ฟาติมาสาร - เกินคาดกับอิตาเลีย 2012 (ตอนจบ) 23 ธ.ค. 2012

สัปดาห์ที่แล้ว ผมได้นำเสนอเรื่องราวการตะลุยอิตาลีแสวงบุญแบบเจาะลึกไปยังเมืองกาสช่า เมืองของนักบุญริต้า สัปดาห์นี้ เราจะมาต่อกันด้วยโปรแกรมที่เหลือซึ่งอัดแน่นแบบสุดๆกันต่อเลย



4 ธ.ค. - ผมบุกไปยังเมืองปาโดว่า หรือ “ปาดัว” ในภาษาอังกฤษ แน่นอนว่า หลายคนได้ยินชื่อนี้คงจะนึกถึง “นักบุญอันตน” อย่างแน่นอน ปาโดว่าอยู่ติดกับ “เวเนเซีย” (เวนิส) เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของอิตาลีและติด “เวโรน่า” เมืองของโรเมโอและจูเลียต การเดินทางจากโรมไปปาโดว่า ผมนั่งเครื่องบินแบบเช้าเย็นกลับ (ออก 8.30 กลับถึงโรม 20.30) นั่งจากโรมไปลงเวเนเซีย จากนั้นต่อรถโค้ชนั่งสุดสายไปยังปาโดว่า เมื่อถึงสถานีรถโค้ช ให้ซื้อตั๋วรถแทรม (รถราง) แล้วนั่งประมาณ 7 นาที ก็จะถึงมหาวิหารนักบุญอันตนแห่งปาดัว (BASILICA DI SANT' ANTONIO DI PADOVA) เมื่อรถจอดป้าย เดินอีก 2 นาทีก็จะถึงตัวมหาวิหาร ภายในนี้คือที่ฝังศพนักบุญอันตน ซึ่งปัจจุบันตั้งเป็นแท่นถวายมิสซา สัตบุรุษจะมาภาวนาและเอามือแตะหลุมศพของท่าน นอกจากนี้ ยังมีการนำเสื้อผ้าและศาสนภัณฑ์ทุกอย่างที่นักบุญอันตนเคยใช้มาจัดแสดง เช่นเดียวกับมีการนำ “ฟัน” ของนักบุญอันตนมาให้ดูด้วย ... ถัดจากมหาวิหารนักบุญอันตน นั่งรถแทรมต่อไปอีก 1 ป้าย ก็จะเป็นมหาวิหารจุสติน่า ซึ่งสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ที่นี่เป็นที่ฝังศพของนักบุญจุสติน่า นั่นเอง (เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรค่าแก่การไปเยือน)

5 ธ.ค. – วันเฉลิมพระชนมพรรษาของในหลวง เป็นหนึ่งในวันดีที่น่าจดจำของตัวผม เพราะเป็นวันที่ได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปาในการเข้าเฝ้าทั่วไปในหอประชุมเปาโล ที่ 6 วาติกัน ความโชคดีของวันนี้คือได้นั่งแถวหน้าๆทำให้เห็นพระสันตะปาปาใกล้มาก นี่เป็นครั้งที่ 6 แล้วที่ได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปาองค์นี้ ส่วนองค์ที่แล้ว บุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2 ผมก็พอจะมีโชคกับเขาบ้างคือได้เข้าเฝ้า 2 ครั้ง ช่วงบ่ายของวันนี้ ผมใช้เวลาทั้งหมดในเขตวาติกัน ไล่ตั้งแต่ไปสวดหน้าหลุมศพ บุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2 ซึ่งถูกย้ายจากชั้นล่างมหาวิหารขึ้นมาชั้นบน เนื่องจากพระองค์ได้รับแต่งตั้งเป็นบุญราศี รวมถึงไปภาวนาหน้าหลุมศพพระสันตะปาปาหลายองค์ที่ถูกฝังในนั้น เสร็จจากนี้ ก็ไปทัวร์วาติกันมิวเซี่ยม เยี่ยมวัดน้อยซิสติน สถานที่สำหรับการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่

