ฟาติมาสาร: ฟรังซิสสไตล์: เทศน์ง่ายๆ แต่ทรงพลัง (2 มิ.ย. 2013)

นับตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2013 ที่สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาองค์ที่ 266 ของพระศาสนจักรคาทอลิก ผมมีความรู้สึกว่า การรายงานข่าวพระสันตะปาปาแบบ “รายวัน” บนโลกออนไลน์ของ Pope Report ทั้งทางเว็บไซต์, เฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ ต้องทำงานเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพราะมันเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่มีการรายงานบทเทศน์มิสซาเช้าของพระสันตะปาปาออกมาแบบทุกวัน


หากใครตามข่าวพระสันตะปาปาแบบเกาะติด น่าทราบดีว่า ไม่เคยมีการทำข่าวพระสันตะปาปาถวายมิสซาเช้าแบบรายวัน เพิ่งจะมาเกิดขึ้นในยุคพระสันตะปาปาจากคณะเยสุอิตองค์นี้นี่แหละ แม้งานผมจะหนักขึ้น เพราะกลางวันต้องทำงานบริษัท ตกดึกต้องมารายงานข่าวพระสันตะปาปา แต่มันทำให้ผมได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า สไตล์การอภิบาลของพระสันตะปาปา ฟรังซิส เป็นไปแบบเน้นเทศน์ให้ชาวบ้านเข้าใจง่ายด้วยภาษาบ้านๆ เลี่ยงการใช้ศัพท์เทวศาสตร์อลังการที่ฆราวาสฟังแล้วง่วงนอน ตัวอย่างชัดเจนก็ดังเช่นที่ผมเคยนำเสนอไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว มาวันนี้ ทุกเช้าพระสันตะปาปายังคงเทศน์แบบง่ายๆ แต่ทรงพลังทะลุจิตใจอย่างต่อเนื่อง

เชื่อว่า ผู้อ่านหลายท่านไม่ได้ติดตาม Pope Report ทั้งทางเว็บไซต์, เฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ ดังนั้น ผมขออัพเดทบทเทศน์ของพระสันตะปาปาให้ทุกท่านติดตามไปพร้อมกัน เพราะทุกคำสอนจัดว่า เข้าใจง่ายมาก แต่จะปฏิบัติได้หรือไม่ ขึ้นกับมโนธรรมของเราเองว่า จะตระหนักได้หรือไม่   ...

คริสตชนที่ชีวิตไม่เคยลำบาก ชีวิตเขาต้องมีบางอย่างผิดปกติ

“หากคริสตชนไม่เคยมีความยุ่งยากในชีวิต ถ้าทุกสิ่งดูราบรื่น ทุกสิ่งดูสวยงามไปหมด มันก็มีบางสิ่งผิดปกติ(กับชีวิตคริสตชน)แล้วล่ะ พระเยซูตรัสสอนเสมอว่า ใครที่ติดตามเราจะพบสิ่งดีๆ แต่ต้องก้าวไปพร้อมกับการถูกเบียดเบียน บนหนทางของพระเจ้าคือถนนของความสุภาพถ่อมตน นี่คือถนนที่สิ้นสุดด้วยทางแห่งกางเขน เส้นทางของคริสตชนจะเป็นแบบนี้เสมอ เพราะพระเยซูทรงนำหน้าไปก่อนเรา”

การกินอยู่อย่างฟุ่มเฟือยเป็นอุปสรรคในการติดตามพระเจ้า

“พ่ออยากจะเน้นเรื่องวัฒนธรรมแห่งความร่ำรวย 2 อย่าง 1) วัฒนธรรมแห่งการกินอยู่อย่างฟุ่มเฟือยสุขอุรา เป็นต้นเหตุทำให้เราขาดความกล้าหาญ มันทำให้เราขี้เกียจ และทำให้เราเห็นแก่ตัว การกินอยู่อย่างสุขอุราทำให้เราตายด้าน มันคือยาชาที่ทำให้เราไร้ความรู้สึกรู้สา 2) ความร่ำรวยอีกประการในยุคนี้ที่กีดกันเราจากการเข้าใกล้พระเยซู ก็คือ ความลุ่มหลงในสิ่งที่ไม่ยั่งยืนซึ่งก็คือความร่ำรวยทางเงินตรา พวกเราต่างต้องการจะเป็นนายของกาลเวลา เราต้องการมีชีวิตอยู่แค่โลกนี้ ความร่ำรวยแบบนี้ทำให้เราไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า”

