พระอัครสังฆราชเกรียงศักดิ์: "การช่วยเหลือผู้อื่น เป็นศิลปะการดำเนินชีวิตในป่าคอนกรีตอย่างกรุงเทพฯ"
พระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ชี้ การเดินไปกับแม่พระเพื่อไปช่วยเหลือผู้อื่น เป็นศิลปะในการดำเนินชีวิตใน "ป่าคอนกรีต" อย่างกรุงเทพฯ เพราะจะทำให้รู้ว่า อันไหนรักแท้ หรือรักแค่หวังผลประโยชน์ เตือนสติ ความชั่วยุคนี้มาในแบบ "ปีศาจน่ารัก" ซึ่งเราพร้อมวิ่งตามด้วยความสมัครใจ หวังเห็นคาทอลิกไทยไม่ทรยศมโนธรรมตัวเอง ตอนท้าย ยก "วัดแม่พระฟาติมา ดินแดง" เป็นสถานที่แห่งการฟื้นฟูความเชื่อและกลับใจ
![](//4.bp.blogspot.com/-XSlgKQzAZgU/UZEKeF7rc-I/AAAAAAAAEI0/kCaFKZG59fg/s400/179953_646753582006421_105642130_n.jpg)
เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา พระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระอัครสังฆราชแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้เป็นประธานในมิสซาฉลองวัดประจำปีของวัดแม่พระฟาติมา ดินแดง จ.กรุงเทพฯ ท่ามกลางบรรดาพระสงฆ์ นักบวช และสัตบุรุษที่มาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง โดยปีนี้ เป็นการฉลองครบ 57 ปีของวัดแห่งนี้ด้วย ในส่วนบทเทศน์ประจำมิสซา พระอัครสังฆราช เกรียงศักดิ์ เทศน์ว่า:
- ทุกวันที่ 13 ผู้ที่รักแม่พระ มีนัดกันที่วัดนี้ (ฟาติมา) ทุกคนมาเพื่อขอบคุณแผนการณ์ของพระเจ้า มาเพื่อฟื้นฟูความเชื่อ มาเพื่อประกาศข่าวดีให้พี่น้องทุกคน
- แม่พระฟาติมาประจักษ์มาเพื่อบอกความสำคัญของการสวดภาวนาและใช้โทษบาป แม่พระมาเพื่อบอกให้โลกรู้จักหันหลังกลับบ้าง
- สารที่แม่พระฟาติมาบอกกับเด็ก 3 คน เป็นเรื่องความทุกข์ สงคราม ลัทธิคอมมิวนิสต์ สารของแม่พระฟาติมาดูเหมือนบอกการอวสานของโลก แต่แท้จริงแล้ว นี่คือการบอกและเน้นเสมอว่า คำภาวนาจะมีชัยชนะเหนือความชั่วร้าย
- บุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2 เคยตรัสว่า "กระแสต่อต้านพระวรสารและพระศาสนจักร ไม่ได้มีแค่ลัทธิคอมมิวนิสต์เท่านั้น แต่มันยังรวมถึงลัทธิทุนนิยมด้วย"
- ลัทธิทุนนิยมได้ทำลายศักดิ์ศรีของมนุษย์ ศักดิ์ศรีเราถูกทำลายด้วยผลิตภัณฑ์ลามกอนาจาร, การมองกำไรสำคัญกว่าความศักดิ์สิทธิ์ในตัวมนุษย์ สิ่งเหล่านี้น่ากลัวมาก เพราะมันทำลายกายและใจของมนุษย์
- ความชั่วยุคนี้เข้ามาหาเราในรูปแบบโลกียนิยม (Secularism) มันมาแบบปีศาจที่น่ารัก ซึ่งเด็กและเยาวชนพร้อมวิ่งตาม
