ฟาติมาสาร - RIP พระคาร์ดินัล คาร์โล มาร์ตินี่ (9 กันยายน 2012)


วันเสาร์ที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา คาทอลิกไทยคงได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของ “พระสังฆราช บรรจง อารีพรรค” อดีตประมุขนครสวรรค์ ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 7 กันยายน ก็ได้มีพิธีปลงศพท่านไปแล้ว ย้อนกลับไปหน้านั้น 1 วันคือวันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม คาทอลิกในอิตาลี เฉพาะอย่างยิ่งอัครสังฆมณฑลมิลานก็ต้องพบกับความสูญเสียเช่นกัน เมื่อ “พระคาร์ดินัล คาร์โล มารีอา มาร์ตินี่” อดีตประมุขอัครสังฆมณฑลมิลาน ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 85 ปี โดยพระคาร์ดินัลมาร์ตินี่ ป่วยด้วยโรคพาร์กินสันมานานกว่า 16 ปีจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต



หลายท่านคงไม่รู้จัก พระคาร์ดินัล คาร์โล มาร์ตินี่ และคงสงสัยว่าทำไมผมถึงต้องพูดถึงท่านผู้นี้ในวันนี้ รายละเอียดที่จะกล่าวถึงอยู่ในบรรทัดตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ...

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน 2005 หลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 มีพระคาร์ดินัล 2 องค์ที่ได้รับการคาดหมายว่าน่าจะได้รับเลือกให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาองค์ต่อไป ได้แก่ “พระคาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์” (สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16) และ “พระคาร์ดินัล คาร์โล มารีอา มาร์ตินี่” หากยังจำกันได้อีกเช่นกัน ประมาณเดือนกันยายน 2005 ผมเคยเขียนลงฟาติมาสารว่า มีพระคาร์ดินัลองค์หนึ่งทำสมุดบันทึกส่วนตัวหาย โชคร้ายที่สมุดเล่มนี้ตกไปอยู่ในมือนักข่าว จนมีการตีพิมพ์เนื้อหาข้างในให้สาธารณชนทราบ เนื้อหาข้างในเป็นบันทึกการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ซึ่งลงลึกถึงขั้นมีรายละเอียดว่า การลงคะแนนเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ในแต่ละรอบนั้น พระคาร์ดินัลแต่ละองค์ได้คะแนนเท่าไหร่บ้าง

สำหรับรายละเอียดในสมุดบันทึกมีว่า “ในการลงคะแนนเลือกตั้งพระสันตะปาปารอบแรก (18 เมษายน 2005) พระคาร์ดินัล คาร์โล มาร์ตินี่ นำมาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยคะแนน 40 คะแนน ส่วนอันดับสอง ได้แก่ พระคาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์ ได้ 38 คะแนน” (การเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ในปี 2005 ใช้การลงคะแนนทั้งหมด 4 รอบ มีรอบแรกเท่านั้นที่ พระคาร์ดินัล คาร์โล มาร์ตินี่ ได้มาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนการลงคะแนนครั้งที่สองถึงสี่ พระคาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์ นำมาเป็นที่หนึ่งตลอด)

แม้ในบันทึกนี้ จะกล่าวถึงชื่อพระคาร์ดินัลมาร์ตินี่เพียงแค่ครั้งเดียว แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่า พระคาร์ดินัลองค์นี้ทรงอิทธิพลทางความคิดต่อพระศาสนจักรคาทอลิกเพียงใด คนที่ติดตามข่าวสารพระศาสนจักรคาทอลิกระดับโลกอย่างใกล้ชิดมาเกินกว่า 10 ปีน่าจะทราบกันดีว่า พระคาร์ดินัลมาร์ตินี่ ได้รับการสถาปนาเป็นพระคาร์ดินัลรุ่นเดียวกับ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1983 นอกจากนี้ พระคาร์ดินัลมาร์ตินี่เป็นนักวิชาการพระคัมภีร์ผู้ยิ่งใหญ่และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักพระคัมภีร์ที่เก่งสุดแห่งยุค ขณะเดียวกัน ท่านได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับพระคัมภีร์กว่า 40 เล่ม นอกจากนี้ ยังพูดภาษาต่างๆได้ถึง 11 ภาษา

พระคาร์ดินัลมาร์ตินี่ขึ้นชื่อว่าเป็นพระคาร์ดินัลหัวเสรีนิยมในพระศาสนจักร หลายความคิดของท่านก่อนให้เกิดกระแสวิพากษ์อย่างแรง อาทิ การสนับสนุนให้สตรีบวชเป็นสังฆานุกร, การเสนอให้ผู้ป่วยมีสิทธิปฏิเสธรับการรักษาจากแพทย์ เพื่อจะได้เตรียมตัวสิ้นใจอย่างสงบ (แนวคิดนี้ขัดกับคำสอนของพระศาสนจักรที่เราควรรับการรักษาจากแพทย์จนวาระสุดท้ายของชีวิต ตัวอย่างชัดๆคือ บุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2 ที่ยินดีรับการรักษาจนวินาทีสุดท้ายของลมหายใจ), การยอมรับว่า ตัวเองรักและชอบภาษาลาติน ยอมรับว่าตัวเองดีใจที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์สั่งให้ฟื้นฟูการใช้ภาษาลาตินในพระศาสนจักร แต่ถ้าจะให้ตนถวายมิสซาลาติน ตนจะไม่ทำเด็ดขาดเพราะมันหมดยุคสมัยไปแล้ว หรือจะเป็นการออกมาวิจารณ์บรรดาพระคาร์ดินัลและพระสังฆราชทั้งหลายว่าไม่ยอมฟังเสียงสัตบุรุษ ซึ่งขัดกับคำสั่งสอนเวลาที่พูดกับสัตบุรุษว่า “เราเป็นผู้รับใช้ทุกคน”

แม้แนวคิดเหล่านี้ของพระคาร์ดินัลมาร์ตินี่จะก่อให้เกิดการวิพากษ์อย่างแรง แต่สังคมอิตาเลี่ยนรักและเคารพท่านมากๆ เพราะพระคาร์ดินัลมาร์ตินี่จะเสนอแนวทางให้ถกเถียง แต่ทุกอย่างตั้งอยู่บนหลักเหตุผลและเคารพรักพระศาสนจักรอย่างสุดซึ้ง ไม่ใช่เสนอแนวคิดแบบเสรีนิยมซึ่งยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง คงไม่เกินไปนัก หากจะกล่าวว่า ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาในวงการพระศาสนจักรคาทอลิกระดับโลก พระคาร์ดินัล คาร์โล มาร์ตินี่ จัดเป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแนวคิดสมัยใหม่ให้ก้าวไปอยู่ในกระบวนการพิจารณาของพระศาสนจักร หลายครั้ง แนวคิดของพระคาร์ดินัลมาร์ตินี่ ขัดกับแนวคิดของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 และ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 แบบสุดขั้ว แต่ทั้งสามก็ถกกันด้วยเหตุผลและความปรารถนาดีต่อพระศาสนจักรอย่างแท้จริง

R.I.P พระคาร์ดินัล คาร์โล มารีอา มาร์ตินี่ หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดของพระศาสนจักรคาทอลิกยุคใหม่


AVE   MARIA

Comments