พระสงฆ์อย่าประพฤติตนเป็นผู้ควบคุมความเชื่อ

“บ่อยครั้ง เรา(พระสงฆ์)ทำตัวเป็นผู้ควบคุมความเชื่อ แทนที่จะทำตัวเป็นผู้อำนวยความสะดวกทางความเชื่อของประชาสัตบุรุษ ดังนั้น พ่ออยากให้เราคิดถึงช่วงเวลาในสมัยของพระเยซู พระองค์ต้องการให้ทุกคนเข้าใกล้พระองค์มากๆ เหมือนที่ให้เด็กๆเข้ามาหา พวกเราต้องคิดถึงบรรดาประชากรผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ พวกเขาต้องการเข้าใกล้พระเยซู ขอให้เราวอนขอพระเจ้า เพื่อทุกคนที่เข้ามาหาพระศาสนจักรจะได้พบประตูที่ถูกเปิดออก เปิดเพื่อไปพบกับความรักของพระเยซู”

อย่ามองการเป็นสงฆ์และนักบวชเป็น “อาชีพ”

“การติดตามพระเยซูไม่ใช่การแสวงหาอำนาจที่สูงขึ้น การติดตามพระเยซูไม่ใช่อาชีพ แต่การติดตามพระเยซูคือการแบกกางเขน ประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรเต็มไปด้วยเรื่องเหล่านี้(การแสวงหาอำนาจในพระศาสนจักร) เริ่มตั้งแต่จักรพรรดิบางคนและผู้คุมกฎมากหน้าหลายตาใช่หรือไม่? พ่อจะไม่กล่าวถึงมากนะ แต่ก็อย่างว่า มีพระสังฆราช พระสงฆ์ บางองค์ด้วยใช่หรือไม่(ที่ทำแบบนั้น)?”

“ในอดีต มีบางคนต้องการให้ลูกหลานมีตำแหน่งสูงๆในพระศาสนจักร คริสตชนที่คิดแบบนี้คือคนที่ถูกล่อลวงด้วยจิตทางโลก พวกเขาคิดว่าการติดตามพระเยซูเป็นสิ่งดี เพราะมันสามารถเป็นอาชีพให้พวกเขาได้ พวกเขาจึงทำมันต่อไป แต่การทำแบบนี้ ไม่ใช่จิตวิญญาณแท้จริง คริสตชนต้องติดตามพระเยซูด้วยความรักหมดใจ”

... ทั้งหมดก็เป็นบทเทศน์ของพระสันตะปาปาในแต่ละวันที่ผมรายงานบนโลกออนไลน์ ทุกวันจะมีข้อคิดดีๆออกมาให้เราได้ไตร่ตรองการดำเนินชีวิตคริสตชน หลายครั้ง ผมรู้สึกว่า มันเข้าใจง่ายมาก แต่ก็หลายครั้งอีกเช่นกัน ชีวิตเราก็ปฏิบัติตามบทเทศน์ได้ยากมากๆด้วย เพราะใจและนิสัยของเราอาจยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่ หูรับฟัง แต่สมองและหัวใจยังไม่พร้อมทำตาม

แต่อย่างน้อย การได้ยินคำสอนดีๆมาเตือนใจเรา ก็ยังดีกว่าเราไม่ได้ฟังเสียงของพระเลย ผมจึงตั้งใจว่า ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะถ่ายทอดบทเทศน์ดีๆของพระสันตะปาปาให้ชาวฟาติมาได้ติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะไหนๆผมก็รายงานข่าวพระสันตะปาปาทุกวันบนโลกออนไลน์แล้ว (ซึ่งสัตบุรุษจากวัดอื่นๆได้ติดตามอย่างใกล้ชิด) แต่ถ้าชาวฟาติมาที่เป็นบ้านของผมไม่ได้รับทราบเรื่องราวดีๆแบบนี้ มันคงแปลกไม่น้อยเลยทีเดียว ...
  

AVE   MARIA

Comments