ฟาติมาสาร - กฎการแต่งกายที่ถูกนำใช้อีกครั้ง (25 พ.ย. 2012)

สุดสัปดาห์นี้ (เสาร์ที่ 24 และอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2012) พระศาสนจักรคาทอลิกจะมีเหตุการณ์อันน่าชื่นชมยินดีเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 จะสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ 6 องค์ โดย 3 จาก 6 มาจากทวีปเอเชีย 

หนึ่งในพระคาร์ดินัลใหม่ที่มาจากเอเชียก็คือ “พระคาร์ดินัล หลุยส์ อันโตนิโอ ตาเกล” ประมุขอัครสังฆมณฑลมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลด้วยวัย 55 ปี (สมัยนี้อาจดูแปลก เนื่องจากคาร์ดินัลใหม่จะอายุเกิน 60 แทบทั้งนั้น แต่ถ้านึกถึงพระคาร์ดินัล มีชัย กิจบุญชู ก็อาจจะไม่แปลก เพราะได้รับแต่งตั้งตอนอายุ 54 ปี) สื่อมวลชนคาทอลิกต่างประเทศให้ความนับถือพระคาร์ดินัลตาเกลแบบสุดๆ นักวิเคราะห์หลายคนมั่นใจว่า จะขึ้นมามีบทบาทในพระศาสนจักรระดับโลกอย่างแน่นอน (พระคาร์ดินัลตาเกล เป็นเด็กปั้นระดับหัวกะทิของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 และเคยทำงานร่วมกับพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันเกี่ยวกับการศึกษาประวัติศาสตร์สังคายนาวาติกัน ที่ 2 ด้วย)

... ที่กล่าวมาก็เป็นเรื่องสั้นๆที่เคยพูดไปนานแล้วเกี่ยวกับการแต่งตั้งพระคาร์ดินัลใหม่ สัปดาห์นี้ ผมพยายามหาข่าวเด่นๆในพระศาสนจักรคาทอลิกระดับโลกมานำเสนอ แต่ว่า นี่เป็นสัปดาห์ที่เงียบเหงา ไม่มีประเด็นน่าสนใจที่จะนำมาต่อยอดความสนใจได้ (แต่อีกมุมหนึ่ง น่าจะเป็นเรื่องดี เพราะการไม่มีข่าว แสดงความสถานการณ์สงบสุข)





อย่างไรก็ตาม ผมก็ไปเจอข่าวเล็กๆข่าวหนึ่งภายในรั้วสันตะสำนัก นั่นคือ วาติกันออกประกาศเป็นคำสั่งชัดเจนว่า ตั้งแต่นี้ไป พระคาร์ดินัล พระสังฆราช พระสงฆ์ และนักบวชทุกคนที่ทำงานในสันตะสำนัก ไม่ว่าจะเป็นสมณกระทรวง สมณสภา และหน่วยงานต่างๆในสันตะสำนัก ต้องแต่งกายในชุดเต็มยศ (เสื้อหล่อ) ถ้าไม่แต่งแบบนั้น ก็ต้องแต่งชุดที่มี “คอลลาร์” (เรียกง่ายๆ “ปลอกคอ” สีขาวติดอยู่ที่เสื้อตรงคอ)

รายละเอียดของข่าวนี้บอกว่า ช่วงหลังๆการแต่งกายเวลามาทำงานของนักบวชในสันตะสำนักเริ่มไม่เคร่งครัด หรืออาจกล่าวได้ว่า ไม่เข้มงวดกับการแต่งกายด้วยเสื้อหล่อหรือเสื้อที่มีคอลลาร์มากนัก พระสันตะปาปาจึงอนุมัติให้มีการออกคำสั่งนี้ทันที เพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ให้ดูดีกว่าที่เป็นอยู่

