ฟาติมาสาร - พระสันตะปาปาเตรียมลาเกษียณ ?? (25 มีนาคม 2012)

สัปดาห์ที่แล้ว มีข่าวลือซึ่งผมหวังว่ามันจะไม่เป็นความจริงนั่นคือ “สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 กำลังคิดลาเกษียณอายุจากการเป็นพระสันตะปาปาในเดือนเมษายนนี้” หรือพูดง่ายๆ “ลาออกจากตำแหน่ง” ข่าวนี้มาจากการรายงานของนักข่าวอิตาเลี่ยนชื่อดัง 2 คน จาก 2 ค่าย ได้แก่ จูเลียโน่ แฟร์ราร่า จากหนังสือพิมพ์ อิล ฟอโญ่ และ อันโตนิโอ ซ็อคคี่ จากหนังสือพิมพ์ลิเบโร่




หลังจากเห็นข่าวนี้ สิ่งแรกที่ผมทำคือตรวจสอบประวัติของนักข่าว 2 คนนี้ว่ามีประวัติต่อต้านพระสันตะปาปาหรือไม่ คำตอบคือ “ไม่มี” ตรงกันข้าม พวกเขาเป็นนักข่าวที่ชื่นชมและเคารพพระสันตะปาปาแบบสุดใจขาดดิ้นด้วยซ้ำ โดยเฉพาะในรายของ จูเลียโน่ แฟร์ราร่า ซึ่งประกาศตนไม่มีศาสนา แต่ศรัทธาในพระสันตะปาปาอย่างมาก ส่วนรายของ อันโตนิโอ ช็อคคี่ คนนี้เป็นคาทอลิกที่ศรัทธาและเคร่งครัด เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัดประเด็นเขียนข่าวเพื่อสร้างความสับสนและให้ร้ายทิ้งไปได้เลย

ซานโดร มาจิสแตร์ นักข่าวอาวุโสสายวาติกันชื่อดังระดับโลก หนึ่งในบุคคลที่ผมเคารพในผลงาน บอกว่า ตนเองก็พยายามหาแหล่งข่าวและความเป็นไปได้ของสิ่งที่นักข่าว 2 คนนี้พร้อมใจรายงาน แต่ก็ไม่พบร่องรอยหรือเค้าโครงเลยว่ามันจะเป็นจริงได้อย่างไร กระนั้น มาจิสแตร์ เชื่อเหมือนผมว่า 2 คนนี้มีเจตนาดีแน่นอนต่อการรายงานข่าวนี้

สิ่งหนึ่งที่ทำให้นักข่าวหลายคนเชื่อว่า สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงมีความคิดจะเกษียณอายุตัวเองออกจากตำแหน่งพระสันตะปาปา ก็คือ พระองค์เคยให้สัมภาษณ์ในหนังสือ “แสงสว่างส่องโลก” (LIGHT OF THE WORLD) หนังสือเล่มนี้ “ดร.ปีเตอร์ ซีวัลด์” นักข่าวชาวเยอรมันทำการสัมภาษณ์พระสันตะปาปาเบเนดิกต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟทั้งเล่ม (ผมเคยเขียนลงฟาติมาสาร ฉบับวันที่ 28 พฤศจิกายน 2010 ในชื่อบทความ “โป๊ปเปิดใจ”)

ตอนนั้น ดร.ซีวัลด์ ถามพระสันตะปาปาว่า “พระองค์เคยมีความคิดจะเกษียณอายุหรือไม่” พระสันตะปาปาตรัสตอบประมาณว่า “ใช่ ถ้าพระสันตะปาปาตระหนักอย่างชัดเจนว่า พระองค์หมดสิ้นความสามารถทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณในการทำหน้าที่เหล่านี้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พระสันตะปาปามีสิทธิ์และมันเป็นหน้าที่ด้วยซ้ำที่จะต้องลาออก (เกษียณอายุ)”