6 ธ.ค. – วันนี้ เป็นการตะลุยอัสซีซี บ้านของนักบุญฟรานซิส อัสซีซี และนักบุญคลารา หากใครไปโรมแล้วอยากไปอัสซีซี การเดินทางง่ายมาก ตั๋วรถไฟไปกลับโรม-อัสซีซี แค่ 9.9 ยูโรเท่านั้น (396 บาท) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง พอลงจากสถานีรถไฟก็เดินไปซื้อตั๋วรถเมล์ตรงนั้น นั่งสุดสายไปจอดที่ลานด้านหน้ามหาวิหารนักบุญฟรานซิส อัสซีซี เลยทีเดียว        

หากใครไปแสวงบุญอัสซีซี ผมแนะนำให้ไป 1) มหาวิหารนักบุญฟรานซิส อัสซีซี ซึ่งชั้นใต้ดินเป็นที่ฝังศพของนักบุญฟรานซิส 2) บ้านที่นักบุญฟรานซิสเกิด ปัจจุบันเป็นวัดน้อย (ORATORIO SAN FRANCESCO PICCOLINO), 3) บ้านที่ครอบครัวนักบุญฟรานซิสเคยอาศัย ปัจจุบันเป็นวัด (CHIESA NUOVA), 4) ซาน ดาเมียโน่ หนึ่งในอารามฟรานซิสกันแห่งแรกของโลก อันนี้เป็นวัดหลังเล็กๆ อยู่นอกเมือง แต่เดินไปได้ อยู่ไม่ไกลจากมหาวิหารนักบุญคลารา 5) มหาวิหารนักบุญคลารา ซึ่งเป็นที่ฝังศพนักบุญคลาราฝังอยู่ ... สถานที่ทั้ง 5 นี้ สามารถเดินถึงกันได้หมด

7 ธ.ค. – วันสุดท้ายของการแสวงบุญ วันนี้เป็นการเจาะลึกแบบสุดๆ ผมขอไล่เรียงลำดับเป็นโซนๆไป เผื่อใครที่มาโรมแบบลุยเองไม่พึ่งทัวร์ จะได้ไล่สถานที่ตามได้แบบไม่เหนื่อย

เริ่มแรก ผมไล่เก็บจากที่ไกลๆก่อนนั่นคือ “มหาวิหารนักบุญเปาโล นอกกำแพงกรุงโรม” ที่นี่คือที่ฝังศพของนักบุญเปาโล หากจำกันได้ ประมาณปี 2008 ผมเสนอข่าวว่ามีการขุดพบหลุมศพนักบุญเปาโลที่มหาวิหารนี้ วันนี้ ผมทำฝันเป็นจริงด้วยการได้มาเห็นกับตาตัวเอง และยังได้เห็น “โซ่” ที่ล่ามนักบุญเปาโลตอนที่ถูกขังคุกด้วย ... การเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยาก นั่งรถเมโทรมาลงสถานีซาน เปาโล (SAN PAOLO) แล้วเดินอีก 2 นาทีก็ถึงแล้ว

เสร็จจากนี้ก็นั่งเมโทรกลับเข้าเมือง โซนแรกที่ผมจัดกลุ่มให้คือ “โซนลาเตรัน” ผมเลือกไปมหาวิหาร จอห์น ลาเตรัน (BASILICA DI SAN GIOVANNI IN LATERANO … ผมเพิ่งทราบว่า ชื่อจอห์น หมายถึง “จอห์น บัปติสต์” ไม่ใช่ “จอห์น อัครสาวก”) มหาวิหารลาเตรันเป็นอาสนวิหารของสังฆมณฑลโรม เหมือนอาสนวิหารอัสสัมชัญที่เป็นของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพ นี่เป็น 1 ใน 4 มหาวิหารเอกของกรุงโรมร่วมกับมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน, นักบุญเปาโล นอกกำแพงกรุงโรม และมหาวิหารซานตา มารีอา มาจจอเร่

จบจากมหาวิหารลาเตรัน ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานที่สำคัญมากนั่น คือ “บันไดศักดิ์สิทธิ์” (SCALA SANCTA) นี่คือบันได 28 ขั้นของจริงที่พระเยซูเดินขึ้นไปหา ปอนซีโอ ปีลาโต เพื่อรับการพิพากษาต่อหน้าชาวยิว ก่อนที่ปีลาโตจะตัดสินใจล้างมือเพื่อไม่ขอเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ บางจุดของบันได จะมีการทำกรอบแก้วเป็นจุดๆ เพราะนี่คือ “โลหิตพระเยซู” ที่หยดตามบันได หลังจากพระองค์ถูกเฆี่ยนตีจากทหารโรมัน (เลือดยังติดบันไดจนถึงปัจจุบัน) ผู้แสวงบุญทุกคนจะคลานเข่าขึ้นบันได 28 ขั้นเพื่อภาวนา และเมื่อถึงขึ้นที่ 28 มองเข้าไปจะเป็นลูกกรงเหล็ก ทางซ้ายของห้องจะมีเศษหินอยู่ในกรอบแก้ว เศษหินนี้คือ “เศษหินที่เป็นเก้าอี้ที่พระเยซูทรงนั่งในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย” นั่นเอง