ในประกาศดังกล่าว มีการระบุถึงเหตุการณ์ในวันที่ 8 กันยายน ค.ศ.1982 สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ได้ออกประกาศเกี่ยวกับการแต่งกายของพระคาร์ดินัล พระสังฆราช และพระสงฆ์ โดยทรงย้ำว่า “ใครก็ตามที่ร่วมแบ่งปันความรับผิดชอบในการบริหารพระศาสนจักรกับพระสันตะปาปา เขาคนนั้นก็ควรจะดำเนินชีวิตด้วยความศักดิ์สิทธิ์ นอบน้อม และปฏิบัติตนตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยการแต่งกายให้ถูกต้องตามกฎหมายพระศาสนจักรด้วย” 

อย่างไรก็ตาม การประกาศนี้ จะมีผลบังคับใช้เฉพาะเวลาที่พระคาร์ดินัล พระสังฆราช และพระสงฆ์ มาปฏิบัติหน้าที่ในสันตะสำนักเท่านั้น ถ้าเป็นนอกเวลางาน หรือเวลาที่ไม่ใช่พิธี ก็ไม่ได้บังคับแต่อย่างใด กระนั้น พระสันตะปาปาทรงต้องการให้พระคาร์ดินัล พระสังฆราช และพระสงฆ์ทุกองค์ พยายามแต่งกายด้วยเครื่องแบบเหล่านี้ เพื่อแสดงตนว่าเป็น “สงฆ์คาทอลิก” อย่างชัดเจน พระองค์ย้ำว่า เราต้องกล้าแสดงตัวว่าเราเป็นผู้อภิบาลและพร้อมรับใช้ทุกคน ถ้าแต่งกายด้วยการมีคอลลาร์ที่คอ ก็เป็นการเตือนมโนธรรมตัวเองว่า เราเป็นใคร และต้องไม่ทำตนให้เสื่อมเสียกับการเป็นสงฆ์ของพระคริสต์ 

ทว่า อย่างที่บอกไป การประกาศครั้งนี้มีผลบังคับเฉพาะคนในรั้วสันตะสำนักเท่านั้น ถ้าเป็นสังฆมณฑลต่างๆทั่วโลก พระสันตะปาปาไม่ได้บังคับ เพราะในบางประเทศที่มีลัทธิเกลียดชังพระสงฆ์คาทอลิกแบบสุดๆ ถึงขั้นเอาชีวิต อาทิ เม็กซิโก หรือแม้แต่อิตาลีเองก็ตาม (ในบางเมือง)  ถ้าพระสงฆ์คาทอลิกแต่งเครื่องแบบแสดงตัวเมื่อไหร่ ก็เตรียมถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายได้เลย เพราะคนพวกนี้มีแนวคิดฝังหัวว่า สงฆ์คาทอลิกมีกินอย่างสุขสบาย ไม่ต้องอดอยาก หาเช้ากินค่ำแบบพวกเขา

เรื่องแต่งชุดพระสงฆ์คาทอลิกแล้วจะถูกทำร้าย อันนี้ ผมเคยเห็นกับตาที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี คุณพ่อคณะฟรังซิสกัน (ชาวยุโรป) ใส่ชุดนักบวชเต็มยศ เดินอยู่ที่สถานีรถไฟ มีแก๊งค์วัยรุ่นเดินเข้ามาก่อกวนและหาเรื่อง แต่คุณพ่อท่านนี้ก็นิ่งสู้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาไล่พวกเด็กพวกนี้ออกไป

... ทั้งหมดก็เป็นข่าวเล็กๆ แต่ดูแล้วก็น่าสนใจเหมือนกัน เพราะมันแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 เริ่มการเปลี่ยนแปลงทีละอย่างทีละเล็กทีละน้อย จริงๆการประกาศนี้ มีตั้งแต่สมัยสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 แล้ว เพียงแค่พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน นำมาปัดฝุ่นเริ่มประกาศใช้อีกครั้งนั่นเอง


AVE   MARIA

Comments