โป๊ปชี้คนยุคนี้ไม่รู้ความหมายและคำตอบของชีวิตคืออะไีร

สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงชี้ คนสมัยนี้สับสนและหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่า ความหมายของชีวิตคืออะไรกันแน่ พร้อมกันนี้ ทรงชี้ สมณสภาเพื่อส่งเสริมการประกาศพระวรสารใหม่ ต้องทำหน้าที่นำคนยุโรปและอเมริกันที่ทิ้งพระเจ้าและไม่รู้จักพระเจ้า ให้มารู้จักพระองค์อีกครั้ง โดยพระสันตะปาปาตรัสเรื่องนี้ ระหว่างการกล่าวให้โอวาทการสัมมนาเปิดตัวสมณสภาเพื่อส่งเสริมการประกาศพระวรสารใหม่ เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา




การสัมมนาดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "ผู้แพร่ธรรมใหม่เพื่อการประกาศพระวรสารครั้งใหม่ - พระวาจาของพระเจ้าเจริญเติบโตและแผ่ขยายไปทั่ว" โดยผู้สนับสนุนหลักคือสมณสภาเพื่อส่งเสริมการประกาศพระวรสารใหม่ หน่วยงานล่าสุดของวาติกันซึ่งพระสันตะปาปาทรงสถาปนาเพื่อมุ่งหวังที่จะนำชาวยุโรปและอเมริกันที่ทิ้งพระ ให้กลับมาหาพระเจ้าอีกครั้ง

พระสันตะปาปา ทรงเริ่มต้นการกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน ด้วยการตรัสว่า "ทุกวันนี้ พระวาจาของพระเจ้ายังคงดำรงอยู่กับเรา พระศาสนจักรได้ทำการประกาศและเผยแพร่พระวาจาของพระเจ้าให้กับผู้มีความเชื่อ ผ่านทางศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เราพยายามจะดำรงรักษาวิถีชีวิตของการแบ่งปันพระวาจาให้เหมือนกับคริสตชนยุคแรกที่ให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต"

"อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ คนจำนวนมากยังสับสนและไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองว่า แท้จริงแล้ว ความหมายของชีวิตคืออะไร ประเด็นดังกล่าวได้ลงลึกลงไปเรื่อยๆในจิตใจของพวกเขา มุนษย์ไม่สามารถหลีกหนีข้อสงสัยนี้ได้ บ่อยครั้ง มนุษย์พยายามนำตัวเองให้ออกห่างจากการค้นหาความหมายของชีวิต เขาไม่สนใจว่าชีวิตคืออะไร โดยหันไปหาความสุขประสามนุษย์แทน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความสุขชั่วครั้งชั่วคราว ในไม่ช้า มันจะทำให้พวกเขาเป็นทุกข์และไม่พอใจกับชีวิตอีกครั้ง"

"ด้วยเหตุนี้เอง พระวาจาของพระเจ้าจะเป็นคำตอบให้กับการแสวงหาความหมายของชีวิต มันเป็นความจริงที่ว่า พระวาจาของพระเจ้าได้ถูกหว่านลงในดินดีและทำให้เกิดผลผลิตจำนวนมาก แม้ในเวลายากลำบาก, ความไม่เข้าใจกัน, การเบียดเบียนข่มเหง และการเข่าฆ่ากัน พระวาจาของพระเจ้าก็ยังคงความจริงและทำให้เราเปิดใจให้กับสิ่งดีงามและตอบรับคำเชิญของพระเจ้าให้เรามาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์"

"ดังนั้น พ่อหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โอกาสที่พ่อสถาปนาสมณสภาเพื่อส่งเสริมการประกาศพระวรสารใหม่ พ่อหวังว่า หน่วยงานนี้จะช่วยเหลือพันธกิจพระศาสนจักรอย่างเต็มที่ในการนำผู้คน เฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองไปด้วยมรดกแห่งคริสตศาสนา ให้กลับมาหาพระเจ้าอีกครั้ง แม้ตอนนี้ เขาจะมองพระเจ้าเป็นศัตรูหรือคนแปลกหน้า พวกท่านก็ต้องนำพระเจ้าให้ไปสัมผัสจิตใจพวกเขา" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย


Comments