โป๊ปย้ำมาเม็กซิโกในฐานะผู้แสวงบุญทางความเชื่อ ความหวัง และความรัก

สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงกล่าวสุนทรพจน์แรกในเม็กซิโก ด้วยการย้ำ การเยือนลาตินอเมริกาครั้งนี้เป็นการจาริกแห่งความเชื่อ ความหวัง และความรัก พร้อมกันนี้ ทรงยืนยัน ความเชื่อในพระเจ้าช่วยให้สังคมสงบสุข ที่สำคัญ ความเชื่อต้องตั้งมั่นอยู่บนความเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ในตัวมนุษย์




เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ได้ประทับเครื่องบินพระที่นั่งมาถึงสนามบินกัวนาฮัวโต้ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศเม็กซิโก ทันทีที่เสด็จออกจากเครื่องบิน พระองค์ทรงได้รับการต้อนรับจาก เฟลิเป้ กัลเดร่อน ประธานาธิบดีเม็กซิโก, พระอัครสังฆราช โฮเซ่ มาร์ติน ราบาโก้ พระอัครสังฆราชแห่งเลออน และ พระอัครสังฆราช คาร์ลอส อากีล่าร์ เรเตส ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งเม็กซิโกและประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งลาตินอเมริกา

ในส่วนสุนทรพจน์ที่พระสันตะปาปาตรัสในพิธีต้อนรับ พระองค์ทรงเริ่มต้นด้วยการแสดงความชื่นชมชาวเม็กซิกันที่ให้การต้อนรับพระสันตะปาปาด้วยความรักและอบอุ่นเสมอมา "พ่อมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ พ่อขอขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับการอนุญาตให้พ่อตระหนักถึงความปรารถนาในจิตใจที่มีมานานในการมาเยือนประเทศนี้ มาเพื่อยืนยันความเชื่อของประชากรของพระเจ้าในดินแดนอันยิ่งใหญ่ ความรักที่ชาวเม็กซิกันมีให้กับผู้สานงานต่อจากนักบุญเปโตร (พระสันตะปาปา) ได้รับการคิดถึงในคำภาวนาของบรรดาพระสันตะปาปาอยู่เสมอ ความรักที่ชาวเม็กซิโกมีต่อพระสันตะปาปานั้น เป็นที่รู้กันดีว่ามันยิ่งใหญ่เพียงใด"

จากนั้น พระสันตะปาปาผู้ทรงพระชนมายุ 84 ชันษา ได้ตรัสถึงการมาเยือนลาตินอเมริกาในฐานะผู้แสวงบุญ และร่วมปกป้องความศักดิ์สิทธิ์ในตัวมนุษย์ รวมไปถึงปกป้องเสรีภาพในการนับถือศาสนาให้ดำรงอยู่สืบไป "พ่อเดินทางมาในฐานะผู้จาริกแสวงบุญแห่งความเชื่อ ความหวัง และความรัก พ่อปรารถนาจะร่วมเป็นหนึ่งกับผู้มีความเชื่อในพระคริสตเจ้า โดยการช่วยให้พวกเขาเข้มแข็งและกล้าหาญที่จะฟื้นฟูความเชื่อขึ้นใหม่ ด้วยการรับฟังพระวาจาของพระเจ้า ร่วมมิสซา และดำเนินชีวิตด้วยความเป็นพี่น้องกัน บนหนทางนี้ พวกเขาจะสามารถแบ่งปันความเชื่อให้กับผู้อื่น เหมือนกับตอนที่บรรดามิชชันนารี่แบ่งปันความเชื่อให้กับพี่น้องชายหญิง, แบ่งปันความร่วมมือร่วมใจที่เปี่ยมด้วยความเคารพและสันติ ซึ่งตั้งอยู่บนความศักดิ์สิทธิ์อันประเมินค่าไม่ได้ของมนุษย์ทุกคน ความศักดิ์สิทธิ์นี้ได้รับการสร้างขึ้นจากพระเจ้า ไม่มีผู้ใดมีสิทธิที่จะหลงลืมและไม่เคารพ(ต่อความศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์) ความศักดิ์สิทธิ์นี้ได้รับการเผยแสดงผ่านทางสิทธิพื้นฐานในการนับถือศาสนา"

สาเหตุที่พระสันตะปาปาต้องตรัสย้ำถึงสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา ก็เพราะ ย้อนกลับไปใน ค.ศ.1920 เม็กซิโกมีลัทธิต่อต้านพระสงฆ์คาทอลิกเกิดขึ้นและแผ่อิทธิพลอย่างรุนแรงทั่วประเทศ ผลของแนวคิดดังกล่าวทำให้รัฐบาลในตอนนั้น ประกาศห้ามไม่ให้พระศาสนจักรคาทอลิกรับใช้สังคมด้วยการเป็นเจ้าของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกแห่ง นอกจากนี้ ยังสั่งห้ามไม่ให้สงฆ์คาทอลิกแต่งกายในชุดสงฆ์ในที่สาธารณะด้วย

พระสันตะปาปายังได้ตรัสถึงวิกฤติเศรษฐกิจที่กระจายวงกว้างไปทั่วโลก และเม็กซิโกก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบด้วย พระสันตะปาปาชาวเยอรมันจึงตรัสย้ำถึงหน้าที่ที่พระศาสนจักรจะมีส่วนช่วยสังคมว่า "พระศาสนจักรคาทอลิกได้รับพลังขับเคลื่อนด้วยความรัก เรามอบความรักนี้ให้กับบรรดาผู้ต้องทนทุกข์จากความหิวโหย ไร้ที่อยู่อาศัย และผู้ที่ต้องการสิ่งจำเป็นในชีวิต พันธกิจแห่งความรักนี้ เราไม่ได้ทำเพื่อแข่งขันกับหน่วยงานสาธารณะหรือหน่วยงานของใคร"

ตอนท้าย พระสันตะปาปาทรงวิงวอนขอพระเจ้าและแม่พระแห่งกัวดาลูเป้ องค์อุปถัมภ์ของประเทศเม็กซิโก ได้โปรดคุ้มครองประเทศนี้ในการต่อสู้กับยาเสพติดด้วย "พ่อจะสวดภาวนาให้กับทุกคน เฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทนทุกข์เพราะความรุนแรงจากเหตุการณ์ดังกล่าว"

ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาเสด็จถึงเม็กซิโก






Comments