จากโซนลาเตรัน ผมเดินต่อไปยัง “โซนมหาวิหาร ซานตา มารีอา มาจจอเร่” ก่อนจะไปถึงอีกหนึ่งมหาวิหารเอกของกรุงโรมประมาณ 500 เมตร จะมีวัดคาทอลิกสำคัญๆอีก 2 แห่ง ได้แก่ “มหาวิหารนักบุญปราสเซเด้” (BASILICA DI SAN PRASSEDE) มหาวิหารนี้เป็นที่เก็บ “เสาหินที่พระเยซูถูกมัดและเฆี่ยนระหว่างถูกตัดสินประหารชีวิต” นักบุญเฮเลน่า แม่ของจักรพรรดิคอนสแตนตินสั่งให้ไปนำมาจากเยรูซาเล็มมาเก็บไว้ที่วัดแห่งนี้ หลังจากนั้น เดินอีกนิด ก็จะถึง “วัดนักบุญอัลฟอนโซ่” (CHIESA DI SANT’ ALFONSO DI LIGUORI) วัดนี้หาง่ายมากเพราะอยู่ติดถนนใหญ่และมีรูปแม่พระนิจจานุเคราะห์ตั้งอยู่บนประตูวัด วัดนี้เป็นวัดหลักของคณะพระมหาไถ่ในกรุงโรม นอกจากนี้ “รูปแม่พระนิจจานุเคราะห์ รูปต้นฉบับ” ก็อยู่ที่นี่ด้วย (ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14) โดยอยู่หลังพระแท่นถวายมิสซานั่นเอง เสร็จจากวัดทั้งสองแห่ง ผมเดินไปยังมหาวิหาร ซานตา มารีอา มาจจอเร่ มหาวิหารเอกสุดท้ายของโรม ความสำคัญของมหาวิหารนี้อยู่ตรงใต้พระแท่นถวายมิสซา เพราะเป็นที่เก็บ “แผ่นไม้ที่พระเยซูทรงนอนตอนประสูติ” แม่พระวางพระเยซูนอนลงบนไม้นี้ ซึ่งปัจจุบันได้รับการเก็บรักษาอย่างดี นอกจากนี้ ยังเป็นที่เก็บรูป “แม่พระผู้ปกป้องชาวโรมัน” (SALUS POPOLI ROMANI) ซึ่งผู้วาดภาพนี้คือ “นักบุญลูกา” และภาพนี้ยังเป็นภาพองค์อุปถัมภ์ของงานเยาวชนโลกด้วย ... อีกหนึ่งความโชคดีคือตอนมาเยือนที่นี่ มีการถวายมิสซาลาตินพอดี (พระสงฆ์หันหลังให้สัตบุรุษ) ทำให้ผมได้เห็นมิสซาลาตินแบบเต็มตา

ส่วนโซนสุดท้ายที่อยากนำเสนอเป็น “โซนปิอัซซ่า นาโวน่า – แพนเทออน – บันไดสเปน – น้ำพุเทรวี่” ผมไปเริ่มที่วัดคาทอลิกหลังปิอัซซ่านาโวน่ากันก่อนเลย ข้างหลังน้ำพุชื่อดังของกรุงโรมนี้คือ “วัดนักบุญอักเนส” (SANT’ AGNESE IN AGONE) วัดนี้คือที่เก็บ “หัวกะโหลกของนักบุญอักเนส” ซึ่งทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อเดินเข้าไป (ส่วนร่างของนักบุญอักเนส ถูกฝังไว้ที่กาตาคอมบ์แถวสถานทูตไทยประจำอิตาลี) จากนั้น ผมเดินต่อไปยัง “ปันเตออน” หรือ แพนเทออน วิหารกรีกโบราณตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 ด้านหลังของตึกฝั่งตรงข้ามแพนเทออนคือวัดนักบุญมารีอา มักดาเลนา ที่นี่คือที่ฝังศพของ “นักบุญคามิลโล” ผู้ก่อตั้งคณะคามิลเลียน เสร็จจากที่นี่ เดินตรงต่อไปยังมหาวิหาร ซานตา มารีอา โซปรา มิแนร์ว่า (BASILICA DI SANTA MARIA SOPRA MINERVA) วัดนี้อยู่ตรงข้าม “สถาบันการทูตแห่งสันตะสำนัก” สถาบันที่ผลิตสมณทูตทุกองค์ มหาวิหารนี้ เป็นที่ฝังศพของ “นักบุญแคทเธอรีนแห่งเซียน่า” โดยศพของท่านอยู่ที่พระแท่นถวายมิสซา ส่วนศีรษะของท่านถูกเก็บไว้ที่มหาวิหารนักบุญโดเมนิโก เมืองเซียน่า