เป็นที่รู้กันว่า สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ไม่เคยปิดบังความคิดว่า “พระสันตะปาปาทรงมีสิทธิ์ลาเกษียณอายุ” (ตามกฏหมายพระศาสนจักรคาทอลิก พระสันตะปาปามีสิทธิ์ทำเช่นนั้นจริงๆ) ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2002 ช่วงเวลาที่สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 เริ่มมีสุขภาพแย่ลงเรื่อยๆ พระคาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์ (พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน) ซึ่งตอนนั้นดำรงตำแหน่งประธานสมณกระทรวงหลักความเชื่อ ได้ถูกนักข่าวของหนังสือพิมพ์ “มึนชเนอร์ เคียร์เช่นไซตุ้ง” (Muenchner Kirchenzeitung) หนังสือพิมพ์คาทอลิกของอัครสังฆมณฑลมิวนิคและไฟร์ซิ่ง ประเทศเยอรมนี ถามถึงเรื่องดังกล่าว พระคาร์ดินัลรัตซิงเกอร์ ตอบกลับว่า “ถ้าพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงเห็นว่าพระองค์ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วจริงๆ แน่นอนว่า พระองค์อาจจะลาเกษียณก็ได้”

พูดถึงกฏหมายพระศาสนจักรที่ว่าด้วยการลาเกษียณของพระสันตะปาปา หลายคนคงอยากรู้ว่ามันมีระบุไว้จริงหรือ ถ้าว่างๆลองไปหาอ่านกันดูได้ เรื่องนี้อยู่ในกฏหมายพระศาสนจักร มาตรา 332 วรรค 2 “ถ้าเกิดกรณีว่าพระสันตะปาปาลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ เพื่อให้การลาออกมีผลบังคับ การลาออกต้องเป็นไปอย่างอิสระและต้องแสดงเจตจำนงอย่างชัดแจ้ง     แต่ไม่จำเป็นต้องมีผู้ใดยอมรับการสละตำแหน่งนี้” (If it happens that the Roman Pontiff resigns his office, it is required for validity that the resignation is made freely and properly manifested but not that it is accepted by anyone.)

ในอดีต เท่าที่ผมหาข้อมูล มีพระสันตะปาปา 5 องค์ที่เคยลาออกจากการเป็นพระสันตะปาปา ได้แก่

1) พระสันตะปาปา จอห์น ที่ 18 – ลาออกค.ศ.1009 สาเหตุการลาออกคือเบื่อการทะเลาะกันของบรรดาพระสังฆราชและนักบวช หลังจากลาออกแล้ว ได้ไปใช้ชีวิตในอารามและสิ้นใจในนั้น

2) พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 9 - ลาออกค.ศ.1045 สาเหตุการลาออกคือ “ขายตำแหน่งพระสันตะปาปา” ให้กับพระสันตะปาปาเกรโกรี่ ที่ 6 (พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 9 เป็นหนึ่งในพระสันตะปาปาที่อายุน้อยสุดในพระศาสนจักร ตอนขึ้นเป็นพระสันตะปาปา ตนเองมีอายุ 12 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นพระสันตะปาปาคนเดียวที่ดำรงตำแหน่ง 3 สมัย ... อีกหนึ่งสถิติของพระสันตะปาปาองค์นี้คือ เป็นพระสันตะปาปาคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ขายตำแหน่งของตัวเอง)

3) พระสันตะปาปา เกรโกรี่ ที่ 6 – ลาออกค.ศ.1046 หลังจากซื้อตำแหน่งพระสันตะปาปาต่อจาก เบเนดิกต์ ที่ 9 ได้ปีเดียว ก็ถูกทุกคนจับได้ว่าใช้เงินซื้อตำแหน่งและถูกสังคมบีบบังคับให้ลาออก ที่สุดแล้ว ยอมลาออกใน ค.ศ.1046 จากนั้น พระสันตะปาปาที่ขึ้นปกครองพระศาสนจักรแทนคือ เคลเมนต์ ที่ 2 และหลังจากนั้น ค่อยกลับไปเป็น เบเนดิกต์ ที่ 9

4) พระสันตะปาปา เซเลสติน ที่ 5 – ลาออกค.ศ.1294 นี่เป็นเคสลาออกของพระสันตะปาปาที่ดังสุดในพระศาสนจักรคาทอลิก เนื่องจากเป็นการลาออกด้วยความต้องการส่วนพระองค์ โดยปราศจากแรงกดดัน สาเหตุการลาออกเพราะพระสันตะปาปาเซเลสตินต้องการใช้ชีวิตแบบสันโดษ สวดภาวนาแบบนักบวชคณะเบเนดิกติน (เซเลสติน ที่ 5 เป็นพระสันตะปาปาที่เคร่งครัดมาก แบบอย่างการดำเนินชีวิตของท่านคือนักบุญจอห์น บัปติสตา) ... เซเลสติน ที่ 5 ได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ.1313 และเป็นพระสันตะปาปาองค์สุดท้ายที่ใช้พระนาม “เซเลสติน” จวบจนทุกวันนี้

