โป๊ปชี้ "พระเจ้าเรียกเราให้ติดตามพระองค์ แต่เราไม่ยอมฟังเอง"

สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงชี้ พระเจ้าทรงเรียกเราให้ติดตามพระองค์เป็นประจำ แต่เป็นเราเองที่ไม่ฟังเสียงเรียกของพระองค์ ทรงย้ำ พระศาสนจักรเป็นเหมือนสวนที่เมล็ดพันธุ์ของกระแสเรียกซึ่งพระเจ้าหว่านไว้ พร้อมจะผลิดอกออกผลตลอดเวลา พร้อมกันนี้ ทรงเตือนใจพระสงฆ์ ยิ่งแบกกางเขนหนักเท่าไหร่ สัตบุรุษก็จะสัมผัสการประทับอยู่ของพระเจ้าได้มากเท่านั้น 

เมื่อช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเป็นประธานในการนำสัตบุรุษกว่า 40,000 คน สวดราชินีแห่งสวรรค์ ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยวันนี้ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงแบ่งปันข้อคิดโอกาสวันภาวนาเพื่อกระแสเรียก ด้วยการย้ำว่า พระเจ้าทรงเรียกเราให้ติดตามพระองค์ แต่เป็นเราที่ไม่สนใจตอบสนอง เนื่องจากถูกสิ่งรอบข้างล่อลวงตลอดเวลา นอกจากนี้ ช่วงเช้า พระสันตะปาปาทรงเป็นประธานในมิสซาบวชพระสงฆ์ใหม่ 9 องค์ โดย 3 จาก 9 องค์ มีประวัติน่าสนใจมาก คนหนึ่งเป็นชาวเวียดนามที่มีอาชีพทนายความ อีกคนหนึ่งเป็นกัปตันขับเครื่องบิน ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์เคมี

พระสันตะปาปา ตรัสก่อนการนำสวดราชินีแห่งสวรรค์ ใจความว่า "พระเจ้าทรงเรียกเราเสมอๆ แต่บ่อยครั้งเราไม่ฟังเอง เราถูกล่อลวงด้วยสิ่งต่างๆนาๆ เราถูกล่อลวงด้วยเสียงเรียกจอมปลอม สิ่งนี้ทำให้เรากลัวที่จะฟังเสียงของพระเจ้า เพราะเราคิดว่าเสียงของพระองค์จะนำเราออกห่างจากเสรีภาพ"

"พ่อขอเชิญชวนทุกคนร่วมจิตร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันพระสงฆ์ใหม่และภาวนาให้พวกเขาได้รับพระหรรษทานอย่างเต็มเปี่ยมจากศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้เขาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นสงฆ์และเป็นนายชุมพาบาลศักดิ์สิทธิ์ ขอให้เราช่วยกันภาวนาให้บรรดาเยาวชนทั้งหลายใส่ใจต่อเสียงเรียกของพระเจ้า ผู้ทรงพูดกับหัวใจของเขาและเรียกเขาให้ละทิ้งทุกอย่าง เพื่อมาติดตามรับใช้พระองค์ พ่อขอให้เราช่วยกันภาวนาเพื่อพระศาสนจักรและกลุ่มคริสตชนต่างๆ จะได้เป็นเหมือนกับสวนที่ชุ่มน้ำ สวนที่เมล็ดพันธุ์แห่งกระแสเรียกซึ่งพระเจ้าทรงหว่านไว้มากมาย จะสามารถเจริญเติบโตและเบ่งบานเต็มที่"

ทั้งนี้ ช่วงเช้าของวันนี้ พระสันตะปาปาทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาบวชพระสงฆ์ใหม่ 9 องค์ ในมิสซาดังกล่าว พระสันตะปาปาทรงย้ำกับบรรดาพระสงฆ์ใหม่ว่า จงดำเนินชีวิตร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูและอุทิศชีวิตทั้งหมดให้กับการทำงานอภิบาล

"พระสงฆ์เปรียบเหมือนนายชุมพาบาลที่ถูกเรียกมาเพื่อนำทางสัตบุรุษ คุณค่าของชีวิตสงฆ์ไม่ได้มีแค่การทำงานรับใช้สังคมเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงการดำเนินชีวิตและการใช้ชีวิตอยู่ในการประทับอยู่ของพระเจ้า การประทับอยู่ของพระเจ้าจะเป็นจริงและเข้มข้นยิ่งขึ้น เมื่อกางเขนที่พระสงฆ์แบกในการดำเนินชีวิตนั้น มีความหนักมากขึ้นเรื่อยๆ" พระสันตะปาปาชาวเยอรมัน ตรัสย้ำอย่างหนักแน่น

ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาถวายมิสซาบวชพระสงฆ์ใหม่