จบจากมหาวิหารแห่งนี้ ผมเดินต่อไปยังร้านกัมมาเรลลี่ (GAMMARELLI) ร้านตัดเสื้อระดับตำนานที่เปิดบริการมากว่า 200 ปี ร้านนี้เป็นร้านตัดเสื้อให้พระสันตะปาปามาแล้ว 6 องค์ ไล่ตั้งแต่ ปีโอ ที่ 9, บุญราศี จอห์น ที่ 23, เปาโล ที่ 6, จอห์น ปอล ที่ 1, บุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2 และ เบเนดิกต์ ที่ 16 ... ไม่ไกลจากร้านนี้เป็น “วัดพระเยซู” (CHIESA DEL GESU) วัดหลักของคณะเยสุอิตในกรุงโรม ความสำคัญของวัดแห่งนี้คือเป็นที่ฝังศพ “นักบุญอิกญาซีโอแห่งโลโยลา” ผู้ก่อตั้งคณะเยสุอิต และเป็นที่เก็บ “มือขวาที่ไม่เน่าเปื่อยของนักบุญฟรานซิส เซเวียร์” สาเหตุที่มือขวาของนักบุญฟรานซิสไม่เน่าเปื่อย เพราะว่ากันว่า ท่านใช้มือข้างนี้ล้างบาปให้คนจำนวนมาก เมื่อท่านเสียชีวิต มือขวาข้างนี้ไม่เน่าเปื่อยตามร่างกาย ถ้าหากใครไปเยือนที่นี่ จะเห็นประจักษ์กับตาทุกคน เพราะเขาใส่กรอบแก้วไว้ให้ดู อีกหนึ่งความประทับใจที่ผมชอบวัดนี้ก็คือ น่าจะเป็นวัดที่สวยงามสุดๆสูสีกับมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน เพราะทุกอย่างดูอลังการมากๆ

... ทั้งหมดก็เป็นประสบการณ์ตะลุยอิตาลี 2012 หวังว่า จะทำให้ทุกท่านเพลิดเพลินและเต็มอิ่มกับการเดินทางผ่านตัวอักษร และเป็นแรงบันดาลให้มุ่งมั่นจะไปแบบเจาะลึกบ้างนะครับ 


AVE  MARIA



หลุมศพนักบุญคลารา

หลุมศพนักบุญฟรานซิส อัสซีซี

หลุมศพบุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2

กัมมาเรลลี่ ร้านตัดเสื้อระดับตำนาน

รูปแม่พระนิจจานุเคราะห์ของจริง

หลุมศพนักบุญเปาโล และโซ่ที่ล่ามท่านไว่

หลุมศพนักบุญแคทเธอรีนแห่งเซียน่า

หลุมศพนักบุญอิ๊กญาซีโอแห่งโลโยลา ผู้ตั้งคณะเยสุอิต

หลุมศพนักบุญคามิลโล ผู้ตั้งคณะคามิลเลี่ยน

มือขวาที่ไม่เน่าของนักบุญฟรานซิส เซเวียร์

หัวกะโหลกของนักบุญอักเนส (กลางรูปใต้รูปปั้น)

รูปแม่พระผู้พิทักษ์ชาวโรมัน และมิสซาลาติน

ไม้ที่พระเยซูทรงนอนตอนประสูติ

บันไดศักดิ์สิทธิ์

หยดเลือดพระเยซูตามขั้นบันไดศักดิ์สิทธิ์

เสาที่พระเยซูถูกมัดและเฆี่ยนตอนประหารชีวิต




Comments