5) พระสันตะปาปา เกรโกรี่ ที่ 12 – ลาออกค.ศ.1417 สาเหตุการลาออกคือเพื่อยุติปัญหาความแตกแยกครั้งร้ายแรงของพระศาสนจักรตะวันตก (ปัญหาคือมีพระสันตะปาปาถึง 3 องค์ในช่วงดังกล่าว พระสันตะปาปาตัวจริงคือ “เกรโกรี่ ที่ 12” ส่วนพวกพระสันตะปาปาทับซ้อนอีก 2 องค์ หรือเรียกว่า “ANTIPOPE” ได้แก่ “เบเนดิกต์ ที่ 13” และ “จอห์น ที่ 23” (คนละคนกับ บุญราศี จอห์น ที่ 23 พระสันตะปาปาในยุคสมัยของเรา ค.ศ.1958-1963)

กลับมาต่อที่เรื่องถ้าหากพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ลาเกษียณ หากเกิดขึ้นจริง คงจะเกิดข้อถกเถียงอย่างร้อนแรงลุกเป็นไฟแน่นอน เพราะจะมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์นี้ หนึ่งในบุคคลที่ไม่เห็นด้วยให้พระสันตะปาปาลาเกษียณก็คือ สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 พระองค์เคยตรัสอย่างดุดันว่า “พระศาสนจักรไม่มีที่ว่างให้กับพระสันตะปาปากิตติคุณ” (POPE EMERITUS – พระสันตะปาปาเกษียณอายุ) แม้ในความเป็นจริง พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 จะเคยเขียนจดหมายลาออกจากการเป็นพระสันตะปาปาทิ้งไว้แล้ว โดยระบุว่า พระองค์จะลาออก ถ้าหากสุขภาพย่ำแย่จนไม่รู้สึกตัวและร่างกายไม่สามารถทำอะไรได้

นอกจากนี้ พระสันตะปาปาอีก 2 องค์ที่เคยเขียนจดหมายลาออกทิ้งไว้ ก็คือ สมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 โดยทรงระบุในจดหมายว่า “ถ้าหากกองทัพนาซีจับข้าพเจ้าไปเมื่อไหร่ เมื่อนั้นให้ถือว่า ข้าพเจ้าได้ลาออกจากการเป็นพระสันตะปาปาแล้ว และขอให้คณะพระคาร์ดินัลรีบเดินทางไปยังประเทศโปรตุเกสซึ่งประกาศตัวเป็นกลางในสงครามโลกครั้งที่ 2 และดำเนินการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ทันที” ส่วนสมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 ก็เคยคิดจะลาออกจากการเป็นพระสันตะปาปาเช่นกัน เนื่องจากสุขภาพย่ำแย่ แต่พระองค์หวาดกลัวความวุ่นวายที่จะตามมาและกลัวว่า พระองค์จะเป็นคนสร้างบาดแผลร้ายแรงให้กับพระศาสนจักร จึงล้มเลิกความคิดดังกล่าวทันที

จบจากฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการลาเกษียณอายุของพระสันตะปาปา ก็ถึงคิวของฝ่ายเห็นด้วยกันบ้าง หนึ่งในนั้นก็คือสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 นั่นเอง เหตุผลก็เขียนไปข้างต้นแล้ว นั่นคือ พระองค์พิจารณาตามกฏหมายของพระศาสนจักรที่อนุญาตให้เกิดขึ้นได้

... กระนั้น ถึงพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันจะเห็นด้วยว่า พระสันตะปาปาสามารถปลดเกษียณได้ แต่ในมุมมองของผม ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เท่าไหร่ และไม่ต้องการให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นในพระศาสนจักรคาทอลิกยุคนี้ เพราะผมมองภาพไม่ออกจริงๆว่า ถ้ามีพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันและพระสันตะปาปาเกษียณอายุแล้ว พระศาสนจักรจะเป็นอย่างไร จะวุ่นวายขนาดไหน แค่คิดก็ยุ่งแล้ว!!


AVE   MARIA



Comments