่องเกย์ขึ้นมา …​ถ้าเป็นอย่างหลัง มันไม่ใช่เรื่องดีแน่"

- คนที่เป็นเกย์ที่แสวงหาพระเจ้า คนที่เป็นเกย์ซึ่งมีจิตใจดีงาม แน่นอนว่า พ่อเป็นใครมาจากไหนที่จะไปตัดสินพวกเขา? คำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิกอธิบายเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้วว่า เราต้องไม่ไปลดความสำคัญของคนที่เป็นเกย์ ต้องไม่ไปแบ่งแยกพวกเขา พวกเขาต้องเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ปัญหามันไม่ใช่เรื่องประเด็นทางเพศ เราต้องเป็นเหมือนพี่น้องชายหญิงกัน ปัญหาแท้จริงมันอยู่ที่เกย์ที่เป็นพระสงฆ์ในวาติกันมากกว่า ปัญหามันอยู่ที่ถ้าพระสงฆ์ที่เป็นเกย์พยายามล็อบบี้มากกว่า

- คำถามต่อไป นักข่าวถามว่า "เรื่องวาติกันลีกส์ (การปล่อยเอกสารลับวาติกันในสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16) มีความคืบหน้าในการจัดการไปถึงไหนแล้ว"

- พระสันตะปาปาตรัสว่า "ตอนที่พ่อไปพบ พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่คาสเตล กันดอลโฟ พระองค์ได้ให้เอกสารการสืบสวนเป็นตั้งๆให้กับพ่อ พระองค์อธิบายทุกอย่างว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง การมีพระสันตะปาปากิตติคุณอยู่เคียงข้าง ทำให้พ่อรู้สึกอบอุ่นมาก มันเหมือนมีคุณปู่ที่อยู่บ้านและคอยให้คำปรึกษาตลอดเวลา ส่วนเอกสารการสอบสวนนั้น มันไม่ได้ทำให้พ่อเสียกำลังใจ แต่มันทำให้พ่อรู้ถึงปัญหาที่หนักหนาจริงๆ"

- นักข่าวถามต่อไปว่า "การบวชสตรีเป็นสงฆ์ มีทางเป็นไปได้ไหมในพระศาสนจักรคาทอลิก"

- พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "พระศาสนจักรพูดเรื่องนี้ไปหลายครั้งแล้ว คำตอบยังเหมือนเดิมก็คือ 'ไม่' บุญราศีจอห์น ปอล ที่ 2 ตรัสชัดเจนว่า พระเยซูทรงเลือกแต่ผู้ชายเป็นสาวก และพระศาสนจักรไม่มีอำนาจในการบวชสตรีเป็นสงฆ์ กระนั้น พระศาสนจักรยังต้องปรับปรุงการพัฒนาหลักเทวศาสตร์หลายเรื่องที่จะอธิบายถึงความสำคัญของสตรีในพระศาสนจักร มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พระศาสนจักรจะดำเนินชีวิตเหมือนเป็นมารดาและเจ้าสาวของพระคริสต์ แต่เราดันไม่เห็นคุณค่าของสตรี"

- มันไม่พอหรอกนะที่เราจะบอกว่า 'ก็เรามีเด็กช่วยมิสซาผู้หญิงแล้วไง เรามีผู้อ่านบทอ่านเป็นผู้หญิง' แบบนี้มันไม่พอหรอก รู้ไว้ด้วยว่า สตรีในพระศาสนจักรมีความสำคัญมากกว่าบรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ พวกเธอเป็นเหมือนแม่พระที่มีความสำคัญมากกว่าอัครสาวก

- คำถามต่อไป นักข่าวถามว่า "แล้วเป็นไปได้ไหมที่พระศาสนจักรคาทอลิกจะอนุญาตให้คาทอลิกที่หย่าร้างและแต่งงานใหม่ รับศีลมหาสนิทได้"

- พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "เรื่องนี้ พ่อขอเคลียร์ให้ชัดๆก่อนว่า พ่ออยากให้คาทอลิกที่หย่าร้างรับศีลมหาสนิทได้ แต่ปัญหามันอยู่ที่ เมื่อพวกเขาหย่าร้างและไปแต่งงานใหม่โดยไม่มีการประกาศให้การแต่งงานครั้งแรกเป็นโมฆะ นี่จึงทำให้พวกเขารับศีลมหาสนิทไม่ได้ กระบวนการลบล้างการแต่งงานของพระศาสนจักรจำเป็นต้องได้รับการปฏิรูปและทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ แต่สำคัญกว่านั้นคือพระศาสนจักรจำเป็นต้องจริงจังกับการพัฒนาหลักสูตรการอบรมชีวิตครอบครัวให้ครบเครื่องกว่าที่เป็นอยู่ นี่คือหัวข้อที่คณะพระคาร์ดินัลที่ปรึกษาของพ่อในการปฏิรูปโรมันคูเรีย จะประชุมกันในวันที่ 1-3 ตุลาคมนี้"

- คำถามเริ่มปรับโหมดเข้าสู่เรื่องเบาๆ โดยนักข่าวจากโปรตุเกสถามว่า "ทำไม พระสันตะปาปาชอบพูดขอร้องทุกคนว่า 'สวดให้พ่อด้วยนะ'" 

- พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "สมัยที่พ่อเป็นพระสงฆ์ พ่อขอให้สัตบุรุษสวดให้พ่อ แต่ไม่ได้ขอบ่อยๆนะ พ่อมาขอให้พวกเขาสวดให้พ่อบ่อยๆก็ตอนที่พ่อเริ่มงานพระสังฆราช เพราะพ่อเชื่อว่า เราต้องการความช่วยเหลือจากพระเจ้าในการทำงานของพระองค์ ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ประชากรของพระเจ้าก้าวไปข้างหน้า พ่อรู้ตัวดีถึงข้อจำกัดของตัวเอง พ่อเป็นคนบาป พ่อจึงต้องการคำภาวนา ทุกวันนี้ พ่อยังคิดว่าตัวเองเป็นสมาชิกเยสุอิตอยู่นะ แต่ปัญหาที่พ่อพบก็คือ 'เยสุอิตมีกฎว่า เราต้องนบนอบต่อพระสันตะปาปา แต่ถ้าพระสันตะปาปาเป็นเยสุอิต พระองค์ก็ต้องนบนอบต่ออธิการเยสุอิตด้วยเช่นกัน' พ่อเป็นเยสุอิตอยู่ในจิตวิญญาณ พ่อชอบคิดอะไรแบบเยสุอิต"

- คำถามถัดไป นักข่าวถามว่า "ตกลงแล้ว วันสถาปนานักบุญ จอห์น ที่ 23 และ นักบุญ จอห์น ปอล ที่ 2 จะจัดวันไหนครับ"

- พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "ใจจริง พ่ออยากให้วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคมเป็นวันสถาปนานักบุญจอห์น ที่ 23 และ นักบุญจอห์น ปอล ที่ 2 แต่ปัญหาคือเดือนธันวาคม หิมะตกหนักที่โปแลนด์ทำให้ชาวโปลต้องพบความยากลำบากในการมาร่วมมิสซาสถาปนานักบุญใหม่ ตอนนี้ วันที่น่าเป็นไปได้ที่พ่อคิดไว้คือวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2014 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์พระเมตตาของพระเยซู"

- คำถามถัดไป นักข่าวถามว่า "ทำไม พระสันตะปาปาถึงไม่ใช้รถโป๊ปโมบิลแบบกระจกกันกระสุนครับ"

- พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "เป็นเพราะพ่อมอบความวางใจไว้กับพระเจ้า พ่อไม่ได้วางใจในกระจกกันกระสุนนะ!! อีกเรื่องที่อยากแบ่งปันพวกท่าน กรุงโรมเป็นเมืองที่สวยงามมากๆ แต่พ่อเหมือนถูกขังอยู่ในวาติกัน ออกไปเดินเล่นไม่ได้เลย นี่เป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก!"

- คำถามต่อมา "ประเทศต่อไปที่พระองค์จะไปเยือนคือที่ไหน"

- พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "ตอนนี้พ่อยังไม่รู้ แต่พ่อคิดจะไปเยี่ยมญาติๆที่เปียมอนเต้ อาจจะไปแบบเช้าเย็นกลับ นอกจากนี้ พ่อได้รับเชิญจากพระอัยกาบาร์โธโลมิว ให้ไปเยือนกรุงเยรูซาเล็ม โอกาสครบ 50 ปีที่สมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 เสด็จเยือนที่นั่น รัฐบาลอิสราเอลก็ส่งคำเชิญมาเช่นกัน แต่ที่แน่ๆ พ่อคงจะยังไม่กลับไปอเมริกาใต้ พ่ออยากไปเยือนทวีปเอเชีย ดินแดนที่สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยือน นอกจากนี้ พ่อยังได้รับเชิญจากฟาติมา ประเทศโปรตุเกสด้วย"

- คำถามสุดท้าย นักข่าวถามว่า "ในกระเป๋า(นักเรียน) พระองค์ใส่อะไรบ้างครับ"

- พระสันตะปาปาตอบว่า "พ่อใส่มีดโกนหนวด แปรงสีฟัน หนังสือสวดทำวัตร หนังสือมิสซา หนังสือของนักบุญเทเรซาแห่งลีซีเออซ์ ซึ่งพ่อชอบมากๆ มันเป็นเรื่องปกตินะที่เราจะถือกระเป๋า เราต้องดำเนินชีวิตให้เรียบง่ายปกติที่สุดนะ พ่องงมากๆที่ทำไมทุกคนสนใจกระเป๋าใบนี้ มันก็แค่กระเป๋าทั่วไปอะ อย่างไรก็ตาม มันไม่มีระเบิดซุกในนั้น ไม่ต้องกลัว!"

หลังจากเครื่องบินพระที่นั่งได้ลงจอดที่สนามบินจัมปีโน่ กรุงโรม โดยสวัสดิภาพแล้ว พระสันตะปาปาได้เสด็จไปยังมหาวิหาร​ ซานตา มาจจอเร่ เพื่อขอบคุณแม่พระที่ดูแลงานเยาวชนโลกหนนี้ให้ผ่านไปด้วยดีด้วย

Read More: Vatican Insider


Comments