- การประจักษ์ของแม่พระฟาติมาสอนเราว่า พระศาสนจักรคือกองทัพ(ของพระเจ้า) ที่ต้องสู้กับปีศาจ การสู้รบจะจบลงเมื่อถึงวันสุดท้ายของโลก
- การเจริญชีวิตคือการก้าวเดินไปกับโลก ... ใครหยุดนิ่งก็คงแย่ แล้วเราล่ะดำเนินชีวิตแบบไหน
- คนจำนวนมากไม่รู้ว่าชีวิตตนเองเดินไปทางไหน ... บางคนตื่นขึ้นมาทุกวันก็เย็นชา ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ... คาทอลิกต้องเดินไปพร้อมกับแม่พระ เราต้องเชื่อในแม่พระ เราต้องกล้าตอบรับ (YES) กับพระเจ้า เราต้องตอบซ้ำๆเหมือนนกแก้ว
- หากเราเปิดใจให้กับพระจิต เราจะเดินสำรวจโลกในจิตใจเราได้ เราจะได้ยินเสียงเบาๆ แต่ทรงพลังจากพระเจ้า
- คนเราสามารถปิดปากมโนธรรมตัวเองให้เป็นใบ้ได้ นี่คือการทรยศตัวเอง ทรยศความเชื่ิอเมื่อรับศีลล้างบาป ทรยศความซื่อสัตย์ต่อชีวิตสมรส ทรยศความซื่อสัตย์ในคำปฏิญาณ
- ความรักจากเพื่อนมนุษย์เริ่มจากครอบครัว แล้วค่อยขยายไปยังเพื่อนพี่น้องตามกำลังความสามารถ
- การเดินไปกับแม่พระ เพื่อไปหาผู้อื่น เป็นศิลปะในการดำเนินชีวิตใน "ป่าคอนกรีต" อย่างกรุงเทพฯ นี่เป็นศิลปะในการเรียนรู้รักแท้ว่า อันไหนของจริง หรืออันไหนเป็นความรักที่หวังผลประโยชน์แอบแฝง
- เราต้องระวัง "การผูกขาดความรักเพื่อตัวเราเอง" ต้องระวังความรักที่หวังผลประโยชน์ ความรักแบบคาทอลิกต้องรู้จักแบ่งปันและต้องเสียสละตนเอง
หลังจากมิสซาจบลง พระอัครสังฆราชเกรียงศักดิ์ ได้กล่าวตอบสัตบุรุษหลังการคำนับพระอัครสังฆราช โดยท่านได้ยกย่องวัดแม่พระฟาติมาด้วยว่า "วัดแม่พระฟาติมาคือสถานที่แห่งการฟื้นฟูความเชื่อและการกลับใจอย่างแท้จริง"
![](http://4.bp.blogspot.com/-XSlgKQzAZgU/UZEKeF7rc-I/AAAAAAAAEI0/kCaFKZG59fg/s400/179953_646753582006421_105642130_n.jpg)
เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา พระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พระอัครสังฆราชแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้เป็นประธานในมิสซาฉลองวัดประจำปีของวัดแม่พระฟาติมา ดินแดง จ.กรุงเทพฯ ท่ามกลางบรรดาพระสงฆ์ นักบวช และสัตบุรุษที่มาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง โดยปีนี้ เป็นการฉลองครบ 57 ปีของวัดแห่งนี้ด้วย ในส่วนบทเทศน์ประจำมิสซา พระอัครสังฆราช เกรียงศักดิ์ เทศน์ว่า:
- ทุกวันที่ 13 ผู้ที่รักแม่พระ มีนัดกันที่วัดนี้ (ฟาติมา) ทุกคนมาเพื่อขอบคุณแผนการณ์ของพระเจ้า มาเพื่อฟื้นฟูความเชื่อ มาเพื่อประกาศข่าวดีให้พี่น้องทุกคน
- แม่พระฟาติมาประจักษ์มาเพื่อบอกความสำคัญของการสวดภาวนาและใช้โทษบาป แม่พระมาเพื่อบอกให้โลกรู้จักหันหลังกลับบ้าง
- สารที่แม่พระฟาติมาบอกกับเด็ก 3 คน เป็นเรื่องความทุกข์ สงคราม ลัทธิคอมมิวนิสต์ สารของแม่พระฟาติมาดูเหมือนบอกการอวสานของโลก แต่แท้จริงแล้ว นี่คือการบอกและเน้นเสมอว่า คำภาวนาจะมีชัยชนะเหนือความชั่วร้าย
- บุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2 เคยตรัสว่า "กระแสต่อต้านพระวรสารและพระศาสนจักร ไม่ได้มีแค่ลัทธิคอมมิวนิสต์เท่านั้น แต่มันยังรวมถึงลัทธิทุนนิยมด้วย"
- ลัทธิทุนนิยมได้ทำลายศักดิ์ศรีของมนุษย์ ศักดิ์ศรีเราถูกทำลายด้วยผลิตภัณฑ์ลามกอนาจาร, การมองกำไรสำคัญกว่าความศักดิ์สิทธิ์ในตัวมนุษย์ สิ่งเหล่านี้น่ากลัวมาก เพราะมันทำลายกายและใจของมนุษย์
- ความชั่วยุคนี้เข้ามาหาเราในรูปแบบโลกียนิยม (Secularism) มันมาแบบปีศาจที่น่ารัก ซึ่งเด็กและเยาวชนพร้อมวิ่งตาม
- การประจักษ์ของแม่พระฟาติมาสอนเราว่า พระศาสนจักรคือกองทัพ(ของพระเจ้า) ที่ต้องสู้กับปีศาจ การสู้รบจะจบลงเมื่อถึงวันสุดท้ายของโลก
- การเจริญชีวิตคือการก้าวเดินไปกับโลก ... ใครหยุดนิ่งก็คงแย่ แล้วเราล่ะดำเนินชีวิตแบบไหน
- คนจำนวนมากไม่รู้ว่าชีวิตตนเองเดินไปทางไหน ... บางคนตื่นขึ้นมาทุกวันก็เย็นชา ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ... คาทอลิกต้องเดินไปพร้อมกับแม่พระ เราต้องเชื่อในแม่พระ เราต้องกล้าตอบรับ (YES) กับพระเจ้า เราต้องตอบซ้ำๆเหมือนนกแก้ว
- หากเราเปิดใจให้กับพระจิต เราจะเดินสำรวจโลกในจิตใจเราได้ เราจะได้ยินเสียงเบาๆ แต่ทรงพลังจากพระเจ้า
- คนเราสามารถปิดปากมโนธรรมตัวเองให้เป็นใบ้ได้ นี่คือการทรยศตัวเอง ทรยศความเชื่ิอเมื่อรับศีลล้างบาป ทรยศความซื่อสัตย์ต่อชีวิตสมรส ทรยศความซื่อสัตย์ในคำปฏิญาณ
- ความรักจากเพื่อนมนุษย์เริ่มจากครอบครัว แล้วค่อยขยายไปยังเพื่อนพี่น้องตามกำลังความสามารถ
- การเดินไปกับแม่พระ เพื่อไปหาผู้อื่น เป็นศิลปะในการดำเนินชีวิตใน "ป่าคอนกรีต" อย่างกรุงเทพฯ นี่เป็นศิลปะในการเรียนรู้รักแท้ว่า อันไหนของจริง หรืออันไหนเป็นความรักที่หวังผลประโยชน์แอบแฝง
- เราต้องระวัง "การผูกขาดความรักเพื่อตัวเราเอง" ต้องระวังความรักที่หวังผลประโยชน์ ความรักแบบคาทอลิกต้องรู้จักแบ่งปันและต้องเสียสละตนเอง
หลังจากมิสซาจบลง พระอัครสังฆราชเกรียงศักดิ์ ได้กล่าวตอบสัตบุรุษหลังการคำนับพระอัครสังฆราช โดยท่านได้ยกย่องวัดแม่พระฟาติมาด้วยว่า "วัดแม่พระฟาติมาคือสถานที่แห่งการฟื้นฟูความเชื่อและการกลับใจอย่างแท้จริง"
Comments
Post a Comment